GM ประสบความสำเร็จในการพัฒนาเซลล์แบตเตอรี่ LMR ที่ราคาถูกลง มีความหนาแน่นของพลังงานมากขึ้น ส่งผลให้วิ่งได้ไกล 643 ก.ม./การชาร์จหนึ่งครั้ง
แบตเตอรี่ถือเป็นต้นทุน 20-30% ของรถยนต์ไฟฟ้าหนึ่งคัน ปกติแล้วรถยนต์ EV ส่วนใหญ่ จะใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่ประกอบด้วยโคบอลต์และนิกเกิล ซึ่งแนวโน้มของราคาแร่เหล่านี้มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ตามความต้องการของตลาด นั่นทำให้ผู้ผลิตรถ EV พยายามพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อลดต้นทุน แต่วิ่งในระยะทางที่ไกลขึ้น
ล่าสุดทาง General Motors (GM) ได้ร่วมมือกับ LG Energy Solution พัฒนาแบตเตอรี่ชนิดใหม่ สำหรับรถ EV ที่วิ่งในระยะทางที่ไกลขึ้นในราคาที่เอื้อมถึงได้มากขึ้น แบตเตอรี่นี้มีชื่อเรียกว่า แบตเตอรี่ลิเธียมแมกนีเซียมริช (LMR) ซึ่งใช้เซลล์แบบปริซึ่ม มีลักษณะเป็นทรงสี่เหลี่ยม ต่างจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนในรถยนต์ EV ส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นทรงกระบอก ทำให้สามารถบรรจุติดตั้งในรถบรรทุกและ SUV ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
จุดเด่นก็ คือ ใช้แร่ที่มีราคาไม่แพงอย่างแมกนีเซียมเป็นองค์ประกอบหลัก แทนการใช้แร่ที่มีราคาสูงอย่าง โคบอลต์และนิกเกิล ที่สำคัญยังมีความหนาแน่นของพลังงานมากกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนถึง 33% ส่งผลให้วิ่งได้ไกล 643 กิโลเมตร/การชาร์จหนึ่งครั้ง ในขณะที่อายุการใช้งานนั้นพอๆ กับแบตเตอรี่นิกเกิล แต่ยังไม่มีการเปิดเผยว่าเทคโนโลยีใหม่นี้จะทำให้ราคาแบตเตอรี่ลดลงมากแค่ไหน
ทาง GM ตั้งเป้าที่จะเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายแรกที่นำเทคโนโลยีนี้มาใช้งาน พร้อมวางแผนที่จะผลิตแบตเตอรี่เพื่อวางขายเชิงพาณิชย์ในสหรัฐ ภายในปี 2028
ฝั่งคู่แข่งอย่าง Ford ก็เพิ่งประกาศความก้าวหน้าในการพัฒนาแบตเตอรี่ LMR ของตนเอง ด้วยการผลิตเซลล์ LMR ในสายการผลิตนำร่อง พร้อมขยายสเกลการพัฒนาเซลล์แบตเตอรี่ LMR เพื่อนำแบตเตอรี่ไปใช้งานกับรถยนต์ที่จะออกมาในอนาคตก่อนปี 2030 นี้
ที่มา fastcompany