หลังจาก Apple ได้เปิดตัว MacBook Air M4 เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา และรุ่นใหม่นี้ก็ปรับราคาลดลง เริ่มต้น 999 เหรียญ หรือ 34,900 บาท แล้วรุ่นนี้เกิดมาเพื่อใครกันแน่ เพราะในยุคนี้ปี 2025 มีตัวเลือกแล็ปท็อปหลากหลายรุ่นให้เลือก
อย่างแรกสมชื่อของ MacBook Air M4 คือ ใช้ชิปประมวลผลรุ่นใหม่ล่าสุดอย่างชิป M4 ซึ่งทำให้ไลน์อัป MacBook ปัจจุบันทุกรุ่นนั้นใช้ชิปรุ่นใหม่หมดแล้ว และมีการปรับปรุงกล้องเว็บแคมใหม่ 12MP ความละเอียด 1080p รองรับฟีเจอร์ Center Stage และ Desk View
แม้ว่า MacBook Air M4 นี้จะยังคงใช้ดีไซน์เดิม ที่เปิดตัวครั้งแรกภายในงาน WWDC 2022 ตัวเครื่องเหลี่ยมขอบมน เพิ่มช่องชาร์จ MagSafe 3 หน้าจอมีติ่ง แต่รอบนี้ Apple ได้เพิ่มตัวเลือกสีเครื่องใหม่อย่าง ‘Sky Blue’ หรือ ‘สกายบลู’
จากการทดลองจับตัวเครื่องจริงสี ‘Sky Blue’ พบว่า สีนั้นตรงปกตรงกับตัวชื่อ มาในโทนสีฟ้าสดใสในสภาพแสงปกติ แต่หากกระทบแสงในบางมุมนั้น ตัวเครื่องก็จะออกมาในโทนสีเทาอ่อน และเทาเข้ม เรียกได้ว่า ซื้อ 1 สีเหมือนได้หลายสีในเครื่องเดียวเลย รวมไปถึง Apple ก็ออกวอลเปเปอร์ใหม่ที่ตรงกับสี ‘Sky Blue’ ด้วย
นอกจากตัวเลือกสีใหม่อย่าง ‘Sky Blue’ แล้ว MacBook Air M4 ยังมีตัวเลือกสี ‘เงิน’, ‘สตาร์ไลท์’ และ ‘มิดไนท์’
ในรอบนี้ Apple ยังไม่ได้ปรับปรุงสเปกหน้าจอของ MacBook Air M4 โดยหน้าจอยังมีให้เลือก 2 ขนาดได้แก่ 13 นิ้ว และ 15 นิ้ว Liquid Retina ความเที่ยงตรงของสี DCI-P3 ความสว่างหน้าจอสูงสุด 500 นิต จากการทดลองนำไปใช้จริงพบว่า หากเร่งความสว่างจอสูงสุดใช้งานในที่ทำงาน หรือสตูดิโอก็พบว่า สว่างเพียงพอใช้งานในชีวิตประจำวัน แต่หากนำไปใช้งานกลางแจ้งแสงแดดประเทศไทยก็พบว่า จอไม่สู้แสง มองคอนเทนต์ในหน้าจอค่อนข้างยาก
จึงสรุปได้ว่า เครื่องรุ่นนี้เหมาะใช้งานในสถานที่มีแสงกระทบจอที่ไม่มาก หรือหากใครที่เป็นสายจริงจัง ก็ยังแนะนำไป MacBook Pro เพราะให้สเปกจอที่เหนือกว่า
นอกจากสีตัวเครื่องใหม่ MacBook Air M4 รุ่นนี้ก็ได้รับการอัปเกรดฮาร์ดแวร์กล้องเว็บแคมใหม่ 12MP ความละเอียด 1080p รองรับฟีเจอร์ Center Stage วิดีโอคอลแบบจับใบหน้า และฟีเจอร์ Desk View ตัวกล้องส่องด้านหน้าเครื่อง ให้มุมมองภาพแบบ Bird Eye View ตอบโจทย์กับใครที่อยากจะโชว์ของ หรือแลคเชอร์ระหว่างการวิดีโอคอล
โดยในรอบนี้ไฮไลท์เด็ดสุดของ MacBook Air รุ่นใหม่ล่าสุดคือ ชิป M4 ซึ่งชิปรุ่นนี้ก็ทำให้ MacBook Air รุ่นใหม่ไม่ได้เป็นแล็ปท็อปสำหรับคนทั่วไป นักเรียน นักศึกษา อีกต่อไป แต่ขึ้นไปอยู่บนเลเวล ‘เครื่องทำงานจริงจัง’ เหมาะสำหรับผู้ใช้เริ่มต้น จนไปถึงระดับกลาง
ประสิทธิภาพของชิป M4 รองรับการใช้งานการเรนเดอร์วิดีโอความละเอียด 4K 60fps ด้วยโปรแกรม Render หรือการตัดต่อวิดีโอผ่านโปรแกรม Final Cut หรือ Adobe Premiere Pro รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
นอกเหนือจาการใช้งานการตัดต่อ ชิป M4 ยังสามารถประมวลผล AI บนตัวเครื่องได้ทั้ง Apple Intelligence ทั้งหมดเช่น ช่วยสรุปเนื้อหา Writing Tools, สั่ง ChatGPT เขียนสูตรอาหาร และ Clean Up ลบวัตถุภายในภาพ นอกจากนี้ตัวชิปยังรองรับการรัน LLM (Large Language Model) แบบไม่ต้องต่ออินเทอร์เน็ต แต่ยังมีข้อจำกัดคือ ยังรองรับแค่ภาษาอังกฤษเท่านั้น
อีกหนึ่งอานิสงส์ของชิป M4 ตัวแรงคือ ทำให้ MacBook Air รุ่นใหม่ รองรับการต่อจอนอก 2 จอความละเอียดสูงสุด 6K หรือ Apple Pro Display XDR ผ่านการเสียบพอร์ต Thunderbolt 4 แบบไม่ต้องพับจอ ซึ่งทำให้มีจอใช้งานรวมสูงสุด 3 จอ รวมจอหลัก
ส่วนของอายุการใช้งาน แบตเตอรี่ของ MacBook Air M4 นั้นใช้งานได้สูงสุด 18 ชั่วโมง ซึ่งสามารถใช้งานจบได้ทั้งวันแบบสบาย ๆ
สรุปสุดท้ายแล้ว MacBook Air M4 นี้จะเหมาะสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปทำงานเอกสาร ใช้เว็บเบราว์เซอร์, นักเขียนที่ต้องพกพาใช้งานทุกวันน้ำหนักเบา, กลุ่มครีเอเตอร์หน้าใหม่ใช้สำหรับการตัดคลิปเริ่มต้น และนักเรียนนักศึกษาที่ต้องการหาแล็ปท็อปเครื่องแรกใช้งานได้ไปอีกหลายปีแม้ว่าจะจบการศึกษาไปแล้ว
ซึ่ง MacBook Air M4 นี้เป็นแล็ปล็อปรุ่นเริ่มต้นของ Apple และให้ชิปรุ่นเริ่มต้นอย่าง M4 รวมไปถึงตัวเครื่องไม่มีพัดลมระบายความร้อน จึงไม่เหมาะกับคนที่ใช้งานแบบโหลดหนัก ๆ หรือ ตัดต่อวิดีโอ 8K ซึ่งกลุ่มนี้เหมาะกับ MacBook Pro มากกว่า