มองเราเตอร์ Wi-Fi เหมือนเดิมไม่ได้อีกต่อไป ล่าสุดนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา พัฒนาเทคโนโลยีตรวจจับคนแบบ 3 มิติใหม่ล่าสุด โดยใช้แค่สัญญาณ Wi-Fi ที่มีอยู่ทุกครัวเรือน ทำงานในที่มืดได้สบาย ๆ
สำหรับงานวิจัยใหม่นี้มีชื่อว่า ‘DensePose from WiFi‘ พัฒนาขึ้นโดยทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัย Carnegie Mellon University (CMU) ในสหรัฐฯ โดยเทคโนโลยีนี้จะสามารถตรวจจับคนทั้งรูปร่าง และท่าทางของมนุษย์แบบ 3 มิติได้ ไม่จำเป็นต้องใช้กล้อง หรืออุปกรณ์พิเศษใด ๆ ตรวจจับ แต่ใช้สัญญาณ Wi-Fi ที่ได้มาจากเราเตอร์ที่มีติดตั้งอยู่ทั่วไป
ข้อดีของการใช้สัญญาณ Wi-Fi คือทำงานในที่มืดได้ และยังสามารถตรวจจับมนุษย์ทะลุกำแพงได้ด้วย การมาของงานวิจัยนี้ก็อาจนำไปสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ เช่น
หลักการทำงานของ ‘DensePose from WiFi’ คือใช้สัญญาณจากคลื่นสะท้อนกับร่างกายของมนุษย์ ก่อให้เกิดรูปแบบของคลื่นที่จะถูกเปลี่ยนไปตามการเคลื่อนไหว และทำงานร่วมกับโมเดล AI ‘DensePose’ ถูกพัฒนาขึ้นโดย Meta ผลลัพธ์ที่ได้คือ โมเดล 3 มิติร่างกายมนุษย์ที่เคลื่อนไหวอย่างแม่นยำ
จากงานวิจัยใหม่นี้ เทคโนโลยีการตรวจจับคนด้วยสัญญาณ Wi-Fi นั้นก็ไม่ใช่ของใหม่ซะทีเดียว แต่เราเตอร์แบรนด์ Linksys ก็เคยเปิดตัวบริการ Linksys Aware ที่แจ้งเตือนว่า มีการเคลื่อนไหวภายในบ้านเท่านั้น แต่ไม่ได้แสดงออกมาเป็นภาพ 3 มิติ
อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีนี้สร้างความไม่สบายใจว่า อาจมีคนนำเทคโนโลยีนี้ไปสอดส่องผู้คนในบ้าน หรือสถานที่ส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของบ้าน ทำให้เกิดการละเมิดความเป็นส่วนตัวในที่สุด
ซึ่งทางนักวิจัยก็ได้ออกมาเน้นยำว่า หากเทคโนโลยีตรวจจับคนโดยใช้สัญญาณ Wi-Fi ถูกใช้อย่างแพร่หลาย ควรมีแนวทางการใช้งานที่ถูกต้อง มีจริยธรรม และกรอบกฎหมายใช้งานอย่างไรให้ชัดเจน
ที่มา : Medium