เปิดตัว Claude 4: AI เจเนอเรชันใหม่ ชูโรงด้าน Coding และการใช้เหตุผลขั้นสูง พร้อมฟีเจอร์ “Extended Thinking”

THE SUMMARY:

Anthropic บริษัทวิจัยและพัฒนา AI ประกาศเปิดตัว Claude 4 ชุดโมเดล AI เจเนอเรชันล่าสุด ประกอบด้วย Claude Opus 4 และ Claude Sonnet 4 ชูความสามารถที่ก้าวกระโดดในด้านการเขียนโค้ด การให้เหตุผลในงานที่ซับซ้อน และความสามารถใหม่ๆ อย่าง “Extended Thinking with Tool Use” ที่จะมาปฏิวัติวิธีการทำงานร่วมกับ AI

Claude Opus 4: AI สำหรับงานซับซ้อนและ Coding

Anthropic โชว์ผลงาน Claude Opus 4 ว่าเป็นโมเดลที่มีความสามารถในการเขียนโค้ดที่ดีที่สุดในโลก สามารถทำคะแนนได้อย่างยอดเยี่ยมบน SWE-bench (72.5%) และ Terminal-bench (43.2%) ออกแบบมาเพื่องานที่ต้องการการประมวลผลที่ซับซ้อนและต่อเนื่องยาวนาน (long-running tasks) รวมถึงเวิร์กโฟลว์ของ Agent ที่ซับซ้อน โดยสามารถทำงานต่อเนื่องได้หลายชั่วโมง นอกจากนี้ Opus 4 ยังมาพร้อมความสามารถด้านหน่วยความจำ (memory capabilities) ที่เหนือกว่ารุ่นก่อน ๆ มาก โดยเฉพาะเมื่อนักพัฒนาให้สิทธิ์เข้าถึงไฟล์ในเครื่อง (local files) จะสามารถสร้างและจัดการ “memory files” เพื่อเก็บข้อมูลสำคัญได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Claude Sonnet 4: ประสิทธิภาพและความแม่นยำที่เหนือกว่า

สำหรับโมเดลตัวรองคือ Claude Sonnet 4 เป็นการอัปเกรดครั้งสำคัญจาก Claude Sonnet 3.7 มอบประสิทธิภาพที่เหนือกว่าทั้งในด้านการเขียนโค้ด (ทำคะแนน 72.7% บน SWE-bench) และการให้เหตุผล พร้อมทั้งความสามารถในการทำตามคำสั่งได้แม่นยำยิ่งขึ้น Sonnet 4 ยังคงเน้นความสมดุลระหว่างประสิทธิภาพและความคุ้มค่า เหมาะสำหรับงานหลากหลายประเภททั้งภายในและภายนอกองค์กร โดยมีการปรับปรุงด้านการควบคุม (steerability) เพื่อให้นักพัฒนาสามารถปรับแต่งการทำงานได้ละเอียดยิ่งขึ้น

ของใหม่ “Extended Thinking” และการใช้เครื่องมือ (Tool Use)

อีกฟีเจอร์เด็ดของ Claude 4 คือ Extended Thinking with Tool Use (Beta) ซึ่งช่วยให้โมเดลสามารถใช้เครื่องมือภายนอก เช่น การค้นหาเว็บ (web search) ในระหว่างกระบวนการคิดที่ยาวนานขึ้น ทำให้ Claude สามารถสลับระหว่างการใช้เหตุผลภายในกับการใช้เครื่องมือเพื่อปรับปรุงคุณภาพของคำตอบได้ ทั้ง Opus 4 และ Sonnet 4 ยังรองรับการใช้เครื่องมือหลายอย่างพร้อมกัน (parallel tool use)

ความสามารถใหม่และ API ที่ทรงพลังยิ่งขึ้น

นอกจากการปรับปรุงโมเดลหลักแล้ว Anthropic ยังได้เปิดตัว Claude Code อย่างเป็นทางการ (Generally Available) ขยายความสามารถให้นักพัฒนาทำงานร่วมกับ Claude ได้หลากหลายรูปแบบมากขึ้น โดยรองรับ background tasks ผ่าน GitHub Actions และการผนวกรวมแบบเนทีฟกับ VS Code และ JetBrains ทำให้สามารถแสดงผลการแก้ไขโค้ดได้โดยตรงในไฟล์

Anthropic API ยังมีความสามารถใหม่ 4 อย่างเพื่อช่วยให้นักพัฒนาสร้าง AI Agent ที่ทรงพลังยิ่งขึ้น ได้แก่:

  • เครื่องมือสำหรับการรันโค้ด (Code execution tool)
  • MCP connector
  • Files API
  • ความสามารถในการแคชพรอมต์ (Cache prompts) ได้นานถึงหนึ่งชั่วโมง

โมเดลแบบ Hybrid และความปลอดภัย

Claude Opus 4 และ Sonnet 4 เป็นโมเดลแบบไฮบริดที่สามารถตอบสนองได้เกือบจะทันทีสำหรับงานทั่วไป และสามารถเข้าสู่โหมด “extended thinking” สำหรับงานที่ต้องการการวิเคราะห์เชิงลึก โมเดลใหม่นี้ยังมีแนวโน้มที่จะพยายามหาทางลัดหรือช่องโหว่ (shortcut or loophole behavior) น้อยลงถึง 65% เมื่อเทียบกับ Sonnet 3.7 ในงานที่ต้องใช้ Agent นอกจากนี้ Anthropic ยังคงให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของ AI โดยมีการทดสอบและประเมินอย่างเข้มข้นเพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มความปลอดภัยสูงสุด รวมถึงการนำมาตรการสำหรับ AI Safety Levels ที่สูงขึ้น เช่น ASL-3 มาปรับใช้

ราคาและการเข้าถึง

แม้จะมีการอัปเกรดความสามารถอย่างมาก แต่ราคาสำหรับ Claude Opus 4 และ Sonnet 4 ยังคงเท่ากับโมเดล Opus และ Sonnet รุ่นก่อนหน้า โดย Opus 4 อยู่ที่ $15 (input) / $75 (output) ต่อล้านโทเค็น และ Sonnet 4 อยู่ที่ $3 (input) / $15 (output) ต่อล้านโทเค็น

เรียกว่าสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ของ AI จริง ๆ ตั้งแต่ Google I/O ที่จัดเต็ม Gemini ชุดใหม่ ฝั่ง OpenAI ก็ประกาศซื้อบริษัท io ของ Jony Ive เพื่อร่วมพัฒนาฮาร์ดแวร์ AI จนปิดสัปดาห์ด้วยการเปิด Cluade 4 โลกของ AI นี่เปลี่ยนเร็วจริง ๆ

ที่มา: anthropic

บรรณาธิการ CEEi ดูแลเนื้อหาด้านเทคโนโลยี Gadget ทุกประเภท

Advertisement

Sidebar Search
Popular Now
Loading

Signing-in 3 seconds...

Signing-up 3 seconds...