ซิกเว่ เบรกเก ประกาศภารกิจหลักสร้างวัฒนธรรมองค์กร ปั้นแบรนด์ “ทรู คอร์ปอเรชั่น” ให้เป็นแบรนด์ที่ลูกค้า “เชื่อใจ” พร้อมยกระดับ AI ให้คนไทยเข้าถึงได้ทุกคน
หลังจากที่ทรู คอร์ปอเรชั่นได้ประกาศแต่งตั้งคุณซิกเว่ เบรกเก ให้มารับตำแหน่ง “ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มธุรกิจโทรคมนาคมและดิจิทัล เครือเจริญโภคภัณฑ์” ควบกับตำแหน่งประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มาวันนี้ก็การจัดงาน ซิกเว่ พบเพื่อนสื่อ เพื่อเผยแนวทางของ “ทรู คอร์ปอเรชั่น” ว่าจะไปในทิษทางไหน หลังจากควบรวมกับดีแทคจนกลายเป็นบริษัท Tech Company
คุณซิกเว่ มองว่า เทคโนโลยีดิจิทัลนั้นเข้ามา Disrupt ทุกภาคส่วน พฤติกรรมผู้บริโภคก็เปลี่ยนไป โมเดลธุรกิจก็เปลี่ยน ทำให้ทั้งภาครัฐ/ภาคเอกชนต้องปรับตัวตามไปด้วย
ไทยถือเป็นประเทศในภูมิภาคอาเชียนที่มีศักยภาพทั้งด้านโทรคมนาคมและเทคโนโลยี ซึ่งการควบรวมระหว่าง TRUE และ dtac ที่เกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีที่แล้วถือเป็นการสร้างความแข็งแกร่ง เอาจุดแข็งมารวมกันเปลี่ยนจากบริษัทโทรคมนาคมให้เป็นบริษัทเทคโนโลยี
การเปลี่ยนผ่านมาสู่บริษัทเทคโนโลยีนั้นทำให้การแข่งขันเปลี่ยนไปจากเดิม ที่มีคู่แข่งแค่ในวงการโทรคมนาคม สิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือ คู่แข่งที่เป็นบริษัทเทคจากต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็น Google , Apple จนไปถึงแพลตฟอร์มอย่าง TikTok สิ่งที่คุณซิกเว่ ให้ความสำคัญก็คือ ชู “ลูกค้า” เป็นหัวใจสำคัญ วิเคราะห์ว่าลูกค้าคือใคร พร้อมสร้างความเชื่อมั่นผ่านประสบการณ์ใช้งานที่ไร้รอยต่อผ่านเครือข่ายและบริการที่มีคุณภาพ ให้ได้รับความพึงพอใจสูงสุดเพื่อเข้าไปครองใจ
ที่ผ่านนั้นหลังจากควบรวมทรู-ดีแทคนั้นก็มีการขยายเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้
นอกจากนั้นภายในปีนี้เราจะได้เห็นการรวมเครือข่าย TRUE-dtac ให้เป็นโครงข่ายเดียวกันแบบไร้รอยต่อ (Network Modernization) หลังจากที่ประสบความสำเร็จไปแล้วกับ “ภูเก็ตโมเดล” ที่ถือเป็นจังหวัดแรกที่รวมเครือข่ายแบบ 100% คาดว่าจะแล้วเสร็จทั่วประเทศในเดือนกันยายนนี้
ต่อมาคือเรื่องของการพัฒนาเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์คนไทย โดยเฉพาะด้าน AI เพื่อให้คนไทยเข้าถึงการใช้งานได้ทุกคน ตั้งแต่องค์กรขนาดใหญ่, SME และคนทั่วไป ให้ใช้งานโมเดลภาษาไทยได้ด้วยการจับมือกับพันธมิตรอย่าง AWS หรือ Microsoft ซึ่งการพัฒนาโมเดลในไทยจะช่วยลดต้นทุนการพัฒนาลงมาได้
ทรูสามารถนำ AI มาช่วยในการให้บริการเป็นรายบุคคล รวมถึงยกระดับสังคมให้ทันสมัยขึ้นผ่านเทคโนโลยี IoT ที่ทันสมัย เชื่อมต่อทุกภาคส่วนเข้าด้วยกันโดยการใช้เซนเวอร์อัจฉริยะ กล้อง CCTV ไฟจราจรยกระดับการเชื่อมต่อสู่เมืองอัจฉริยะ
แน่นอนว่าสิ่งที่จะทำให้ ทรู ก้าวไปถึงจุดนั้นได้ก็ต้องเริ่มจากการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่มีหัวใจสำคัญคือ มีลูกค้าเป็นศูนย์กลางด้วยแนวคิดแบบ Outside in คิดในมุมมองลูกค้าว่าต้องการอะไรแล้วสร้างความพึงพอใจสูงสุดแบบเดียวกับที่ Happy dtac เคยทำสำเร็จมาแล้ว ด้านผู้นำองค์กรเองก็ต้องเปลี่ยนแปลง ต้องเป็นผู้นำที่ดี ทำให้เห็น รวมถึงมีความโปร่งใสตรวจสอบได้ พร้อมสร้างพันธมิตรเพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าและเติบโตไปพร้อมกัน
“ภารกิจสำคัญทั้ง 3 ด้านนี้จะเป็นรากฐานในการเติบโตอย่างยั่งยืนของ ทรู คอร์ปอเรชั่น โดยเรามุ่งมั่นที่จะพัฒนาทั้งสินค้า บริการ วิธีการทำงาน และวัฒนธรรมองค์กร เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าของเรา พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านโทรคมนาคมและเทคโนโลยีที่มีลูกค้าเป็นศูนย์กลางอย่างแท้จริง” นายซิกเว่ กล่าวในที่สุด