มหาวิทยาลัยแห่งชาติคยองซังประกาศว่า ทีมวิจัยของศาสตราจารย์คิม มยองอก (Kim Myung-ok) จากภาควิชาวิทยาศาสตร์ชีวภาพและภาควิชาวิทยาศาสตร์ชีวภาพประยุกต์ ได้พัฒนาวัคซีนตัวแรกของโลกที่สามารถป้องกันและรักษาโรคอัลไซเมอร์ได้ในเวลาเดียวกัน
มหาวิทยาลัยแห่งชาติคยองซังประกาศว่า ทีมวิจัยของศาสตราจารย์คิม มยองอก (Kim Myung-ok) จากภาควิชาวิทยาศาสตร์ชีวภาพและภาควิชาวิทยาศาสตร์ชีวภาพประยุกต์ ได้พัฒนาวัคซีนตัวแรกของโลกที่สามารถป้องกันและรักษาโรคอัลไซเมอร์ได้ในเวลาเดียวกัน
นับเป็นก้าวสำคัญของการแพทย์ เมื่อสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (FDA) อนุมัติให้ตรวจเลือดเพื่อตรวจหาโรคอัลไซเมอร์เป็นครั้งแรก ช่วยให้วินิจฉัยอาการระยะเริ่มต้นได้รวดเร็วขึ้น ตอนนี้แนวโน้มคนทั่วโลกป่วยเป็นอัลไซเมอร์มากขึ้นเรื่อยๆ แซงหน้าจำนวนผู้ป่วยมะเร็งเต้านมและมะเร็งต่อมลูกหมากรวมกันซะอีก ปัจจุบันประชากรกลุ่มอายุ 65 ปีขึ้นไปป่วยเป็นโรคนี้ถึง 10% ซึ่งในปี 2050 ตัวเลขจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าตัว แม้แพทย์พยายามค้นหาวิธีรักษา แต่ก็ทำได้แค่การชะลอความเสื่อมถอยของสมองเท่านั้น นั่นหมายความว่า ยิ่งคัดกรองอาการได้เร็ว รักษาได้ไวก็ทำให้อาการเสื่อมของสมองเกิดขึ้นช้าลง เดิมทีนั้นแพทย์จะใช้วิธีการวินิจฉัยด้วยคราบโปรตีนอะไมลอยด์ ซึ่งจะใช้การตรวจผ่านการสแกนสมองด้วยเครื่อง PET (Positron Emission Tomography) ซึ่งก็มีข้อเสียที่ค่าใช้จ่ายค่อนข้างแพงและต้องมีการฉายรังสีควบคู่ไปด้วย นั่นจึงเกิดความพยายามในการคัดกรองผู้ป่วยคือ การตรวจเลือด