ด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารที่เปลี่ยนไป ทำให้คนส่งจดหมายน้อยลง ตู้ไปรษณีย์แดงจึงมีคนใช้งานน้อยลง วันนี้ CEEi จะพาไปดูการปรับตัวของ Royal Mail จากอังกฤษ ที่อัปเกรดตู้เก่าให้รองรับการส่งพัสดุที่มีความต้องการมากขึ้น
ถ้าใครเคยไปเที่ยวอังกฤษ น่าจะเคยเห็นตู้ไปรษณีย์สีแดงที่เป็นเอกลักษณ์ตั้งอยู่ตามข้างทาง ซึ่งดีไซน์ที่เห็นนั้นได้ออกแบบ และใช้งานมากว่า 175 ปีแล้ว แทบไม่มีการปรับเปลี่ยนอะไรเลย
ด้วยการมาของอีเมล ส่งผลให้คนส่งจดหมายน้อยลงมาก แต่ฝั่งของการขนส่งพัสดุนั้นเติบโตอย่างรวดเร็วและมีการแข่งขันสูงมาก แม้ตู้ไปรษณีย์แบบนี้ยังใช้งานอยู่ถึง 115,000 ตู้ แต่ก็รับได้แค่จดหมายและพัสดุขนาดเล็กเท่านั้น
ทาง Royal Mail จำเป็นต้องปรับตัว ด้วยการทดสอบดีไซน์แบบใหม่เพื่อให้รองรับการส่งพัสดุขนาดใหญ่ขึ้น ตอบโจทย์เทรนด์ของการซื้อขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ รวมถึงการส่งคืนสินค้าที่มีปัญหา
การเปลี่ยนแปลงหลัก ๆ คือ ได้เพิ่มช่องสำหรับส่งพัสดุขนาดใหญ่ พร้อมติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพื่อจ่ายไฟฟ้าให้เครื่องสแกนบาร์โค้ด พร้อมกล้องด้านหน้า นำไปติดตั้งเพื่อทดสอบใช้งาน 5 จุดในย่านแคมบริดจ์เชียร์ และเฮิร์ตฟอร์ดเชียร์ และอีก 2 จุดในเมืองแวร์ก่อน
เวลาที่ต้องการส่งพัสดุ ให้เรากดปุ่มที่ตัวเครื่อง จากนั้นสแกนบาร์ดโค้ดของพัสดุแล้วเปิดช่องด้านหน้า หย่อนพัสดุลงในตู้ ซึ่งตัวตู้ไปรษณีย์จะเชื่อมต่อเครือข่าย 4G และใช้ข้อมูลพิกัดเพื่อยืนยันการส่งสินค้าออกไปผ่านแอปฯ บนมือถือของ Royal Mail
ในช่วงแรกนั้น จะทดสอบการทำงานเชิงเทคนิค และเปิดรับฟังความของประชาชนที่ใช้งานก่อน หากได้รับผลการตอบรับในเชิงบวก ก็จะขยายการใช้งานไปยังตู้ไปรษณีย์อีก 115,000 ตู้ทั่วสหราชอาณาจักร
เรียกว่าเป็นอีกการปรับตัวที่น่าสนใจ ให้เข้ากับพฤติกรรมของผู้ใช้ที่เปลี่ยนไป ที่ไทยเองก็สามารถเอาปรับใช้ได้โดยเฉพาะต่างจังหวัดที่อาจจะไม่ได้ศูนย์บริการที่มากมายเท่ากับเมืองใหญ่ ๆ
ที่มา sky