ในงาน WWDC25 ที่ผ่านมา ทีม Ceemeagain ได้มีโอกาสสัมภาษณ์กับทีมงานผู้อยู่เบื้องหลังการสร้างเกม puffies. กับ คุณทานิน อังเดร โฮห์มานน์ (Tanin Andre Hohmann) ตัวแทนจาก Lykke Studios ถึงแรงบันดาลใจในการสร้างเกม และการทำงานของทีม Lykke Studios ที่ประสบความสำเร็จ จนครั้งหนึ่งเคยได้รับรางวัลจาก Apple Design Awards มาแล้ว
ผมมาจาก Lykke Studios แห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เราเป็นทีมเล็ก ๆ ที่มี 7 คน และเราเชี่ยวชาญในเกมแนว ‘Cozy Puzzle Games’ (เกม Puzzle ที่เน้นการผ่อนคลายสมอง) และเราเคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Apple Design Awards มาแล้ว และเคยคว้ารางวัลมาได้ครั้งหนึ่ง (จากเกม Stitch.) และในครั้งนี้เราได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงในผลงานเกมล่าสุดของพวกเราที่มีชื่อว่า “puffies.” ซึ่งมีให้เล่นอยู่บน Apple Arcade
สำหรับครั้งนี้ “puffies.” มันเป็นเกมใหม่ทั้งหมดเลย แต่มันมีเอกลักษณ์ของทีมเราอยู่ในผลงานค่อนข้างชัดเจน เพราะเราเป็นทีมที่ทำเกม Puzzle ด้วยความประณีต
ย้อนกลับไปตอนที่เรากำลังพัฒนาเกม puffies. ผมคิดว่าทั้งหมดมันเริ่มต้นมาจากแนวคิดของสติกเกอร์นูน หรือสติกเกอร์ 3 มิติ (Puffy Sticker) และท้ายที่สุดคำว่า Puffy ก็กลายมาเป็นชื่อเกมด้วยเลย
ตอนที่เรายังเด็ก ๆ เราก็เคยสะสมพวกสติกเกอร์นูนและอัลบั้มต่าง ๆ แล้วเราก็เอาแต่ละอย่างมาติดรวมกันบนกระดาษ เพื่อพยายามสร้างอะไรบางอย่างจากมัน ซึ่งคนในทีมของเราต่างก็เคยเล่นสิ่งนั้นมาก่อน แล้วเราก็คุยกันว่ามันก็มีเกมอยู่ในนั้นด้วยใช่ไหมล่ะ เราก็บอกกันว่า “ใช่ ๆ มันมีเกมอยู่ในนั้น”
ดังนั้น เราก็เริ่มจากการซื้อและรวบรวมสติกเกอร์ต่าง ๆ มามากมาย แล้วเราก็เริ่มเอามาติดบนกระดาษ เลื่อนไปมา แล้วผมก็ชอบความรู้สึกของสติกเกอร์จริง ๆ ที่พอสัมผัสหรือกดลงไปแล้ว มันทำให้เรารู้สึกได้จริง ๆ เราจึงรวบรวมสติกเกอร์พวกนั้นมา แล้วก็ติดมันลงไป ซึ่งท้ายที่สุดก็กลายมาเป็นการสร้างเกมนี้ขึ้นมาจริง ๆ
ผมเดาว่ามันเป็นสิ่งที่ Lykke Studios ทำบ่อย ๆ เหมือนกัน คือเรามองหาสิ่งที่เราชอบมาก ๆ สิ่งที่สร้างแรงบันดาลใจให้เรา โดยเฉพาะตอนที่เรายังเด็กกว่านี้ และเราอยากจะนำความสุขและความสนุกสนานในวัยเด็กของเรา มาสู่โลกของโทรศัพท์ในยุคนี้
ในฐานะสตูดิโอขนาดเล็ก ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการสร้างเกม นับตั้งแต่เราทำงานร่วมกับ Apple Arcade บ่อยครั้ง เราไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องรายได้มากนัก แต่ผมคิดว่าส่วนที่สำคัญที่สุดอันดับแรก คือเราต้องการทำให้กลไกของเกมที่เราต้องการสร้างนั้นมันสมบูรณ์แบบและสนุก เพราะจากประสบการณ์ที่เรามี ตราบใดที่เรามุ่งเน้นไปที่การสร้างประสบการณ์ที่สนุกและเกมที่สนุก สิ่งอื่น ๆ จะตามมาเอง และนั่นคือสิ่งที่เราเริ่มต้นกันมากับเกม puffies.
ในระยะสั้น เรามองหาตัวชี้วัดที่เป็น “ตัวชี้วัดแฝง” เหมือนกับว่าถ้าคุณถามคนอื่นว่า “คุณคิดยังไงกับเกมล่ะ” แล้วคุณก็มีความรู้สึกตื่นเต้น คนที่ตอบก็คงพูดว่า “โอ้ มันสนุกมาก มันดีมาก ยอดเยี่ยมเลย” แต่นั่นมันไม่ใช่วิธีที่คุณจะตัดสินได้ว่าสิ่งที่เราสร้างมามันเวิร์ก
แต่สิ่งที่สำคัญกว่า คือการที่คุณลองให้สิ่ง ๆ นั้นกับใครบางคน แล้วคุณก็เฝ้าดูเขาอย่างใกล้ชิด จงดูว่าพวกเขากำลังทำอะไรกับสิ่งที่เราให้ไป ไม่ใช่แค่เชื่อว่าเขาพูดชมอะไรออกมา มันก็เหมือนกับการแสดงออกทางสีหน้า
และเทคนิคดั้งเดิมของผมคือ เราจะให้แอปพลิเคชันหรืออะไรบางอย่างที่พวกเขาสามารถเล่นได้ เราจะให้มันกับพวกเขา แล้วเราก็ปล่อยให้พวกเขาอยู่คนเดียว และคอยดูว่าพวกเขายังคงเล่นต่อไปหรือไม่เมื่อเราไม่อยู่ และเมื่อเขายังเล่นต่อ ตอนที่เราไม่อยู่ อย่างน้อยเราก็จะรู้ว่าเรากำลังมาถูกทางแล้ว
จริง ๆ มันเป็นเรื่องที่ธรรมดามากเลย คุณแค่ต้องโฟกัสไปที่การมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่ยอดเยี่ยมให้คนส่วนใหญ่สามารถสนุกได้ และนี่คือสิ่งที่ Lykke Studios ทำอยู่เสมอ เรากำลังสร้างเกมแนว ‘Cozy Puzzle’ ให้มันพิเศษขึ้น และนั่นคือจุดแข็งของเรา และที่ที่เรามีความสุขมากที่สุด
และถ้าเราพบความสุขในสิ่งที่เราทำ และสามารถแบ่งปันความสุขนั้นได้ มันก็เหมือนกับว่าผู้เล่นเกมของเราก็คงจะรู้สึกได้เหมือนกัน และนั่นคือส่วนหนึ่งของการเล่นเกม และถ้ามันสนุกมันก็ถือว่าเวิร์ก
การที่จะทำให้มันสนุกและใช้งานได้ มันต้องใช้ทั้งประสบการณ์ เวลา และความพยายาม พร้อมกับการทดสอบต่าง ๆ มีการถกเถียงกันภายในทีมมากมาย และนั่นก็เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างเกม แต่ท้ายที่สุดแล้ว ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับพลังของการทุ่มเท ความพยายาม และการมีแพชชัน
เราเป็นสตูดิโอขนาดเล็ก และด้วยสตูดิโอขนาดเล็กเราสามารถทำในสิ่งที่สตูดิโอขนาดใหญ่ไม่สามารถทำได้ และหนึ่งในนั้นคือการที่เรามีสมาชิกในทีมที่มีทักษะด้านต่าง ๆ สูง ในสิ่งที่พวกเขากำลังทำ เช่น เรามีทีมผู้ที่มีประสบการณ์และอยู่ในอุตสาหกรรมมาเป็นเวลา 12-16 ปี ในการสร้างเกม และทุกคนต่างรู้ว่าพวกเขากำลังทำอะไรอยู่ และทำไปเพื่ออะไร นั่นหมายความว่าจากมุมมองของการบริหารจัดการ มันช่วยได้มาก
และผมอยากจะบอกด้วยว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย ถ้าคุณมองจากมุมมองของศิลปะและความคิดสร้างสรรค์ จริง ๆ แล้วยังมีคนที่มีความคิดสร้างสรรค์เยอะมาก ๆ ในประเทศไทย ไม่ต้องสงสัยเลย และสำหรับเรากับสตูดิโออย่าง Lykke Studios เรามีโอกาสที่จะเลือกผู้มีความสามารถที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ เพื่อมาร่วมทีม
ดังนั้น มันเหมือนกับการจ้างคนที่ถูกต้องเหมาะสม คนที่รู้ว่าพวกเขากำลังทำอะไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเหล่าครีเอเตอร์
เป้าหมายของ Lykke Studios คือการสร้างเกมที่ทุกคนสามารถสนุกได้ตลอดเวลา และเราก็จะผลิตเกมใหม่ไปเรื่อย ๆ เลย