ทรูมันนี่ และทรู คอร์ปอเรชั่น ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เปิดตัวแคมเปญ “รีบโอน โจรยิ้ม” เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ หลังพบสถิติความเสียหายจากคดีออนไลน์สะสมพุ่งสูงกว่า 91,000 ล้านบาทในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ความร่วมมือครั้งนี้มุ่งให้ความรู้แก่ประชาชนเพื่อลดความเสี่ยงจากการถูกหลอกลวงทางออนไลน์
ข้อมูลจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติชี้ให้เห็นถึงสถานการณ์อาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่ทวีความรุนแรงขึ้น โดยนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2565 ถึงพฤษภาคม 2568 มีการรับแจ้งความคดีออนไลน์แล้วกว่า 900,000 คดี คิดเป็นมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 91,000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยวันละ 77 ล้านบาท ประเภทคดีที่พบมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่
ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงรูปแบบการหลอกลวงที่หลากหลายและปรับเปลี่ยนอยู่เสมอ ซึ่งเป็นความท้าทายสำคัญต่อความปลอดภัยในชีวิตประจำวันของประชาชน
แคมเปญ “รีบโอน โจรยิ้ม” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “Thai Cyber Ranger: ไทยรู้ ทันหลอก” จะดำเนินกิจกรรมตลอดไตรมาสที่ 3 ของปี 2568 โดยมุ่งเน้นการสื่อสารให้เข้าถึงประชาชนในวงกว้าง โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ที่ยังไม่คุ้นเคยกับเทคโนโลยีดิจิทัล
ในฝั่งของผู้ให้บริการทางการเงินดิจิทัล นายสถาพร คิ้วสุวรรณสุข ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด กล่าวว่า ทางบริษัทได้นำมาตรการด้านความปลอดภัยมาใช้เพื่อป้องกันผู้ใช้งาน ประกอบด้วยการพัฒนาระบบป้องกัน 3 ชั้น (TrueMoney 3X Protection) ที่ใช้เทคโนโลยี AI ตรวจจับธุรกรรมที่ผิดปกติแบบเรียลไทม์, การร่วมมือกับภาครัฐในการแจ้งเตือนและสนับสนุนข้อมูลเพื่อการสืบสวน, และการจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ใช้งานผ่านสายด่วน 1240 กด 6 เพื่อรับแจ้งเหตุและอายัดบัญชีตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะพัฒนาและเปิดตัวฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยเพิ่มเติมในอนาคต
ความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในครั้งนี้เป็นหนึ่งในแนวทางการรับมือกับปัญหาอาชญากรรมทางไซเบอร์ที่ซับซ้อนขึ้น โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจและยกระดับภูมิคุ้มกันทางดิจิทัลให้แก่ประชาชน เพื่อลดความเสี่ยงและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการทำธุรกรรมในโลกออนไลน์
ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการสร้างความตระหนักรู้นั้นเป็นก้าวสำคัญ แต่มาตรการเหล่านี้จะเพียงพอต่อการรับมือกับกลโกงของมิจฉาชีพที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้หรือไม่?