HPE เปิดตัวคลาวด์ส่วนตัวเสมือน (VPC) พร้อม On-Premise Option เสริมแกร่ง Aruba Central

CEEi TeamPR News1 month ago23 Views

บริษัท ฮิวเลตต์ แพคการ์ด เอนเตอร์ไพรส์ (HPE) ยกระดับโซลูชันการจัดการเครือข่ายอัจฉริยะ HPE Aruba Networking Central ไปอีกขั้น ด้วยการเปิดตัวตัวเลือกการใช้งานใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการด้านความปลอดภัยของข้อมูล (Data Sovereignty) และการควบคุมเครือข่ายที่ยืดหยุ่นยิ่งขึ้น โดยมาพร้อมกับ Virtual Private Cloud (VPC) สำหรับลูกค้าที่ต้องการความคล่องตัวแบบคลาวด์ ควบคู่ไปกับการควบคุมข้อมูลและข้อกำหนดด้านกฎระเบียบที่เข้มงวด รวมถึงตัวเลือกการติดตั้ง On-Premise ที่สามารถทำงานได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อคลาวด์

การขยายขีดความสามารถของ HPE Aruba Networking Central ในครั้งนี้ ทำให้ HPE กลายเป็นผู้ให้บริการรายเดียวในตลาดที่นำเสนอการบริหารจัดการเครือข่ายขั้นสูงที่ครอบคลุมที่สุด ไม่ว่าจะเป็น AI บนคลาวด์, VPC ส่วนตัว, ระบบติดตั้งภายในองค์กร, SaaS สาธารณะ หรือบริการเครือข่ายตามการใช้งาน (NaaS)

HPE Aruba Networking Central On-Premises for Government เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของการเปิดตัวครั้งนี้ โดยนำเสนอตัวเลือกการใช้งานพร้อมฮาร์ดแวร์เซิร์ฟเวอร์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน FIPS 140-2 ตอบโจทย์ข้อกำหนดด้านความปลอดภัยของภาครัฐโดยเฉพาะ โซลูชันนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานขององค์กร รองรับการใช้งานใหม่ๆ เช่น การเก็บรวบรวมข้อมูล AI, การเทรน และการประมวลผลอนุมาน AI ที่ต้องการการควบคุมดูแลที่เข้มงวด ผ่านทางตัวเลือกการติดตั้งแบบแยกขาดจากเครือข่ายภายนอก (Air-gapped On-premise) และ VPC บนคลาวด์

สำหรับผู้ใช้งานคลาวด์สาธารณะและ VPC จะได้รับประโยชน์จากเครือข่ายที่ครอบคลุมของ HPE GreenLake cloud ซึ่งมีศูนย์ข้อมูลกระจายอยู่ทั่วโลก ช่วยให้การใช้งานคลาวด์เป็นไปอย่างยืดหยุ่นและสอดคล้องกับข้อกำหนดในแต่ละภูมิภาค

ฟีเจอร์เด่นอื่นๆ ที่มาพร้อม HPE Aruba Networking Central:

  • AIOps ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง: ระบบเครือข่ายอัตโนมัติที่คอยตรวจสอบและวิเคราะห์ประสิทธิภาพของเครือข่ายแบบมีสายและไร้สายอย่างต่อเนื่อง พร้อมตรวจจับปัญหาได้อย่างแม่นยำ
  • AI-powered Automated Network Assistant: ผู้ช่วย AI ที่ทำหน้าที่เป็นสถาปนิกเครือข่าย คอยตรวจสอบ รวบรวมข้อมูล วินิจฉัย และให้คำแนะนำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ปิดช่องโหว่ด้านความปลอดภัย และป้องกันข้อผิดพลาดในการตั้งค่า
  • Full-Stack Network Observability: ขยายขีดความสามารถในการตรวจสอบ วิเคราะห์ และแก้ไขปัญหาเครือข่าย รวมถึงการตรวจวัดระยะไกลอัตโนมัติ (Telemetry) รองรับเครือข่ายแบบผสมผสานและแอปพลิเคชันไอทีหลักขององค์กร พร้อมสิทธิ์การใช้งาน OpsRamp Extension เป็นระยะเวลา 1 ปี เพื่อตรวจสอบอุปกรณ์จากผู้ให้บริการรายอื่น
  • Deep Visibility for Microsoft Teams: เพิ่มความสามารถในการติดตามการเคลื่อนไหวของข้อมูลในแอปพลิเคชัน Microsoft Teams แบบเรียลไทม์ ช่วยให้การโทรด้วยเสียงและวิดีโอมีคุณภาพที่ดียิ่งขึ้น
  • Comprehensive Integrated APIs: API แบบบูรณาการที่ครอบคลุม ช่วยให้สามารถแชร์ข้อมูลการตรวจสอบ วิเคราะห์ และแก้ไขปัญหาในเครือข่ายแบบฟูลสแต็ก รวมถึงเครื่องมือไอทีระดับองค์กรอื่นๆ ทำให้ HPE Aruba Network Central เป็น “แหล่งข้อมูลหลักที่เชื่อถือได้” ในการดูแลเครือข่าย

ฟิล มอตแทรม รองประธานบริหารและผู้จัดการทั่วไปของ HPE Aruba Networking กล่าวว่า “องค์กรต่างๆ ให้ความสำคัญกับข้อมูลมากขึ้น ทำให้ต้องการโซลูชันไอทีที่บริหารจัดการได้ทั้งในระดับ Local และ Regional ด้วยนวัตกรรมเหล่านี้ HPE สามารถตอบโจทย์ความท้าทายที่เร่งด่วนขององค์กรธุรกิจ หน่วยงานไม่แสวงหากำไร และหน่วยงานภาครัฐได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยความยืดหยุ่นในการใช้งานการจัดการเครือข่ายที่ไม่เคยมีมาก่อน เมื่อผสานรวมกับนวัตกรรม AI, ความปลอดภัย และการเชื่อมต่อที่ก้าวหน้าของ HPE ทำให้ HPE Aruba Networking Central นำเสนอแอปพลิเคชันการจัดการเครือข่ายที่ทรงพลังและหลากหลายที่สุดในตลาดได้อย่างต่อเนื่อง ช่วยให้องค์กรปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว และการควบคุมได้อย่างมั่นใจ”

HPE Aruba Networking Central พร้อมให้ใช้งานในรูปแบบการสมัครสมาชิกรายปี โดยมีรูปแบบใบอนุญาตพื้นฐาน (Foundation) และขั้นสูง (Advanced) และจำหน่ายผ่านพาร์ทเนอร์ของ HPE รวมถึงผู้ให้บริการการจัดการระบบ (MSP)

See Culture. Spark Innovation. Illuminate the Future.

Advertisement

Sidebar Search
Popular Now
Loading

Signing-in 3 seconds...

Signing-up 3 seconds...