เบอร์สัน (Burson) เอเจนซี่ด้านการสื่อสารระดับโลก ได้เปิดตัว Reputation Capital โซลูชันใหม่ล่าสุดที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งออกแบบมาเพื่อวิเคราะห์และวัดผล “ภาพลักษณ์องค์กร” (Reputation) ให้กลายเป็นสินทรัพย์ที่จับต้องและบริหารจัดการได้ โดยแพลตฟอร์มนี้สามารถชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงโดยตรงระหว่างชื่อเสียงขององค์กรกับผลลัพธ์ทางธุรกิจที่สำคัญ เช่น ราคาหุ้น, ยอดขาย และความสนใจของผู้บริโภค
โซลูชัน Reputation Capital นี้เป็นการยกระดับการบริหารจัดการภาพลักษณ์องค์กรจากเดิมที่ทำได้เพียงวิเคราะห์สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต ไปสู่การวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ (Predictive Analysis) เพื่อทำนายผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ที่เบอร์สัน เราทุกคนเชื่อว่าชื่อเสียงและภาพลักษณ์เป็นสินทรัพย์ที่มีค่าสูงสุดของทุกองค์กร
Corey duBrowa – Burson’s CEO
คอรีย์ ดูโบรวา ซีอีโอของเบอร์สัน กล่าว “ภาพลักษณ์ขององค์กรเป็นสิ่งที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา และได้รับอิทธิพลจากปัจจัยต่างๆ มากมาย จนกระทั่งเครื่องมือรูปแบบเดิมที่หลายองค์กรพึ่งพาอยู่ไม่อาจรับมือกับความท้าทายที่ถาโถมเข้ามาได้ โซลูชัน Reputation Capital สามารถระบุได้ชัดเจนว่าภาพลักษณ์องค์กรเปลี่ยนแปลงไปเพราะอะไร คาดการณ์ผลที่อาจเกิดขึ้นจากการกระทำต่างๆ ขององค์กรหรือแบรนด์ และเน้นย้ำให้เห็นว่าปัจจัยด้านภาพลักษณ์จะส่งผลกับธุรกิจอย่างไรบ้าง ข้อมูลทั้งหมดจาก Reputation Capital จะช่วยให้เราให้คำปรึกษาที่ตอบโจทย์มากยิ่งขึ้นกับลูกค้า ขณะที่ฝั่งลูกค้าก็ลงมือตัดสินใจได้รวดเร็วกว่าเดิม และมั่นใจได้ว่าสิ่งที่ลงมือทำและสื่อสารออกไปจะเป็นผลดีต่อองค์กร ทั้งในเชิงภาพลักษณ์และผลลัพธ์ทางธุรกิจ”
แพลตฟอร์ม Reputation Capital ทำงานโดยการวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาลจากหลากหลายแหล่งที่มาแบบเรียลไทม์ ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลภายในองค์กร, ข่าวสาร, และความเคลื่อนไหวบนโลกดิจิทัลและโซเชียลมีเดีย โดยพิจารณาปัจจัยที่มีผลต่อภาพลักษณ์องค์กรใน 8 ด้านหลัก เช่น ความรับผิดชอบต่อสังคม, ทีมผู้บริหารและการดำเนินธุรกิจ, และนวัตกรรม
จากนั้น โมเดล AI ขั้นสูงจะประมวลผลข้อมูลเหล่านี้เพื่อสรุปออกมาเป็น คะแนนความแข็งแกร่งของภาพลักษณ์องค์กร (Reputation Score) ที่อัปเดตตามสถานการณ์เกือบจะทันที
แชด แลทซ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายนวัตกรรมของเบอร์สัน กล่าวว่า “เครื่องมือแบบเดิมที่เราใช้บริหารจัดการกับภาพลักษณ์องค์กร ทำได้แค่มองย้อนหลังไปวิเคราะห์สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วเท่านั้น แต่ Reputation Capital จะเข้ามาพลิกโฉมการทำงานด้วยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในปัจจัยต่างๆ เบื้องหลังภาพลักษณ์นั้น และคาดการณ์ผลกระทบจากการดำเนินงานในอนาคต”
ความสามารถในการคาดการณ์นี้ ช่วยให้องค์กรสามารถจำลองสถานการณ์ต่างๆ เพื่อประเมินว่าแผนงาน, แคมเปญ หรือเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้น จะส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงขององค์กรอย่างไร ช่วยให้ฝ่ายบริหารสามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วและมั่นใจยิ่งขึ้น
จุดเด่นที่สำคัญที่สุดของ Reputation Capital คือความสามารถในการคาดการณ์ผลกระทบของภาพลักษณ์องค์กรที่มีต่อผลตอบแทนของผู้ถือหุ้น (Shareholder Value) โดยตรง จากการจำลองสถานการณ์ด้วยข้อมูลเชิงลึก พบว่าในกรณีของบริษัทเทคโนโลยี ภาพลักษณ์องค์กรสามารถเพิ่มผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นได้โดยเฉลี่ยที่อัตรา 0.97% ต่อสัปดาห์ และจากการประเมินผลกระทบจากระบบคะแนนของแพลตฟอร์ม อาจสรุปได้ว่า ภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งขึ้นทุกๆ 1% อาจส่งผลให้ผู้ถือหุ้นได้รับผลตอบแทนเป็นมูลค่าสูงถึง 2,400 ล้านเหรียญสหรัฐ
“โมเดลจำลองนี้สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทที่สำคัญของภาพลักษณ์องค์กร ในการสร้างผลลัพธ์ที่วัดมูลค่าเป็นตัวเงินได้จริง” คอรีย์ ดูโบรวา ซีอีโอของเบอร์สัน กล่าว
เพื่อสร้างความมั่นใจในความแม่นยำ หลักการทำงานของแพลตฟอร์ม Reputation Capital ได้รับการรับรองจาก ศูนย์วิจัย Augmented Intelligence Labs แห่งมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด และยังได้ผนวกรวมคุณสมบัติจากโซลูชัน AI ของเบอร์สันอย่าง Decipher ที่พัฒนาขึ้นร่วมกับบริษัท Limbik โดยลูกค้าของเบอร์สันสามารถเข้าใช้งาน Reputation Capital ได้ผ่านทาง WPP Open ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มรวบรวมเครื่องมือ AI เพื่อการตลาดของเครือ WPP
การเปิดตัว Reputation Capital ถือเป็นก้าวสำคัญในการนำเทคโนโลยี AI มาใช้เพื่อเปลี่ยนมุมมองต่อ “ชื่อเสียงองค์กร” ให้กลายเป็นสินทรัพย์เชิงกลยุทธ์ที่สามารถวัดผล, บริหารจัดการ, และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจได้อย่างเป็นรูปธรรม