รีวิว vivo V50 แบบกระชับ : ถ่ายคนเก่ง สีสวย แต่ยังมีช่องให้อัปเกรด

THE SUMMARY:

ใครที่ยังลังเลใน vivo V50 มือถือรุ่นกลางจาก vivo รอบต้นปีที่ออกมาแค่รุ่นเดียวนี้อยู่ แล้วอยากรู้ว่า vivo V50 เครื่องนี้จะเหมาะเป็นสมาร์ตโฟนของเราไหม โดยเฉพาะกับคำถามที่ว่า ‘กล้องถ่ายรูปสวยไหม’ เหมาะเป็นสมาร์ตโฟนเครื่องต่อไปของเราไหม บทความนี้อยากจะขอเป็นสรุปให้เข้าใจง่าย ๆ กัน !

สรุปสเปกของ vivo V50

  • หน้าจอ: AMOLED ขนาด 6.77 นิ้ว
    • ความละเอียด: 2392 × 1080 พิกเซล
    • รีเฟรชเรต: 120 Hz
    • ความสว่างสูงสุดเฉพาะส่วน: 4500 nits
  • ชิปเซต: Snapdragon 7 Gen 3 (รองรับ 5G)
  • หน่วยความจำ : 256 GB / 512 GB (UFS 2.2)
  • RAM: 8 GB / 12 GB (LPDDR4X)
    • (รุ่นที่วางจำหน่าย: 8GB+256GB, 12GB+256GB, 12GB+512GB)
  • กล้องหลัง: 2 ตัว
    • กล้องหลัก: OIS 50 ล้านพิกเซล (f/1.88), เซนเซอร์ OV50E
    • กล้องมุมกว้างมาก: 50 ล้านพิกเซล (f/2.0), เซนเซอร์ S5KJN1
  • กล้องหน้า: กล้องมุมกว้างพิเศษ 50 ล้านพิกเซล (f/2.0), เซนเซอร์ S5KJN1
  • แบตเตอรี่: 6000mAh (BlueVolt)
    • รองรับชาร์จไว 90W
    • ประเภท: Li-ion battery
  • ซอฟต์แวร์: Funtouch OS 15 (บนพื้นฐาน Android 15)
  • สีให้เลือก: 3 สี
    • Ancora Red
    • Satin Black
    • Mist Purple

กล้องถ่ายภาพถ่ายคนดีแค่ไหน

ต้องบอกว่าเรื่องการถ่ายภาพคน ยังไง vivo V50 นั้นก็ยังเป็นกล้องถ่ายภาพที่เด่นเรื่องนี้ตลอด โดยเฉพาะเรื่องของ ‘ลูกเล่น’ กล้องถ่ายภาพที่ได้ ‘ZEISS’ เข้ามาช่วยประมวลผลกล้องถ่ายภาพ (แถมยังช่วยทำระบบเลนส์) เพื่อให้ถ่ายภาพออกมาได้ดูดีมากที่สุด แถมยังมีเอฟเฟ็กต์เลนส์ ZEISS ให้เล่นกันด้วย โดยสกินโทนของภาพก็จะยังมีความสดใสอยู่ไม่น้อย ในบางสถานการณ์อาจจะดูสดไปบ้าง แต่ถ้าเป็นคนที่ชอบโทนของกล้องถ่ายภาพแบบสดใสแล้ว vivo V50 จะตอบโจทย์เลยล่ะ ที่สำคัญคือ กล้องถ่ายภาพของ vivo V50 จะเน้นไปที่ความ ‘ถ่ายง่าย’ คือเราแค่กดเปิดโหมดกล้องถ่ายภาพบุคคล กดเลือกเลนส์ ZEISS แล้วกดถ่าย แค่นั้นเลย

ที่จะน่าเสียดายคือ vivo V50 ไม่มีกล้องถ่ายภาพซูมมาให้ แปลว่าการจะถ่ายภาพคน จะได้แค่ที่ระยะ 1x และ 2x ที่เป็นการครอปภาพจากกล้องถ่ายภาพหลักเข้ามาเท่านั้น ระยะของภาพถ่ายคนก็เลยจะไม่ได้มีให้ได้เลือกเยอะมากนัก แถมรายละเอียดก็จะเสียไปเล็กน้อยด้วย แต่ว่าถ้าเราไม่ใช่คนที่มานั่งโฟกัสว่าจะถ่ายออกมาได้สวย หรือไม่สวยยังไง คิดว่าเรื่องนี้ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่มากนักนะ

นอกจากนั้นยังได้ให้ AI Aura Light Portrait 2.0 ซึ่งเป็นไฟริงหลังเครื่องที่เปลี่ยนโทนสีได้เยอะมาก ๆ เหมือนเดิม ปรับความแรงได้ และเอาไว้ใช้ถ่ายภาพคนในตอนกลางคืนได้ดีขึ้นด้วยการใช้ไฟสีที่เข้ากับสถานการณ์ในขณะนั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ vivo ทำได้ดีมาตลอด ตั้งแต่ vivo V27 เป็นต้นมาเลย

แถมกล้องหน้าให้นิดหน่อย กล้องหน้าของ vivo V50 เป็นกล้องที่ใช้เซนเซอร์ตัวเดียวกันกับในกล้องถ่ายภาพมุมกว้างมาก ก็เลยจะทำให้ได้รายละเอียดที่เยอะ แถมถ่ายกว้างได้ด้วย และมี Autofocus อีกต่างหาก แต่เดี๋ยวนี้ เรื่องกล้องหน้า หลาย ๆ เจ้าก็เริ่มเข้ามาแข่งแล้วเหมือนกัน ยังดีที่ vivo จะเด่นกว่าเรื่องกล้องหน้ากว้างนี่ล่ะ

แล้วถ่ายภาพอื่น ๆ ล่ะ

แน่นอนล่ะว่าเราซื้อมือถือมา ก็คงไม่ได้เอามาแค่ถ่ายภาพคนอย่างเดียว แต่สบายใจได้ เรื่องถ่ายวิว หรือถ่ายวัตถุก็ถ่ายออกมาสวยเหมือนกัน แต่จะเป็นโทนสีแบบ vivo ยุคปัจจุบัน ที่จะจูนสีภาพออกมาดูสดหน่อย ถ้าอยากลดโทนสีสด ๆ ลง ก็อาจจะปรับโทนไปทาง ZEISS Natural Color ดูได้ (แต่ภาพที่ให้ดูนี้ ส่วนมากจะเป็นภาพในโหมดสี Vibrant ปกตินะ)

ที่จะเรียกว่าเป็นจุดสังเกตที่สุดคือการที่ vivo V50 ไม่มีกล้องซูมมาให้นี่แหละ ทำให้กล้องไม่สามารถถ่ายภาพซูมได้ลึกมากนัก เพราะขาดกล้องถ่ายภาพซูมไป ไม่ว่าจะเป็น Floating Telephoto หรือ Periscope Telephoto ก็ตาม กับเทรนด์ในช่วงปลายปีที่เริ่มมีแบรนด์ใส่กล้องถ่ายภาพซูมในเรตราคานี้กันแล้ว จุดนี้อาจจะต้องพิจารณาหน่อย ถ้าเกิดว่าเราใช้การซูมภาพเยอะ ก็อาจจะไม่เหมาะมากนัก แต่ถ้าไม่ได้ซูมเยอะ เรื่องนี้ก็ตัดออกไปได้

ที่จะได้คืนมาแทน คือกล้องถ่ายภาพมุมกว้างมากที่ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ในยุคที่สมาร์ตโฟนราคาหมื่นกลาง ๆ ให้กล้องถ่ายภาพมา 8 ล้านพิกเซลกันหมด เพราะงั้นสายถ่ายวิวที่ชอบถ่ายภาพมุมกว้างมาก ๆ ก็หายห่วงเรื่องนี้ไปได้อย่างนึงแน่นอน ใด ๆ แล้วอยากให้ลองดูภาพที่ถ่ายมา และพิจารณากันว่าตรงกับความชอบของเราไหม ?

AI มีให้เล่นเยอะไหม ?

เดี๋ยวนี้เรื่อง AI เป็นอะไรที่เราต้องดูเสมอเลย เวลาจะซื้อสมาร์ตโฟนสักเครื่อง ซึ่งการแข่งขันด้านการใส่ ‘AI’ เข้ามาในสมาร์ตโฟนกันเยอะมาก ๆ สำหรับ vivo นั้น อาจจะยังอยู่ในจุดที่เรียกว่าไม่ได้มี AI ให้เล่นเยอะมากนัก (โดยเฉพาะเรื่องของ AI กับกล้องถ่ายภาพ) แต่ก็ยังมีฟีเจอร์​ AI ที่น่าจะได้ใช้จริง ๆ หลายตัวอยู่

อย่างเช่นยางลบ AI ที่สามารถลบได้เยอะ และเนียนอยู่ ทั้งวงกลมลบ, ระบายเพื่อลบ แล้วก็ให้มันหาคนที่นอกเหนือจากในภาพเพื่อลบออกก็ทำได้เหมือนกัน เป็นหนึ่งในฟีเจอร์ที่ไม่ว่ายังไง ก็จำเป็นมากที่สุด และได้ใช้บ่อยที่สุดแน่ ๆ โดยเฉพาะลบคนอื่นในภาพ ที่ขอแค่เราต่อเน็ตเพื่ออัปเฉพาะส่วนที่เราอยากลบ ไปประมวลผลบน Cloud ให้มันลบให้เท่านั้นเอง

แต่ฟีเจอร์ AI อื่น ๆ ก็มีเหมือนกันนะ เช่น Screen Translation ซึ่งเป็นฟีเจอร์การแปลภาษาที่มาจากการลากแถบด้านข้างมา แล้วเลือกให้แปลภาษาหน้าจอให้ ซึ่งก็จะใช้ Google ในการแปลให้ ทำให้คำแปลต่าง ๆ มีโอกาสผิดน้อยด้วยนั่นเอง

และยังมี Circle to Search ซึ่งเป็นฟีเจอร์การวงเพื่อค้นหาของ Google ที่ตั้งแต่มันเปิดตัวมา ก็เป็นฟีเจอร์ AI ที่ใช้บ่อยมากที่สุดตัวหนึ่งเลย ซึ่ง vivo V50 ก็มีให้ได้ใช้ด้วยนะ

จริง ๆ ยังมีฟีเจอร์ AI อื่น ๆ อย่างการถอดเสียงที่เราอัดมาให้เป็นข้อความ ก็สามารถทำได้ผ่านแอปฯ Note ด้วยเหมือนกัน

สเปกในเครื่องยังไหวไหม

ทีนี้ ด้วยสเปกภายในเครื่อง ที่มาพร้อมกับชิปเซต Snapdragon 7 Gen 3 นั้น ถามว่าเป็นสเปกที่ดีไหม ดีแน่นอน เป็นชิปที่ทั้งแรง ไม่ค่อยร้อน ใช้งานทั่วไปสบาย ๆ หรือจะเล่นเกมก็ยังเอามาเล่นได้ด้วยเหมือนกัน จะให้เป็นข้อสังเกตเล็กน้อยคือ Snapdragon 7 Gen 3 เป็นชิปที่เปิดตัวตั้งแต่ปลายปี 2023 ที่ผ่านมา ซึ่งอาจจะเป็นชิปที่มีอายุพอสมควรแล้ว ทำให้ตัวเครื่องอาจจะใช้งานในระยะยาวมาก ๆ ย่าง 4-5 ปี อาจจะยากสักเล็กน้อย แต่ถ้าเรื่องใช้งานทั่วไปล่ะก็​สบาย ๆ แน่นอน

ที่จะน่าเป็นห่วงหน่อย ๆ คือคู่แข่งในตลาดราคานี้ ก็ให้สเปกตัวเครื่องที่แรงสู้ได้ด้วยเหมือนกัน เช่น MediaTek Dimensity 8350 หรือกระทั่งสมาร์ตโฟนสายเกมที่เป็นคู่แข่งในระดับราคานี้ แน่นอนว่าคู่แข่งสายนั้นอาจจะได้กล้องที่ด้อยกว่า ซอฟต์แวร์ที่ไม่ดีเท่า แต่ถ้าเน้นในด้านสเปกล้วน ๆ vivo V50 ก็ยังมีช่องให้พัฒนาต่อไปได้อีกนะ

ส่วนเรื่องแบตเตอรี่ vivo ก็เอาจริงเอาจังเรื่องแบตเตอรี่มาสักพักแล้วเหมือนกัน โดยได้ใช้เทคโนโลยี BlueVolt มาทำให้แบตเตอรี่มีประจุความหนาแน่นของแบตเตอรี่ที่เพิ่มมากขึ้น แต่ยังมีขนาดที่เล็ก และบางอยู่ได้ ทำให้ vivo V50 ที่แม้จะให้แบตเตอรี่มาถึง 6,000 mAh ก็ไม่ได้มีความหนาของตัวเครื่องมากนัก (อาจจะยังหนากว่า V50 Lite อยู่บ้าง แต่ถือว่าคุ้มกับสิ่งที่ได้มา) แถมยังาร์จแบตเตอรี่กลับได้ด้วยหัวชาร์จ 90W FlashCharge ซึ่งแถมในกล่องแล้วเรียบร้อยด้วย กับยังใช้หัวชาร์จแบบ USB-A อยู่นะ

ดีไซน์

ปิดท้ายด้วยเรื่องดีไซน์สักหน่อย ดีไซน์ของ vivo V50 เอาจริง ๆ คือเป็นดีไซน์ที่ต่อยอดจาก vivo V40 มาแบบสังเกตได้ สิ่งที่เปลี่ยนไปแบบชัดเจน คือเรื่องของหน้าจอ ที่ทำจอมาเป็นสัมผัสแบบ Micro-Quad-Curve แล้ว เลยทำให้ตัวเครื่องมีดีไซน์ที่ค่อนข้างโค้งมนไปทั่วทั้งตัวเครื่อง ให้จับถือได้กระชับมากขึ้น แม้จะยังไม่เท่ากับสมาร์ตโฟนที่ทำดีไซน์รอบเครื่องแบบขอบตัดก็ตาม แต่ก็เป็นดีไซน์ที่มีความโดดเด่นในตัวเองอยู่เหมือนกัน (แถมมีธง ZEISS เพื่อบอกว่า vivo V50 ก็มีการร่วมมือกับ ZEISS ในการทำกล้องถ่ายภาพด้วย)

ที่จะขัดใจเล็กน้อยคือมอเตอร์สั่นที่ยังใช้มอเตอร์สั่นแบบเดิม ไม่ใช่มอเตอร์สั่นตามแนวราบ (Linear) ใด ๆ ทำให้การสั่นของตัวเครื่อง ไม่ว่าจะตอนตอบสนองกับปุ่มที่เรากด ไปจนถึงการพิมพ์แชทนั้น อาจจะรู้สึกถึงความสั่นแรง ๆ ที่เป็นคนละแนวกับคนที่เคยใช้มอเตอร์สั่นแบบสั่นแนวราบในสมาร์ตโฟนเรือธง หรือรุ่นท็อป ๆ มาก่อน แต่ถ้าไม่ได้เป็นปัญหาที่รู้สึกเท่าไหร่ เรื่องนี้ก็สามารถมองข้ามได้เหมือนกัน

ส่วนสีที่ขายในบ้านเรา จนถึงตอนนี้วางขายอยู่ 3 สี คือ สีแดง (Ancora Red) ที่รีวิวอยู่, สีดำ (Satin Black) และสีม่วง (Mist Purple) ซึ่งแต่ละสี ก็จะเหมาะกับสไตล์และแนวการใช้งาน หรือแมทช์เสื้อผ้าของคนที่ต่างกันออกไป ถือว่าเป็นการจัดตัวเลือกสีมาให้เลือกซื้อสมาร์ตโฟนที่ดีไม่น้อยเลย

ควรรอ V60 ทีเดียวเลยไหม ?

ทีนี้ คำถามสำคัญสำหรับตอนนี้ ที่ vivo V60 (ซึ่งคาดว่าจะมาจาก vivo S30 ในประเทศจีนมารีแบรนด์) กำลังจะเปิดตัวในเร็ววัน ก็จะต้องมีคำถามตามมาว่า ‘แล้วเราควรจะรอไหม ?’ ซึ่งใน vivo V60 นั้นอาจจะเพิ่มกล้องถ่ายภาพซูมเข้ามาอีกตัว แต่ลดกล้องถ่ายภาพมุมกว้างออก, ใช้จอแบนแล้ว, เปลี่ยนชิป, แบตเตอรี่เยอะขึ้น แน่นอนว่าใหม่กว่า ยังไงก็ต้องดีกว่า แต่ก็เป็นไปได้ว่าอาจจะมาพร้อมกับราคาที่โดดสูงขึ้นกว่าเดิมก็ได้เช่นกัน อย่างที่ได้บอกไว้ในชื่อบทความนี้ ว่ายังมีช่องให้ได้อัปเกรดอยู่ แต่ vivo V50 คือสมาร์ตโฟนที่ดีเครื่องหนึ่งเลย มันเกิดจากการที่ vivo ได้ทำการบ้านกับสมาร์ตโฟน vivo V Series มาแล้วหลายรุ่น จนทำให่ได้สมาร์ตโฟนที่เหมาะกับสายถ่ายคนเช่นรุ่นนี้

ดังนั้น vivo V50 ที่ในตอนนี้มีราคาที่น่ารัก น่าคบหามากยิ่งขึ้น ถามว่ามีปัญหาไหม ก็อาจจะยังมีปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ปนอยู่ในนี้บ้าง จากที่ได้ชี้เป็นจุดสังเกตเอาไว้ในรีวิวนี้ แต่ว่า ส่วนมากมักจะเป็นปัญหาที่เราสามารถมองข้ามมันไปได้ไม่ยากนัก โดยเฉพาะว่าเป็นฟีเจอร์ที่เราไม่ได้ใช้อยู่แล้ว หรือเป็นฟีเจอร์ที่เราไม่ได้ใส่ใจมากขนาดนั้น vivo V50 ที่ราคาดีขึ้นกว่าตอนเปิดตัว ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลย

vivo V50 มีราคาเปิดตัวในไทยหลายความจุด้วยกัน ประกอบด้วย

  • ความจุ 8/256GB วางจำหน่ายเฉพาะช่องทางออนไลน์เท่านั้น ในราคา 14,999 บาท
  • ความจุ 12/256GB ราคา 15,999 บาท
  • ความจุ 12/512GB ราคา 17,999 บาท

นักเขียนตัวเล็กๆ (?) ที่โตมากับไขควงและเมนบอร์ด เพราะโดนเกณฑ์เป็นลูกมือช่างซ่อมคอม (ที่เรียกว่าพ่อ) มาตั้งแต่เด็ก ๆ โตมาเลยมาเอาดีเรื่องเทคฯแทน ชอบตามข่าวเทคฯ ใหม่ ๆ ลอง Gadget แปลก ๆ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ตโฟน หูฟัง คอมพิวเตอร์ แล้วเอามาเล่าให้ฟังกัน

8.4 / 10คะแนนรวม
กล้องถ่ายภาพ 9.5
ประสิทธิภาพภายในเครื่อง 7.5
หน้าจอ 8.0
แบตเตอรี่ 8.5
ดีไซน์ 8.5
ความคุ้มค่า 8.5

vivo V50

สมาร์ตโฟนระดับกลางที่เหมาะเอาไปถ่ายรูปคนมาก ๆ แต่ยังมีช่องให้อัปเกรดได้อีก

vivo V50 นั้นเปิดตัวพร้อมชูจุดเด่นด้านการถ่ายภาพบุคคลที่ร่วมมือกับ ZEISS และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 6,000 mAh แถมยังชาร์จไว 90W อีก แน่นอนว่าเรื่องการถ่ายภาพนั้นไม่มีข้อกังขาแน่นอน แต่ส่วนอื่น ๆ นั้น มั่นใจว่าถ้า vivo สามารพัฒนาจนเพอร์เฟคได้ จะทำให้เป็นสมาร์ตโฟนอีกซีรีส์ที่น่าจับตามองแน่นอน

Pros
  • ถ่ายภาพคนได้สวย มีลูกเล่นจาก ZEISS ช่วยประมวลผลภาพ ทำให้ถ่ายง่ายและได้โทนสีที่สดใส
  • ให้กล้อง Ultrawide ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ซึ่งสูงกว่าคู่แข่งส่วนใหญ่ในระดับราคาเดียวกัน
  • ให้แบตเตอรี่มา 6,000 mAh และรองรับระบบชาร์จไว 90W แล้วยังมีหัวชาร์จแถมมาให้ในกล่องอีก
  • มี AI ที่ได้ใช้จริงในชีวิตประจำวันหลายตัว
Cons
  • ไม่มีกล้องซูม เวลาซูมต้องครอปภาพจากกล้องหลัก ทำให้เสียรายละเอียด
  • ชิป Snapdragon 7 Gen 3 ที่อาจมีประสิทธิภาพไม่โดดเด่น เมื่อเทียบกับคู่แข่งบางรายในราคาเดียวกัน
  • ยังใช้มอเตอร์สั่นแบบเก่า (Rotor) ไม่ใช่แบบ Linear Motor ทำให้การตอบสนองด้านการสั่นยังไม่ดีเท่าที่ควร
  • แม้จะมี AI ที่ได้ใช้จริง แต่ภาพรวมฟีเจอร์ AI ยังไม่เยอะเท่าคู่แข่ง ไปเน้นเรื่องประสิทธิภาพกล้องมากกว่า

Advertisement

Sidebar Search
Popular Now
Loading

Signing-in 3 seconds...

Signing-up 3 seconds...