เผย 4 แผนที่ Apple ใช้รับมือการขึ้นภาษี iPhone

มาร์ก เกอร์แมน (Mark Gurman) จาก Bloomberg รายงานว่าปีนี้นับเป็นปีที่หนักหน่วงของ Apple จากการที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ทำให้บริษัทต้องแก้ปัญหาภาษีที่จะเพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 54% ซึ่งอาจทำให้ Apple ไม่สามารถขาย iPhone ในราคาเริ่มต้น 999 เหรียญที่ได้อีกต่อไป หลังจำหน่าย iPhone ราคานี้มาตั้งแต่ปี 2017

ปัจจุบัน Apple มีฐานการผลิตสินค้าอยู่หลายประเทศทั่วโลก ไม่ใช่แค่จีนเท่านั้น ซึ่งประเทสเหล่านั้นต่างได้รับผลกระทบเรื่องการขึ้นภาษีด้วยเช่นเดียวกัน ดังนี้

  • อินเดีย (iPhone, AirPods): 26%
  • เวียดนาม (iPad, Mac, Watches, AirPods): 46%
  • มาเลเซีย (Mac): 24%
  • ไทย (Mac): 37%
  • ไอร์แลนด์ (iMac): 20%
  • อินโดนีเซีย (ชิ้นส่วน AirTags, AirPods Max): 32%
  • จีน (รวมสินค้าทั้งหมด): 54%

ประเด็นสำคัญคือ ความพยายามในการกระจายความเสี่ยงทั่วโลกของ Apple ไม่ได้ช่วยให้บริษัทสามารถแก้ปัญหาเรื่องภาษีที่สหรัฐฯ​ขึ้นในประเทศจีนได้ เกอร์แมนรายงานว่า Apple ได้เตรียมแผนเอาไว้ทั้งหมด 4 แผนสำหรับรับมือการขึ้นภาษีของทรัมป์

  1. Apple จะขอให้ซัปพลายเออร์ลดราคา/ต้นทุนการผลิตเพื่อชดเชยภาษีที่เพิ่มขึ้น โดยปกติ Apple ก็มีอำนาจต่อรองในส่วนนี้สูงมากอยู่แล้วด้วย
  2. Apple จะรับภาระต้นทุนด้านภาษีที่เพิ่มขึ้นด้วยตัวเอง สื่อต่างประเทศรายงานว่า มาร์จินฮาร์ดแวร์ของ Apple อยู่ที่ราว 45% จึงพอจะทำได้
  3. Apple จะปรับราคา iPhone ใหม่ให้สูงขึ้น ซึ่งเป็นประเด็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้หากนโยบายภาษียังคงดำเนินต่อไป
  4. สุดท้ายคือการขยายฐานการผลิตไปยังประเทศที่ไม่โดนภาษีมาก แม้ว่าการขยายการผลิตในประเทศเหล่านั้นอย่างรวดเร็วจะไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะอุปกรณ์ระดับสูงยิ่งยากเข้าไปใหญ่

ดูเหมือนว่าจะมีทางให้ Apple เลือกค่อนข้างน้อย เพราะหากทรัมป์ยังดำเนินนโยบายภาษีระดับนี้ต่อไปก็เป็นเรื่องยากที่ iPhone จะยังสามารถรักษาระดับราคาเอาไว้ที่เท่านี้ได้

ที่มา PhoneArena

Advertisement

Sidebar Search
Popular Now
Loading

Signing-in 3 seconds...

Signing-up 3 seconds...