นี่คือโมเดล 3 มิติ เรือไททานิคที่ละเอียดที่สุดในโลก สร้างจากภาพถ่ายใต้น้ำกว่า 715,000 ใบ !

สารคดีของ National Geographic “Titanic: The Digital Resurrection” นำเสนอโมเดล 3D ของเรือไททานิคที่ละเอียดทีสุดในโลก ถ้าถามว่าละเอียดขนาดไหนก็สร้างมาจากภาพถ่ายใต้น้ำลึกกว่า 715,000 ใบ มาประกอบเข้าด้วยกัน บทความนี้เราจะไปดูวิธีการสร้างกันว่ากว่าจะเป็นสารคดีตัวนี้ผ่านอะไรมาบ้าง !

ภาพหัวเรือไททานิคจากการสแกน ภาพโดย Magellan Limited/Atlantic Productions

วิลเลียม แมคมาสเตอร์ (William McMaster) หัวหน้าแผนก 3D, ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคสารคดี และเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง 3D McMaster บริษัทหัวหอกในการบุกเบิกสื่อวิดีโอ 360 องศา, โพรเจกต์โฟโตแกรมเมทรี และการสร้างแบบจำลอง 3D ความละเอียดสูง ที่มีประสบการณ์มามากกว่า 10 ปี เผยว่า โพรเจกต์ตัวนี้เริ่มขึ้นมาตั้งแต่ปี 2022 โดยในตอนนั้นมี Magellan บริษัททำแผนที่ใต้ทะเลมาร่วมด้วย

ซึ่งการถ่ายทำในครั้งนั้น แมคมาสเตอร์ และทีมงานใช้เวลาหลายสัปดาห์เลยทีเดียวทั้งการบันทึกภาพ 715,000 ภาพ ครอบคลุมซากเรือแทบทุกตารางนิ้วจากหลายมุม และยังต้องประมวลผลข้อมูลทั้งหมดอีกหลายเดือน

การถ่ายทำใต้น้ำลึกต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่ยากทีเดียวครับ เพราะกว่าจะลงไปถึงซากเรือไททานิคที่ก้นหาสมุทรแอตแลนติกเหนือก็ใช้เวลาไปกว่า 4 ชั่วโมง เข้าไปแล้ว

นอกจากนี้ยังต้องเปลี่ยนภาพทั้งหมดที่ถ่ายมาเป็นโมเดล 3D อีก ข้อมูลทั้งหมดในการสร้างโมเดลครั้งนี้มีถึง 16TB เลยทีเดียว ทำให้กว่าจะสร้างโมเดลตัวนี้ออกมาได้ ต้องสร้างทีละส่วนแล้วเอามาประกอบเข้าด้วยกันภายหลัง

แมคมาสเตอร์กล่าวอีกว่า เขาน่าจะใช้เวลาทั้งในการประกอบโมเดลเรือลำนี้ประมาณ 6 เดือน และช่วงเวลาที่น่าทึ่งที่สุดในความทรงจำของเขา คือตอนที่เขานั่งอยู่ในออฟฟิศข้าง ๆ เวิร์กสเตชันที่กำลังทำงานอยู่ และได้เห็นโมเดลส่วนสุดท้ายประกอบเข้าด้วยกัน การได้เห็นปริศนาที่เหมือนจิ๊กซอว์เสร็จสมบูรณ์เป็นอะไรที่น่าทึ่งมาก โดยเฉพาะตอนที่นำโมเดลเรือไททานิคทั้งลำเปิดในโปรแกรม Unreal Engine และดูมันผ่านแว่น VR และได้เห็นถึงรายละเอียดยิบย่อยของเรือในขนาดเทียบเท่าของจริงเป็นอะไรที่น่าทึ่งมาก

ภาพห้องหม้อไอน้ำในจุดที่เรือเกิดการแตกหัก ภาพโดย Magellan Limited/Atlantic Productions

การถ่ายภาพใต้น้ำถือว่าไม่ใช่เรื่องที่ยากขนาดนั้น เพราะทุกครั้งที่ถ่ายจะมีการยิงแฟลชที่สว่างมาก ๆ ทำให้เก็บรายละเอียดได้ครบถ้วนค แต่สิ่งที่ยากคืออนุภาคที่ลอยไปลอยมาทุกครั้งที่ยานไร้คนขับหรือ ROV ขับเข้าใกล้ซาก ทำให้ต้องเสียเวลา 2-3 นาที ไปทำอย่างอื่นก่อนรอให้อนุภาคสงบแล้วกลับไปถ่ายซ้ำใหม่อีกครั้ง

สำหรับภาพถ่ายใต้น้ำหลายคนน่าจะสงสัยว่าใช้กล้องอะไร ต้องความละเอียดสูงมากแน่ ๆ แต่แมคมาสเตอร์เผยว่าทีมงานของเขาไม่ได้ใช้กล้องความละเอียดสูงอะไรเลยครับ แต่เป็นกล้อง Micro Four Thirds 5 ล้านพิกเซล ที่ถูกออกแบบมาสำหรับถ่ายภาพใต้น้ำโดยเฉพาะต่างหาก

ยานไร้คนขับ ROV Juliet กำลังสแกนราวกั้นที่หัวเรือไททานิค โดย Magellan Limited/Atlantic Productions

ข้อดีของจำนวนพิกเซลที่น้อยคือสามารถรับแสงได้มาก เพราะตัวเม็ดพิกเซลมีขนาดใหญ่กว่าเซนเซอร์ที่มีความละเอียดสูง ภาพที่ได้จึงมีสัญญาณรบกวนต่ำ อีกทั้งยังมีแฟลชที่สว่างมาก จึงไม่ต้องกังวลเรื่อง ISO กันเลยล่ะครับ ได้ภาพแบบคลีน ๆ

ซึ่งนอกจากกล้องปกติแล้วทางทีมงานยังได้เอากล้อง LiDAR มาใช้ ทำให้ได้ข้อมูลความลึกที่ละเอียดขึ้นอีกด้วยครับ

ส่วนเครื่องยนต์ท้ายเรือไททานิค ภาพโดย Magellan Limited/Atlantic Productions

จากการกระบวนการสร้างโมเดลจำลองเรือไททานิคที่ละเอียดที่สุดลำนี้ ทางทีมงานยังได้พบว่าวาล์วไอน้ำอยู่ในตำแหน่งเปิด ซึ่งยืนยันคำบอกเล่าว่ามีวิศวกรที่ยังทำหน้าที่ตอนเกิดเหตุการณ์อย่างกล้าหาญในห้องหม้อไอน้ำเป็นเวลาหลายชั่วโมงหลังจากเกิดเหตุชนภูเขาน้ำแข็ง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ระบบไฟฟ้าบนเรือยังคงใช้การได้ จนถึงตอนที่ส่งสัญญาณข้อความช่วยเหลือออกไป จนคนหลายร้อยคนรอดจากเหตุการณ์นี้มาได้ ต้องขอบคุณชายทั้ง 35 คนในห้องนี้จริง ๆ ครับ

ผู้เชี่ยวชาญ เจนนิเฟอร์ ฮูเปอร์ (Jennifer Hooper) คริส เฮิร์น (Chris Hearn) และพาร์กส์ สตีเฟนสัน (Parks Stephenson) กำลังศึกษาเรือไททานิคในสตูดิโอเสมือนจริง (เครดิต: Atlantic Productions)

นอกจากนี้จากการวิเคราะห์อย่างละเอียดด้วยการสแกนดิจิทัล เรายังได้เจอหลักฐานใหม่ที่ว่าเจ้าหน้าที่ชั้นสัญญาบัตร วิลเลียม แมคมาสเตอร์ เมอร์ด็อก (William McMaster Murdoch) ชื่อที่สุดบังเอิญเหมือนกับคนทำโพรเจกต์นี้ เขานั้นไม่ได้ละทิ้งตำแหน่งหน้าที่ไปในช่วงที่เกิดเหตุแต่อย่างใดจากการสแกนตำแหน่งเสาค่ำยันเรือชูชีพที่ค้นพบ แต่เขาเสียชีวิตจากการถูกพัดออกไปในมหาสมุทรต่างหาก สอดคล้องกับที่เจ้าหน้าที่สัญญาบัตรอีกคน ชาร์ลส์ ไลท์โทลเลอร์ (Charles Lightoller) ที่รอดจากการเหตุการณ์นี้มาได้บอกเล่าในภายหลัง

สำหรับสารคดี Titanic: The Digital Resurrection ฉายแล้ววันนี้ 11 เมษายน 2025 ใน Disney+ และ Hulu ครับ

ที่มา: PetaPixel

'ช่างภาพ' ที่เขียนคอนเทนต์ได้ หาเงินซื้อเปียกให้แมว 3 ตัว ที่บ้าน

Advertisement

Sidebar Search
Popular Now
Loading

Signing-in 3 seconds...

Signing-up 3 seconds...