Apple ได้เปิดเผยข้อมูล App Store ล่าสุดทั่วโลก สามารถช่วยสร้างยอดขายและรายได้จากการเรียกเก็บเงินให้นักพัฒนาสูงถึง 47.7 ล้านล้านบาท (1.3 ล้านล้านเหรียญ) ในปี 2024 และมีนักพัฒนามากกว่า 90% ไม่ต้องจ่ายค่าคอมมิชชันให้กับทาง Apple
“น่าทึ่งจริงๆ ที่เราได้เห็นนักพัฒนาจำนวนมากออกแบบแอปที่ยอดเยี่ยม สร้างธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ และเข้าถึงผู้ใช้ Apple ทั่วโลก”
ทิม คุก ซีอีโอ Apple
มีผลการศึกษาใหม่จาก นักเศรษฐศาสตร์จาก Boston University และ Analysis Group ได้พบว่า รายได้ส่วนใหญ่บน App Store ในปี 2024 ไม่ได้มาจากการขายแอปฯ โดยตรง แต่มาจากการขายสินค้า และบริการที่จับต้องได้ ซึ่งมีมูลค่าสูงกว่า 32 ล้านล้านบาท (1 ล้านล้านเหรียญ) จากบริการสั่งอาหารออนไลน์ การสั่งของชำ และบริการรับสินค้าที่ร้าน
ซึ่งในขณะเดียวกัน รายได้จากโฆษณาที่นักพัฒนาใส่ไว้ในแอปฯ ของตัวเองก็สร้างรายได้ถึง 1.5 แสนล้านเหรียญ ส่วนที่เหลือเป็นรายได้จากการขายสินค้า และบริการดิจิทัล เช่น เกม, แอปฯ แต่งภาพวิดีโอ และเครื่องมือสำหรับองค์กร
หากย้อนไปตั้งแต่ปี 2019 พบว่า รายได้ทั้ง 3 ส่วนเติบโตขึ้นกว่า 2 เท่า โดยหมวดสินค้า และบริการที่จับต้องได้มีอัตราการเติบโตสูงที่สุดถึง 2.6 เท่า ซึ่งสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคมาสู่แพลตฟอร์มออนไลน์อย่างชัดเจน
ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา App Store มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งทั่วโลก โดยยอดขาย และรายได้ในตลาดสำคัญอย่างสหรัฐอเมริกา, จีน และยุโรป เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่า ซึ่งแต่ละภูมิภาคมีปัจจัยขับเคลื่อนที่น่าสนใจแตกต่างกันไป
ในตลาดสหรัฐอเมริกา การชำระเงินผ่านมือถือที่กลายเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวัน ช่วยผลักดันให้ยอดใช้จ่ายดิจิทัลโตขึ้นกว่า 7 เท่า ขณะที่ในประเทศจีน ตลาดอีคอมเมิร์ซ และการสั่งของชำออนไลน์ขยายตัวอย่างก้าวกระโดด ส่วนในยุโรป บริการสั่งอาหาร และรับอาหารที่ร้านเติบโตขึ้นกว่า 3 เท่า แซงหน้าหมวดค้าปลีก และการท่องเที่ยวเดิม นอกจากนี้ ในภูมิภาคอย่างญี่ปุ่น, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ และอินเดีย พบว่าแอปฯ ด้านการท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในหมวดที่มีการใช้จ่ายสูงสุด
นอกจากการเติบโตตามภูมิภาคแล้ว ยังมีแนวโน้มที่น่าสนใจคือการใช้จ่ายในแอปฯ สำหรับสร้างสรรค์คอนเทนต์ดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปรากฏการณ์นี้ส่งผลให้แอปฯ กลุ่มแต่งภาพ และวิดีโอ เช่น Adobe ประสบความสำเร็จ และได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานอย่างต่อเนื่อง
ในประกาศเดียวกัน Apple ได้เน้นย้ำถึงการลงทุนเพื่อสนับสนุนนักพัฒนาในหลายมิติ โดยครอบคลุมตั้งแต่เครื่องมือพื้นฐานไปจนถึงโปรแกรมให้ความรู้
ในด้านธุรกิจ และเทคนิค Apple ได้กล่าวถึงระบบการค้าของ App Store ที่ช่วยจัดการเรื่องสกุลเงิน และภาษีในเกือบ 200 ภูมิภาคทั่วโลก พร้อมเครื่องมือให้นักพัฒนาใช้วิเคราะห์ข้อมูล และปรับปรุงแอปฯ ของตัวเอง นอกจากนี้ยังมีระบบชำระเงินที่ Apple ระบุว่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาสามารถช่วยป้องกันธุรกรรมที่เป็นการฉ้อโกงได้มากกว่า 288,000 ล้านบาท (9,000 ล้านเหรียญ)
ส่วนในด้านการให้ความรู้ และการสนับสนุนชุมชน Apple ได้พูดถึงโครงการ Apple Developer Academies ที่เปิดสอนทักษะการเขียนโค้ด การออกแบบ และการตลาดฟรีในหลายประเทศ รวมถึงการจัดตั้งศูนย์ Apple Developer Center และช่องทางออนไลน์ต่างๆ เพื่อให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึงทรัพยากร ขอคำปรึกษา และสร้างเครือข่ายกับนักพัฒนาคนอื่นๆ ได้สะดวกยิ่งขึ้น
ที่มา : Apple Newsroom