กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) ประกาศวิสัยทัศน์ ผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของอาเซียนภายในปี 2570 ในงาน HUAWEI Thailand Digital & AI Summit 2025
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) กล่าวในงานว่า เทคโนโลยี AI และนวัตกรรมดิจิทัล จะเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจดิจิทัลของไทยจะขยายตัวร้อยละ 7.3 ในปี 2568 ภายใต้นโยบาย “Growth Engine of Thailand” ที่มุ่งเสริมศักยภาพทางดิจิทัลของประเทศ ควบคู่กับการสร้างสังคมดิจิทัลที่ปลอดภัย และพัฒนาบุคลากรดิจิทัลที่มีทักษะสูง ซึ่งความร่วมมือกับพันธมิตรอย่างหัวเว่ยจะช่วยวางรากฐานที่มั่นคงให้กับทุกภาคส่วน
รัฐบาลได้กำหนดยุทธศาสตร์ดิจิทัล 3 แกนหลักเพื่อขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ดังกล่าว ได้แก่
เพื่อสอดรับกับนโยบายการพัฒนาบุคลากรดิจิทัล HUAWEI และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ประกาศความร่วมมือในการผลักดันระบบนิเวศนวัตกรรม AI และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์อย่างยั่งยืน โดยได้ครอบคลุมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT), การออกแบบหลักสูตรร่วมด้าน AI, Cloud, Big Data, IoT และความเป็นผู้นำดิจิทัล รวมถึงการสนับสนุนการปรับเปลี่ยนจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้เป็น Smart Campus อย่างเต็มรูปแบบในอนาคต ศ. ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ความร่วมมือกับหัวเว่ยครั้งนี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นที่จะผลักดันการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลในภาคการศึกษา และเตรียมความพร้อมให้นักศึกษา และบุคลากร สำหรับเศรษฐกิจยุคใหม่ โดยจะอาศัย 4 เสาหลักของ Huawei ASEAN Academy (Thailand) ในการส่งเสริมการพัฒนาบุคลากร คือ
แจ็คเกอลีน ฉือ ประธานฝ่ายการตลาดคลาวด์และบริการจัดจำหน่ายระดับโลก ของ HUAWEI Cloud ระบุว่า ประเทศไทยมีศักยภาพสูงในการก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านดิจิทัลและ AI ในระดับภูมิภาค โดย HUAWEI พร้อมสนับสนุนวิสัยทัศน์นี้ ด้วยโครงสร้างพื้นฐานระดับโลก,โซลูชัน AI ที่ยืดหยุ่น และโครงการพัฒนาบุคลากรดิจิทัล
ขณะที่ เดวิด หลี่ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด เสริมว่า AI ไม่ใช่เพียงเทคโนโลยี แต่เป็นพลังขับเคลื่อนความก้าวหน้าของสังคม และหัวเว่ยต้องการยกระดับทุกภาคส่วนผ่านความร่วมมือกับภาครัฐ อุตสาหกรรม และภาควิชาการ
ภายในงาน HUAWEI ยังได้เปิดตัวโซลูชัน AI รุ่นใหม่หลายอย่าง ครอบคลุมตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ และข้อมูลสำหรับ AI, ระบบการเชื่อมต่อ, โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLMs) ที่พัฒนาเพื่ออุตสาหกรรมไทย ตลอดจนโซลูชันพลังงานดิจิทัล (Digital Power) และแอปพลิเคชัน AI สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปและองค์กรธุรกิจ นอกจากนี้ พันธมิตรใน Ecosystem กว่า 40 ราย ได้ร่วมจัดแสดงนวัตกรรม AI และดิจิทัลในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น ภาครัฐ การเงิน การศึกษา และค้าปลีก พร้อมทั้งมีการเปิดตัวชุมชนเทคโนโลยีใหม่ 3 กลุ่ม ได้แก่ IP Club, OptiX Club และ OceanClub เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ของวิศวกรไทย ทั้งนี้ มีการคาดการณ์มูลค่าการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลโดยภาครัฐและเอกชนรวมกว่า 500,000 ล้านบาทภายในปี 2570 ซึ่งสะท้อนศักยภาพของประเทศไทยในการก้าวขึ้นเป็นผู้นำแห่งเศรษฐกิจดิจิทัลและ AI ในภูมิภาค