มีข่าวลือร้อน ๆ จากแหล่งวงในว่า พรรคร่วมรัฐบาลญี่ปุ่นกำลังซุ่มวางแผนแจกเงินสดให้ประชาชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากภาษีนำเข้าสหรัฐที่พุ่งสูงปรี๊ด ซึ่งกำลังฉุดเศรษฐกิจแดนปลาดิบให้ร่วงหนัก แถมยังต้องเผชิญเงินเฟ้อที่กัดกินไม่หยุด แผนนี้เริ่มมีมูลขึ้นทุกขณะ และกำลังสร้างความตื่นเต้นพร้อมความสงสัยให้ชาวญี่ปุ่น
แหล่งข่าวระบุว่า สมาชิกบางส่วนในพรรคร่วมรัฐบาลเสนอไอเดียแจกเงินตั้งแต่ 30,000 เยน (ประมาณ 7,000 บาท) ไปจนถึง 50,000 เยน (ประมาณ 10,000 บาท) ต่อคน แต่ก็ยังมีเสียงคัดค้านจากอีกฝ่ายที่กังวลว่าใครจะได้บ้าง? และเงินจากส่วนไหนมาจ่าย? คำถามเหล่านี้ทำให้ทุกฝ่ายต้องคิดหนัก งานนี้เลยยังไม่เคาะอะไรชัดเจน
ด้านหัวหน้าฝ่ายนโยบายของพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ซึ่งนำโดยนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ออกมาแย้มกับสื่อว่า พรรคร่วมต้องคุยกันให้รอบคอบ ไม่รีบตัดสินใจพลาด ส่วนนายโยชิมาสะ ฮายาชิ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีและมือขวาของอิชิบะ ก็สั่งการให้อิทสึโนริ โอโนเดระ หัวหน้าทีมนโยบายของ LDP ไปสำรวจดูว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นต้องการอะไรบ้างในตอนนี้
“เราจะรับฟังทุกความเห็น และวิเคราะห์ให้ลึกซึ้งถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น” โอโนเดระกล่าว พร้อมย้ำว่าต้องประเมินให้ชัดว่าภัยคุกคามต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังขยายตัวแค่ไหน ด้านประธานสภาวิจัยนโยบายของพรรคก็ไปออกรายการทีวี เผยว่าเรื่องนี้ต้องตัดสินใจแบบใจเย็น ไม่วู่วาม
ขณะเดียวกัน ฮายาชิ ในฐานะโฆษกรัฐบาล ออกมาประกาศชัดว่า รัฐบาลของอิชิบะยังไม่มีแผนจัดงบประมาณพิเศษสำหรับปีงบประมาณนี้ (ถึงมีนาคม 2026) ทำให้หลายคนลุ้นว่าแผนแจกเงินจะเดินหน้าต่อหรือสะดุด
เรื่องนี้มีที่มาจากแรงกดดันรอบด้าน หลังสหรัฐภายใต้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มเก็บภาษี “ตอบโต้” ญี่ปุ่น 24% สำหรับสินค้าทั่วไป และ 25% สำหรับรถยนต์ ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันพุธที่ผ่านมา ขณะที่ญี่ปุ่นเองก็เจอเงินเฟ้อจากต้นทุนที่พุ่งสูง โดยเฉพาะราคาข้าว ซึ่งเป็นอาหารหลักของชาวญี่ปุ่น ที่แพงขึ้นจากผลผลิตเสียหาย นักวิเคราะห์เตือนว่า ภาษีสหรัฐจะยิ่งซ้ำเติมเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่พึ่งพาการส่งออกอย่างรถยนต์เป็นหลัก งานนี้ชาวญี่ปุ่นเลยจับตากันตาไม่กระพริบ รอลุ้นว่ารัฐบาลจะเคาะแจกเงินเท่าไหร่ และใครจะได้ส่วนแบ่งจากแผนเยียวยาครั้งนี้บ้าง !
ที่มา kyodonews