พ.ร.ก. รับมือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ออกกฏให้ผู้ให้บริการร่วมรับผิดชอบค่าเสียหายด้วย

เว็บไซต์ราชกิจจากิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ ‘พระราชกำหนด มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2)’ ที่มีการแก้ไขและปรับปรุงข้อจำกัดสำหรับรับมือกับแก๊งคอลเซนเตอร์ โดยให้ผู้บริการมีส่วมร่วมรับผิดชอบด้วย

เหตุผลและความจำเป็นในการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลตามพระราชกำหนดนี้ เพื่อคุ้มครองประชาชนผู้สุจริตซึ่งถูกหลอกลวงจำนวนมากและมีมูลค่าความเสียหายสูงมาก สมควรมีมาตรการเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมประเภทนี้ให้หมดไปโดยเร็ว

พระราชกำหนดนี้ได้กำหนดมาตรการเพิ่มเติมหลายประการเพื่อป้องกันการก่ออาชญากรรม อย่าง

  • ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือสถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจ รายงานข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีไปยังสำนักงานป้องกันและปราบกรามการฟอกเงิน
  • จัดตั้งศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ศปอท. สำหรับรับแจ้งเหตุ ระงับบัญชีเงินฝาก หรือระงับการใช้งานบัญชีของบุคคลต้องสงสัย
  • เปิดเผยหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการป้องกันการก่ออาชญากรรม
  • แจ้งข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์ SMS ให้ กสทช. เพื่อดำเนินการระงับการใช้งาน

โดยมีความผิดและบทลงโทษที่สำคัญคือ

  • การสร้าง ครอบครอง หรือเผยแพร่: ผู้ใดสร้าง ครอบครอง หรือเผยแพร่ข้อมูล เนื้อหา หรือโปรแกรม ที่จัดทำขึ้นเพื่อใช้ในการกระทำความผิดฐานแก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
  • การทำให้แพร่หลาย: ผู้ใดทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูล เนื้อหา หรือโปรแกรมตามข้อแรก เพื่อนำไปใช้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดอาญาอื่น ต้องระวางโทษเช่นเดียวกัน
  • การกระทำเชิงพาณิชย์: หากการกระทำข้างต้นเป็นการ ซื้อ เสนอซื้อ ขาย เสนอขาย แลกเปลี่ยน เสนอแลกเปลี่ยน หรือแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ต้องระวางโทษหนักขึ้น คือ จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ประเด็นที่ประชาชนอาจให้ความสนใจมากเป็นพิเศษคือ พระราชกำหนดนี้ระบุในมาตรา 8/10 ให้ชัดเจนขึ้นว่าสถาบันการเงิน ผู้ให้บริการเครือข่าย ผู้ให้บริการโทรคมนาคม ผู้บริการอื่น ๆ ที่มีความเกี่ยวข้อง ต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้น เว้นแต่ผู้ให้บริการและสถาบันเหล่านั้นจะพิสูจน์ได้ว่าได้ปฏิบัติตามมาตรฐานหรือมาตรการเพื่อการป้องกันที่กำหนดแล้ว

รายละเอียด มาตรา 8/10


มาตรา 8/10 ให้สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจ ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ ผู้ให้บริการโทรคมนาคมอื่น ผู้ให้บริการอื่นที่เกี่ยวข้อง หรือผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ มีส่วนร่วมรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เว้นแต่พิสูจน์ได้ว่าสถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจ ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ ผู้ให้บริการโทรคมนาคมอื่น ผู้ให้บริการอื่นที่เกี่ยวข้อง หรือผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ ได้ปฏิบัติตามมาตรฐานหรือมาตรการเพื่อป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่กำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือคณะกรรมการธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ แล้วแต่กรณี

ที่มา เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา

Advertisement

Sidebar Search
Popular Now
Loading

Signing-in 3 seconds...

Signing-up 3 seconds...