แม้จะฟังดูเหมือนนิยายวิทยาศาสตร์ แต่เทคโนโลยีนี้มาจากห้องทดลองในรัฐแมรีแลนด์ สหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2018 ของศาสตราจารย์หลียงบิง หู (Liangbing Hu) นักวิทยาศาสตร์วัสดุจากมหาวิทยาลัยแมรีแลนด์ ที่ได้คิดค้นวิธีเปลี่ยนไม้ธรรมดาให้กลายเป็นวัสดุที่แข็งแรงกว่าเหล็ก แม้ช่วงแรกจะดูเหมือนแค่การค้นพบที่น่าสนใจแต่ก็ไม่เกิดขึ้นจริงในเชิงพาณิชย์
ศาสตราจารย์หูมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีนี้จนสามารถลดเวลาการผลิตจากเกือบหนึ่งสัปดาห์เหลือเพียงไม่กี่ชั่วโมง และในที่สุดเทคโนโลยีก็พร้อมที่จะนำออกสู่ตลาด เขาได้อนุญาตให้บริษัทสตาร์ตอัป InventWood นำเทคโนโลยีนี้ไปใช้เชิงพาณิชย์และในตอนนี้ InventWood เตรียมเริ่มผลิตไม้ Superwood ในฤดูร้อนปีนี้ โดยในระยะแรกจะมุ่งเน้นผลิตวัสดุปิดผิวอาคารก่อนขยายไปสู่การใช้ในโครงสร้างหลักในอนาคต ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนจากการใช้คอนกรีตและเหล็กในอุตสาหกรรมก่อสร้าง นอกจากนี้บริษัทยังได้รับเงินลงทุนรอบแรกกว่า 15 ล้านเหรียญจากนักลงทุนชั้นนำหลายรายที่สนับสนุนการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
Superwood เริ่มจากไม้ธรรมดาที่ประกอบด้วยเซลลูโลสและลิกนิน ซึ่งบริษัทเน้นเสริมความแข็งแรงของเซลลูโลสซึ่งมีคุณสมบัติเหนือกว่าคาร์บอนไฟเบอร์หลายเท่า โดยใช้สารเคมีที่ปลอดภัยตามมาตรฐานอุตสาหกรรมอาหารในการปรับโครงสร้างโมเลกุล จากนั้นบีบอัดไม้จนเกิดพันธะไฮโดรเจนระหว่างโมเลกุลเซลลูโลสเพิ่มขึ้น ทำให้ความหนาแน่นเพิ่มขึ้น 4 เท่า แต่ความแข็งแรงเพิ่มขึ้นถึง 10 เท่า วัสดุที่ได้มีความต้านแรงดึงสูงกว่าเหล็กถึง 50% และมีสัดส่วนความแข็งแรงต่อความเบาที่ดีกว่าเหล็กถึง 10 เท่า นอกจากนี้ยังทนไฟระดับ Class A ทนต่อเชื้อราและแมลง และสามารถเคลือบโพลิเมอร์เพื่อใช้ภายนอกอาคาร เช่น ผนังหรือหลังคาได้
สีของไม้จะเข้มขึ้นและดูเหมือนไม้เนื้อแข็งเขตร้อนที่มีราคาแพง โดยผลิตภัณฑ์แรกจะเน้นสำหรับงานผิวอาคารพาณิชย์และที่พักอาศัยระดับไฮเอนด์ ในอนาคต InventWood วางแผนใช้เศษไม้ชิ้นเล็กสร้างคานโครงสร้างในรูปแบบต่าง ๆ ที่ไม่ต้องตกแต่งเพิ่มเติม โดยวัสดุจะมีสีสันสวยงามเป็นธรรมชาติที่เหมือนไม้สักเลยทีเดียว
ที่มา techcrunch