เหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ทำให้หลายคนตั้งคำถามถึงระบบแจ้งเตือนภัยที่มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และเข้าถึงประชาชนได้จริง ซึ่งตอนนี้ หลายประเทศมีเทคโนโลยีที่เรียกว่า ‘Cell Broadcast’ ที่สามารถแจ้งเตือนภัยได้แบบครอบคลุมและทันที แต่ทำไมในไทยจึงยังไม่สามารถใช้งานได้กัน ?
Cell Broadcast เป็นระบบส่งข้อความฉุกเฉินที่สามารถกระจายไปยังโทรศัพท์มือถือในพื้นที่เป้าหมายได้ทันที โดยไม่ต้องใช้หมายเลขโทรศัพท์ของผู้รับ เทคโนโลยีนี้ทำงานผ่านเสาสัญญาณโทรศัพท์ (Cell Towers) และส่งข้อความแบบ ‘หนึ่งต่อหลาย’ (one-to-many) โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องปริมาณผู้รับ และเป็นข้อความที่ออกแบบมาเพื่อใช้ส่งเวลามีภัยพิบัติธรรมชาติ หรือประกาศสำคัญจากทางรัฐเท่านั้น และใช้ทรัพยากรเครือข่ายน้อยกว่าการส่ง SMS แบบเดิม ๆ
ข้อดีของระบบนี้ คือสามารถส่งข้อความแจ้งเตือนได้ แม้ในกรณีเครือข่ายโทรศัพท์ล่ม หรือมีผู้ใช้งานหนาแน่น อีกทั้งยังสามารถตั้งค่าระดับความสำคัญของข้อความ โดยระบบจะสามารถส่งเสียงเตือนแม้โทรศัพท์อยู่ในโหมดปิดเสียง และแสดงข้อความบนหน้าจอทันที โดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องติดตั้งแอปพลิเคชันอะไรเพิ่มเติม โดยมีประเทศที่เปิดใช้งานระบบนี้แล้วอย่างญี่ปุ่น (J-Alert) ที่เริ่มใช้งานอย่างจริงจังตั้งแต่ปี 2550 และสหภาพยุโรป (EU-Alert) ซึ่งในปัจจุบัน หลายประเทศใน EU ก็ได้นำระบบนี้ไปใช้ในชื่อที่แตกต่างกันไป เช่น NL-Alert ของเนเธอร์แลนด์ หรือ Cell Broadcast Warnsystem ของเยอรมนี
ในประเทศไทย ได้มีการพูดถึง Cell Broadcast อย่างจริงจังครั้งแรก หลังเหตุกราดยิงในเดือนตุลาคม ปี 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งนำไปสู่คำสั่งของนายกรัฐมนตรี ที่สั่งการให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) พัฒนาระบบ Celll Broadcast นี้ให้เสร็จภายใน 1 ปี ขณะที่ กสทช. และผู้ให้บริการเครือข่ายมือถืออย่าง TRUE-dtac และ AIS ก็ร่วมมือกันพัฒนาระบบ Cell Broadcast นี้ในปีที่แล้ว จนในที่สุด ทั้งสองเครือข่ายหลักประกาศว่าพร้อมเปิดใช้งานภายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2567 และขณะนี้ก็กำลังเตรียมเริ่มทดสอบระบบอย่างเป็นทางการในไตรมาสที่ 2 ของปี 2567 คาดว่าจะเริ่มทดสอบระบบได้ภายในเดือนเมษายนนี้
เมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ขณะที่เกิดแผ่นดินไหว กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ขอความร่วมมือจาก กสทช. ให้ส่ง SMS แจ้งเตือนประชาชนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล แต่พบข้อจำกัดของระบบ SMS เดิมที่สามารถส่งได้ครั้งละไม่เกิน 200,000 หมายเลข และเป็นการแยกส่งหาทีละหมายเลข ทีละคน ทำให้การแจ้งเตือนล่าช้า และไม่ครอบคลุมประชาชนทั้งหมด
แม้ในเชิงเทคนิค กสทช. จะระบุว่าระบบ Cell Broadcast พร้อมใช้งานแล้ว แต่ปัญหาที่ทำให้ยังไม่สามารถใช้งานได้จริง คือการขาดศูนย์บัญชาการ และกระบวนการออกคำสั่งจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่าง ปภ. ที่ยังไม่มีการจัดตั้งศูนย์บัญชาการใด ๆ ออกมา โดย TRUE เองก็ระบุว่า แม้ฝั่งภาครับอย่างผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ จะพร้อมรับข้อความแจ้งเตือนแล้ว แต่ภาคส่งข้อมูลจากศูนย์บัญชาการยังไม่ถูกจัดตั้งออกมา เลยทำให้ยังไม่สามารถส่งข้อความ Cell Broadcast ไม่ได้นั่นเอง
เทคโนโลยี Cell Broadcast ถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่ดีแน่นอน แต่ว่า ระบบนี้อาจจะยังไม่ทั่วถึงแบบ 100% ได้ เพราะว่าระบบนี้เป็นการแจ้งเตือนผ่านโทรศัพท์มือถือ แปลว่าใครที่ไม่มีโทรศัพท์มือถือ ก็จะไม่สามารถรับการแจ้งเตือนแบบ Cell Broadcast ได้
ซึ่งในหลาย ๆ ประเทศ ก็มีวิธีในการแจ้งเตือนที่แตกต่าง นอกจาก Cell Broadcast เช่นที่ญี่ปุ่น ที่มีระบบลำโพงสาธารณะ (Public Address Systems) หรือเรียกง่าย ๆ ว่าเป็นระบบเสียงตามสาย คล้ายกับวิทยุชุมชนในบ้านเรา ในการแจ้งข้อมูลไปพร้อม ๆ กับระบบ Cell Broadcast ด้วย ในขณะที่ฝั่งยุโรป ก็มีการแจ้งผ่านวิทยุ และโทรทัศน์ ควบคู่ไปกับการแจ้งผ่านระบบ Cell Broadcast ไปด้วยเหมือนกัน แปลว่าต่อให้ไม่มี Cell Broadcast ก็ยังสามารถใช้วิธีอื่นมาควบคู่กัน เพื่อให้เข้าถึงได้หลาย ๆ คนกว่ามาก
เรียกได้ว่า ถ้าจะให้ระบบการแจ้งเตือนแผ่นดินไหว หรือภัยพิบัติทางธรรมชาติอื่น ๆ นั้นมีประสิทธิภาพมากที่สุด ถ้าเราได้ใช้วิธีการแจ้งเตือนที่มีประสิทธิภาพ และทั่วถึงด้วยการใช้หลายวิธีผสมกันได้ ก็จะยิ่งช่วยให้การแจ้งเตือนเรื่องสำคัญ หรือฉุกเฉินทั่วถึงได้รวดเร็วแน่นอน
ที่มา : ThaiPBS, Springnews, Manager Online, กรุงเทพธุรกิจ