สัปดาห์แรกของการพิจารณาคดีต่อต้านการผูกขาดของ Meta บริษัทแม่ของ Facebook ได้มีการเปิดเผยข้อมูลใหม่ว่า Facebook ในสมัยนั้นได้มอง Instagram เป็นบริษัทที่เป็นภัยต่อ Facebook ในช่วงต้นทศวรรษ 2010
รัฐบาลสหรัฐฯ กล่าวหาว่า Meta ได้ละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดโดยการซื้อบริษัทอย่าง Instagram และ WhatsApp ที่ Facebook มองว่าเป็นภัยต่อบริษัทในช่วงเวลานั้น หากทนายความของคณะกรรมการการค้าแห่งสหรัฐฯ (FTC) สามารถชนะคดีนี้ได้ Meta อาจต้องขาย Instagram และ WhatsApp ตามกฏหมายต่อต้านการผูกขาด
คณะกรรมการการค้าแห่งสหรัฐฯ ได้เผยหลักฐานที่มีความน่าเชื่อถือ บ่งบอกว่า Facebook มีความกังวลว่าการเติบโตของ Instagram จะส่งผลกระทบต่อ Facebook นอกจานกี้ ผู้บริหารของบริษัทยังได้มองหากลยุทธิ์อื่น ๆ ในสกัดการเติบโต รวมถึงการคัดลอกฟังก์ชันของ Instagram, เปิดตัวแอปของตนเอง หรือการซื้อแอปแล้วไม่เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ ลงไป เป็นต้น
ตัวอย่างบทสนทนาภายใน Facebook
- Instagram มีอัตราการเติบโตที่รวดเร็วภายในระยะเวลาเพียง 4 เดือน มีผู้ใช้มากถึง 2 ล้านคน มีการอัปโหลดรูปภาพ 30,000 รูปต่อวัน ซึ่งถือว่าเยอะมาก เราต้องติดตาม Instagram อย่างใกล้ชิด – มาร์ก ซักเกอร์เบิร์ก กุมภาพันธ์ 2011
- ตอนนี้ทีมรูปภาพได้เน้นพัฒนาแอปพลิเคชันด้านรูปภาพบนมือถือเป็นหลัก เนื่องจากแอปแชร์รูปภาพที่มีความเรียบง่ายของ Instagram กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก – คริส คอกซ์ หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์, กุมภาพันธ์ 2011
- ความน่ากังวลมีผู้คนจำนวนมากที่ใช้ Instagram ทุกวัน มีผู้ใช้งานที่หลากหลายตั้งแต่เพื่อนสมัยมัธยมที่ไม่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีไปจนถึงพนักงาน Facebook เอง – มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก กุมภาพันธ์ 2012
- ผมสงสัยว่าเราควรพิจารณาซื้อ Instagram หรือไม่ แม้ว่าตอนนี้บริษัทจะมีราคาประมาณ 500 ล้านเหรียญก็ตาม Instagram มี 2 สิ่งที่เราไม่มีคือกล้องที่ดีมากๆ และเครือข่ายสำหรับการแบ่งปันภาพ — มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก กุมภาพันธ์ 2012
- สิ่งที่เราซื้อจริง ๆ คือเวลา แม้ว่าจะมีคู่แข่งรายใหม่เกิดขึ้น การเข้าซื้อ Instagram, Path, Foursquare และบริษัทอื่น ๆ ในตอนนี้จะทำให้เรามีเวลาหนึ่งปีหรือมากกว่านั้น ก่อนที่จะมีแพลตฟอร์มใหม่ในระดับนี้เกิดขึ้นมาอีกครั้ง — มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก กุมภาพันธ์ 2012
ที่มา TechCrunch