ในงาน Microsoft Build 2025 ที่จัดขึ้นในเมืองซีแอตเทิล วอชิงตัน สหรัฐอเมริกา มีพนักงานบริษัทขัดจังหวะเปิดงานของซีอีโอ สัตยา นาเดลลา (Satya Nadella) ด้วยการตะโกน “Free Palestine !” ประท้วงบริษัทถึงสัญญาเทคโนโลยี Cloud และ AI ที่มีกับรัฐบาลอิสราเอล
เหตุการณ์นี้เริ่มขึ้นโดย โจ โลเปซ (Joe Lopez) พนักงานซึ่งทำงานในตำแหน่งวิศวกรเฟิร์มแวร์ในทีมฮาร์ดแวร์ Azure ของ Microsoft มากว่า 4 ปี เริ่มประท้วงในขณะที่นาเดลลาซึ่งเป็นซีอีโอกำลังกล่าวเปิดงาน โดยมีอดีตพนักงานของ Google ที่เคยประท้วงในประเด็นเดียวกันเมื่อปี 2024 มาแล้ว เข้าร่วมด้วยเช่นกัน
ไม่นานหลังจากที่โลเปซเริ่มการประท้วง เขายังส่งอีเมลไปถึงพนักงาน Microsoft อีกหลายพันคน เพื่อจุดชนวนกระแสต้านสัญญาเทคโนโลยีกับอิสราเอลกับการนิ่งเฉยของผู้นำบริษัท ซึ่งหลังจากเกิดการประท้วงขึ้นทาง Microsoft ได้ออกมากล่าวถึงประเด็นนี้ว่าไม่พบหลักฐานใด ๆ ที่เทคโนโลยี Azure และ AI ของตนถูกนำไปใช้ทำร้ายประชาชนในฉนวนกาซา และความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทกับกระทรวงกลาโหมอิสราเอล (IMOD) ก็เป็นเพียง “ลักษณะเป็นความสัมพันธ์ทางพาณิชย์ตามปกติ” เท่านั้น
ผู้นำบริษัทปฏิเสธข้อกล่าวหาของเราว่าเทคโนโลยี Azure ถูกใช้ในการโจมตีหรือทำร้ายประชาชนในฉนวนกาซา พวกเราที่ติดตามเรื่องนี้มาโดยตลอด ต่างก็รู้ว่านี่คือคำโกหกหน้าด้าน ๆ ข้อมูลทุกไบต์ที่ถูกจัดเก็บในคลาวด์ (หลายส่วนอาจได้มาจากการสอดอย่างผิดกฎหมาย) สามารถถูกใช้เป็นข้ออ้างในการทำลายเมืองทั้งเมือง และล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ได้
โจ โลเปซ (Joe Lopez) กล่าวในอีเมลที่ส่งถึงพนักงาน Microsoft หลายพันคน
การประท้วงครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากที่อดีตพนักงาน Microsoft 2 คน เข้าขัดจังหวะในงานครบรอบ 50 ปี ของบริษัท โดย 1 ในนั้นได้กล่าวหาซีอีโอฝ่าย AI มุสตาฟา สุไลย์มาน (Mustafa Suleyman) ว่าเป็น “ผู้แสวงหากำไรจากสงคารม” และเรียกร้องให้บริษัทหยุดใช้ AI ในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในภูมิภาคบ้านเกิดของพวกเขา ต่อมายังมีการขัดจังหวะการปรากฏตัวของผู้ร่วมก่อตั้งอย่าง บิล เกตส์ (Bill Gates) และอดีตซีอีโอ สตีฟ บอลเมอร์ (Steve Ballmer) ในงานต่อมาอีกด้วย
การประท้วงเหล่านี้ล้วนถูกจัดขึ้นโดยกลุ่ม ‘No Azure for Apartheid’ ซึ่งประกอบด้วยพนักงาน และอดีตพนักงานของ Microsoft เอง ที่รวมตัวกันต่อต้านสัญญาระหว่างไมโครซอฟท์กับรัฐบาลอิสราเอล โดยกลุ่มกล่าวหาว่าบริษัท “สนับสนุน และเอื้อประโยชน์ให้รัฐแบ่งแยกสีผิว” โดยการไม่ยุติให้บริการ Cloud และ AI กับทางอิสราเอล นอกจากนี้ยังชี้ถึงรายงานจากสื่อต่าง ๆ ที่เปิดเผยว่ากองทัพอิสราเอลมีการใช้งานเทคโนโลยี Azure และ OpenAI เพิ่มมากขึ้นในการสอดแนมประชาชน รวมไปถึงใช้ในการถอดรหัส และแปลข้อความเสียงต่าง ๆ
ฮุซซาม นัสร์ (Hossam Nasr) 1 ในผู้ก่อตั้งกลุ่ม No Azure for Apartheid ซึ่งเป็นอดีตพนักงาน Microsoft ที่ถูกไล่ออกหลังจัดกิจกรรมจุดเทียนไวอาลัยให้ชาวปาเลสไตน์ที่เสียชีวิตในฉนวนกาซาหน้าสำนักงานใหญ่ของบริษัท กล่าวถึงการแถลงการณ์ล่าสุดของ Microsoft ล้วนมีความขัดแย้งในตัวเอง
พวกเขาอ้างว่าเทคโนโลยีของตนไม่ได้ถูกนำไปใช้ทำร้ายประชาชนในฉนวนกาซา แต่ในขณะเดียวกันก็ยอมรับว่าไม่มีข้อมูลว่าเทคโนโลยีพวกนี้ถูกนำไปใช้อย่างไรบ้าง ซึ่งชัดเจนว่าแถลงการณ์ครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อตอบข้อกังวลของเหล่าพนักงานจริง ๆ แต่เป็นเพียงการสร้างภาพลักษณ์ประชาสัมพันธ์ กลบเกลื่อนด้านแย่ ๆ ที่เกิดขึ้นจากความสัมพันธ์กับกองทัพอิสราเอล
ฮุซซาม นัสร์ (Hossam Nasr)
ที่มา: The Verge