ในการทดสอบโหมดขับเคลื่อนอัตโนมัติ (Full Self-Driving หรือ FSD) ของค่ายรถยนต์ไฟฟ้า Tesla ทำให้เกิดการตั้งคำถาม และข้อกังวลใหม่อีกครั้งเกี่ยวกับความพร้อมของรถ EV แบบไร้คนขับบนท้องถนน ก่อนหน้าจะมีการเปิดตัว Cybercab รถ EV ไร้คนขับแบบเต็มรูปแบบเพียงไม่กี่วัน
จากรายงานล่าสุดระบุว่า Tesla อาจชะลอการเปิดตัว Cybercab ออกไปก่อน เนื่องจากการทดสอบระบบ FSD โดยกลุ่ม The Dawn Project ร่วมกับ Tesla Takedown และ ResistAustin ณ เมืองออสติน รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา พบว่ารถ Tesla Model Y มีการขับผ่าสัญญาณไฟกระพริบ, ป้ายหยุดของรถโรงเรียน และยังพุ่งเข้าชนหุ่นจำลองเด็กขนาดเท่าของจริง โดยระบบมีการทำพลาดในจุดเดิม ๆ ถึง 8 ครั้ง ด้วยกัน
แม้ว่าระบบ FSD หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า Full Self-Driving (Supervised) จะระบุไว้ชัดเจนว่า จำเป็นต้องมีผู้ขับขี่คอยดูแลระบบอยู่ตลอดเวลาขณะใช้งาน ซึ่งหากละเลยอาจนำไปสู่ความเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุ, การบาดเจ็บสาหัส หรือกระทั่งเสียชีวิตได้
ต้องบอกว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ระบบ FSD ถูกวิจารณ์อย่างหนัก โดยก่อนหน้านี้กลุ่ม The Dawn Project ซึ่งก่อตั้งโดย แดน โอดาวด์ (Dan O’Dowd) ซีอีโอบริษัทพัฒนาระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติซึ่งเป็นคู่แข่งกับ Tesla ได้เคยออกมาเตือนเกี่ยวกับระบบดังกล่าวก่อนแล้ว โดยเฉพาะกรณีที่ระบบ FSD เมินเฉยให้กับรถโรงเรียน ซึ่งในปี 2024 ก็เคยมีกรณีรถ Tesla Model S ที่เปิดใช้ระบบนี้ ชนเข้ากับจักรยานยนต์จนมีผู้เสียชีวิตมาแล้ว
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ซีอีโอของบริษัท ออกมาโพสต์ข้อความผ่านแพลตฟอร์ม X ว่าอาจต้องเลื่อนการเปิดตัว Cybercab ในวันที่ 22 มิถุนายน 2025 ออกไปก่อน…
เราใส่ใจและระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยเป็นอย่างมาก ดังนั้นแล้ววันเปิดตัวของ Cybercab อาจต้องเลื่อนออกไปก่อน
อย่างไรก็ตามรถ Tesla คันแรกที่สามารถขับจากโรงงานไปถึงบ้านลูกค้าด้วยตัวมันเอง มีกำหนดในวันที่ 28 มิถุนายน นี้
ที่มา: Engadget