จะดีแค่ไหนถ้าเราผสมผสานถนน-รางรถไฟเพื่อใช้ในการขนส่งให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ล่าสุดทาง Glid Technologies จับมือบริษัท Mendocino Railway เตรียมทดสอบระบบขนส่งอัตโนมัติแบบไฮบริดในแคลิฟอร์เนีย
การขนส่งแต่ละแบบก็ทีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน การใช้ถนนนั้นจะทำให้ขนส่งได้เร็ว ต้นทุนขึ้นอยู่กับระยะทาง ยิ่งไกลค่าใช้จ่ายยิ่งแพง ยิ่งใช้เยอะก็ทำให้ภาครัฐมีต้นทุนในการดูแลซ่อมแซมมากขึ้น ในขณะที่ระบบรางนั้นค่าใช้จ่ายถูกกว่า แต่ก็ต้องใช้เวลาขนส่งนานกว่า นั่นจึงเกิดแนวคิดการผสมผสานระบบการขนส่งสองระบบเข้าด้วยกันเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ทาง Glid Technologies ได้ทำการต่อยอด Glider M รถยนต์อัตโนมัติที่ใช้สำหรับส่งของ นำมาผสานการทำงานเข้ากับรางรถไฟ เพื่อให้ใช้ประโยชน์จากแนวรางรถไฟสาย Skunk Train ระยะทาง 64 กิโลเมตรที่วิ่งระหว่างเมืองวิลลิตส์และฟอร์ตแบรกก์ในรัฐแคลิฟอร์เนีย
Glider M นั้นจะมีลักษณะเป็นแพลตฟอร์มที่หน้าตาเหมือนรถที่มีแค่ช่วงล่างกับล้อ ไม่มีห้องโดยสารสำหรับคนขับเพราะใช้ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ ออกแบบมาให้วิ่งได้ทั้งบนถนนและรางรถไฟ ซึ่งการวิ่งบนรางรถไฟนั้นจะทำความเร็วได้สูงสุด 129 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
การใช้งาหลักๆ ออกแบบมาสำหรับบรรทุกของ รวมถึงเชื่อมต่อกับคิงพินและเพลาท้ายของรถพ่วง ทำให้ลากจูงตู้คอนเทนเนอร์ที่บรรทุกของเต็มตู้ที่มีน้ำหนักถึง 36 ตันได้สบายๆ
ส่วนพลังงานหลักจะเป็นไฟฟ้าทั้งหมดช่วยลดการปล่อยคาร์บอนสู่ชั้นบรรยากาศ สำหรับคนที่กังวลเรื่องการชาร์จไฟ เขาก็มีนตัวเลือกอย่างรุ่น GliderM Alpha ซึ่งเป็นรถบรรทุกไฮบริดที่ใช้เชื้อเพลิงไบโอดีเซลด้วย ด้านความปลอดภัยหายห่วง ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินก็สามารถควบคุมจากระยะไกลจากศูนย์บัญชาการกลางได้
ในช่วงแรกนั้นจะเน้นเฉพาะการขนส่งสินค้า ไม่ว่าจะเป็นวัสดุจากการขุดแร่ ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ขยะ และอุปกรณ์ทางการทหาร รวมถึงขนส่งในเหตุการณ์ฉุกเฉิน
ที่มา newatlas