Apple กำลังเจอกับการฟ้องร้องในศาลรัฐบาลกลาง ในข้อหาหลอกลวงเกี่ยวกับฟีเจอร์หลายตัวของ Apple Intelligence ที่ไม่ได้ตรงกับที่บริษัทเคยโฆษณาไว้
การฟ้องร้องนี้ ถูกยื่นในวันพุธที่ผ่านมา ที่ศาลแขวงสหรัฐในเมืองซานโฮเซ่ โดยผู้ฟ้องร้องกำลังพยายามขอให้คดีนี้กลายเป็นคดีฟ้องร้องกลุ่ม (Class-Action Lawsuit) ซึ่งจะช่วยให้ผู้ที่ซื้อ iPhone หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ที่รองรับฟีเจอร์ Apple Intelligence สามารถเรียกร้องค่าชดเชยจาก Apple ได้ โดยผู้ฟ้องร้องอ้างว่า ผู้ที่ซื้ออุปกรณ์เหล่านี้ไป ไม่ได้ฟีเจอร์ที่ Apple ได้สัญญาไว้ในโฆษณา ซึ่งเป็นสิ่งที่สร้างความคาดหวังให้กับผู้บริโภค ว่าจะได้ใช้ฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาใหม่ และมีความสามารถมากกว่าเดิม แต่กลายเป็นว่าไม่สามารถใช้ได้
ตามคำฟ้องที่ยื่นโดยทนายความของผู้ฟ้องร้อง ระบุว่า “โฆษณาของ Apple ได้สร้างความคาดหวังที่ชัดเจน และสมเหตุสมผลให้กับผู้บริโภคว่า ฟีเจอร์ใหม่ที่โปรโมตจะสามารถใช้งานได้เมื่อ iPhone เปิดตัว ซึ่งตรงนี้ ทำให้ผู้บริโภคเข้าใจว่าจะได้ฟีเจอร์ใหม่ครบถ้วนตามที่โฆษณาไว้” อย่างไรก็ตาม สินค้าที่วางจำหน่ายออกไป กลับมีฟีเจอร์ที่จำกัด หรือในบางกรณี คือไม่มีฟีเจอร์ Apple Intelligence นั้นเลย ทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดเกี่ยวกับการใช้งาน และประสิทธิภาพที่แท้จริงของฟีเจอร์ดังกล่าว
การฟ้องร้องนี้ ถือเป็นปัญหาสำคัญที่เพิ่มขึ้นของ Apple ซึ่งกำลังพยายามโปรโมตฟีเจอร์ Apple Intelligence ที่คนคาดหวังไว้มาก แต่กลับพบว่าฟีเจอร์เหล่านี้ยังไม่สามารถใช้งานได้จริงตามที่โฆษณาไว้ โดยฟีเจอร์ดังกล่าว คาดว่าจะเป็นหนึ่งในฟีเจอร์ที่สำคัญ และยิ่งทำให้อุปกรณ์ Apple ฉลาดมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมอีกในอนาคต แต่การที่ฟีเจอร์เหล่านี้ไม่ได้เปิดตัวตามที่สัญญาไว้ ก็ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคได้
ล่าสุด Bloomberg ได้รายงานเมื่อวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมาว่า ทิม คุก (Tim Cook) CEO ของ Apple กำลังเจอกับความไม่พอใจจากภายในบริษัท เกี่ยวกับความล่าช้าในการพัฒนาฟีเจอร์เหล่านี้ โดยแหล่งข่าวระบุว่า ทิม คุก ได้เสียความมั่นใจในความสามารถของ จอห์น เจียนนันเดรีย (John Giannandre) หัวหน้าทีม AI ของ Apple ในการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ ๆ เหล่านี้ ซึ่งทำให้เกิดความกังวลในเรื่องการพัฒนาเทคโนโลยี AI ของทาง Apple ในอนาคต
ที่มา : techcrunch, bloomberg