ลอรีอัล กรุ๊ป (L’Oréal Groupe) กำลังให้ความสำคัญกับการศึกษาแนวทางวิทยาศาสตร์ใหม่ที่เรียกว่า ‘L’Oréal Longevity Integrative Science™’ ซึ่งเป็นการนำองค์ความรู้ด้านการมีอายุยืนยาว มาประยุกต์ใช้กับการดูแลสุขภาพผิว พัฒนาผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยแบรนด์ในเครืออย่าง Lancôme (ลังโคม) ได้เปิดตัว NEW ABSOLUE LONGEVITY SOFT CREAM เป็นครีมดูแลผิวแรกในแนวทางนี้
เมื่อวันที่ 24 เมษายน ที่ผ่านมา Lancôme ได้จัดงาน ‘Lancome Absolue Longevity Summit’ ขึ้น เพื่อนำเสนอแนวคิดและนวัตกรรมเกี่ยวกับศาสตร์แห่งการดูแลสุขภาพเพื่อชีวิตที่ยืนยาวแบบบูรณาการ ซึ่งสะท้อนทิศทางของลอรีอัลที่เน้นการนำความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับกระบวนการชราภาพของผิว มาพัฒนาเป็นแนวทางการดูแลผิวเชิงป้องกัน เพื่อส่งเสริมสุขภาพผิวที่ดีในระยะยาวด้วย
แนวทางศาสตร์แห่งการดูแลสุขภาพเพื่อชีวิตที่ยืนยาวแบบบูรณาการนี้ ใช้พื้นฐานความเข้าใจว่าสุขภาพผิวมีความเชื่อมโยงกับการมีอายุยืนอย่างมีคุณภาพ ลอรีอัลระบุว่าได้ใช้ AI พัฒนา ‘The Longevity AI Cloud™’ เพื่อช่วยวิเคราะห์ดัชนีชี้วัดทางชีวภาพ (biomarkers) 267 ตัว ที่สัมพันธ์กับกลไกความเสื่อมสภาพของผิว 9 ประการ โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาการดูแลผิวใน 3 ระดับ คือ การคาดการณ์ปัญหา, การรับมือกับสัญญาณแรกเริ่ม และการฟื้นบำรุงสภาพผิว
โดยผลิตภัณฑ์ใหม่จาก Lancôme คือ NEW ABSOLUE LONGEVITY SOFT CREAM ที่มีส่วนผสมหลักคือ Absolue Rose PDRN™ ซึ่งเป็นสารสกัดเอกสิทธิ์ที่ทาง Lancôme เคลมว่าได้รับแรงบันดาลใจจากเทคโนโลยี PDRN ที่ใช้ในวงการชีวการแพทย์ และสกัดมาจาก DNA ของกุหลาบ ตามข้อมูลจากลอรีอัลบอกว่า สารสกัดนี้ถูกออกแบบมาเพื่อส่งผลต่อไมโทคอนเดรีย ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานสำคัญที่อยู่ในเซลล์ผิวชั้นนอก โดยเน้นเพิ่มกระบวนการทำงานของเซลล์ให้ดูอ่อนเยาว์มากขึ้น
นอกจากนี้ ลอรีอัลยังได้พัฒนาเทคโนโลยีสนับสนุน เช่น L’Oréal Cell BioPrint ซึ่งพัฒนาร่วมกับบริษัท NanoEnTek โดยเป็นเครื่องมือสำหรับประเมินสภาพผิวเฉพาะบุคคล ที่สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับอายุทางชีวภาพของผิว และคาดการณ์การตอบสนองต่อส่วนผสมบางชนิดได้ด้วย