ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump )และอีลอน มัสก์ (Elon Musk) ผู้สนับสนุนทางการเมืองคนสำคัญที่สุดของทรัมป์กำลังเข้าสู่ความสัมพันธ์ที่มีรอยร้าว ทั้งคู่ต่างแสดงความคิดเห็นโจมตีกันผ่านโซเชียลมีเดียของตนเอง
สาเหตุความขัดแย้งในครั้งนี้มาจากการที่มัสก์ไม่พอใจกฏหมาย One Big Beautiful Bill Act ซึ่งมีความยาวกว่าพันหน้า ประเด็นสำคัญคือเป็นกฏหมายที่นอกจากจะสร้างหนี้สาธารณะแล้ว ยังมีการตัดงบประมาณการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าซึ่งกระทบต่อธุรกิจของมัสก์เต็ม ๆ ซึ่งทรัมป์ก้ได้ตอบโต้มัสก์ที่ไม่พอใจกฏหมายนี้เพราะกระทบต่อธุรกิจ และหากยังมีปัญหาต่อไป ทรัมป์ก็ขู่ว่าจะยกเลิกสัญญาของรัฐบาลกับ Tesla ด้วย
ทรัมป์ได้ถอนการเสนอชื่อจาเร็ด ไอแซกแมน (Jared Isaacman) บุคคลที่มัสก์ได้เลือกให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าองค์การนาซ่า นับเป็นการกระทำที่หลายคนมองว่าความสัมพันธ์ระหว่างมัสก์และทรัมป์เกิดรอยร้าวขึ้นมาจริง ๆ
ร่างกฎหมายดังกล่าวถูกนำเสนอในแง่ของความพยายามที่จะลดภาษีและเพิ่มการลงทุนในธุรกิจของสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตาม สำนักงานงบประมาณรัฐสภา (CBO) ประมาณการว่าแม้ว่าร่างกฎหมายจะลดภาษีลง 3.7 ล้านล้านเหรียญ แต่จะเพิ่มหนี้ของประเทศถึง 2.4 ล้านล้านเหรียญในระยะเวลา 10 ปี และเพิ่มเพดานหนี้ของประเทศ 4 ล้านล้านเหรียญ
ไม่เพียงเท่านั้น ร่างกฎหมายฉบับนี้ยังตัดภาษีรายได้ ทิป และค่าล่วงเวลาจากประกันสังคม อีกทั้งยังตัดลดงบประมาณด้านการดูแลสุขภาพของรัฐบาลกลาง เช่น Medicaid และ SNAP ลงเยอะมาก ด้าน CBO ประมาณการว่าหากตัดงบประมาณการดูแลสุขภาพของรัฐบาลกลางลงจะทำให้ผู้คนอีกเกือบ 11 ล้านคนไม่มีประกันสุขภาพภายในปี 2034 ทรัมป์บอกว่ามัสก์รู้เรื่องร่างกฏหมายนี้ดีอยู่แล้ว แต่มีท่าทีเปลี่ยนใจชัดเจนหลังจากรู้ว่าร่างกฏหมายนี้จะส่งผลกระทบกับ Tesla
ด้านมัสก์ก็โต้กลับอย่างดุเดือดว่าหากทรัมป์ไม่ได้ตนก็ไม่มีทางชนะการเลือกตั้งนี้อย่างแน่นอน นับตั้งแต่เริ่มต้นความขัดแย้งก็ทำให้หุ้นของ Tesla ตกลงไปกว่า 14% และหุ้นของ Trump Media ตกลงไป 8% ซึ่งสะท้อนถึงความกังวลของนักลงทุนต่อความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐกิจ
ที่มา TechCrunch