หลังจาก Samsung เปิดตัว Galaxy S รุ่น FE หรือแท็บเล็ตระดับกลางในปี 2021 และ 2023 ตอนนี้ก็มาถึงปี 2025 กับ Galaxy Tab S10 FE ซีรีส์ ได้แก่ Galaxy Tab S10 FE และ Galaxy Tab S10 FE+ ที่รอบนี้มีการอัปเกรดสเปกพร้อมกับฟีเจอร์ AI มาไม่น้อยเลยเหมือนกัน
สำหรับ Galaxy Tab S10 FE+ มีหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นเป็น 13.1 นิ้ว จาก 12.4 นิ้วใน Galaxy Tab S9 FE ใหญ่กว่า Galaxy Tab S10+ ที่มีหน้าจอขนาด 12.4 นิ้ว น้ำหนักเพิ่มขึ้นเป็น 664 กรัม จาก 627 กรัม ส่วน Galaxy Tab S10 FE รุ่นเล็กยังคงมีหน้าจอขนาด 10.9 นิ้วเท่าเดิม แต่ตัวเครื่องเบาลง 4% เหลือ 497 กรัม จาก 523 กรัม ทั้ง 2 รุ่นมีตัวเครื่องที่บางลง จาก 6.5 มม. เหลือ 6.0 มม.
Galaxy Tab S10 FE ทั้ง 2 รุ่นมีหน้าจอรีเฟรชเรตเท่ากันที่ 90Hz ความสว่างหน้าจอสูงสุด 800nits มีปากกา S Pen พร้อมใช้ในกล่อง แต่เป็น S Pen ที่ไม่รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth ตัวเครื่องขับเคลื่อนด้วยชิป Exynos 1580 เช่นเดียวกับ Galaxy A56 ด้านความจุมีให้เลือก 2 ขนาด ได้แก่ 8/128GB และ 12/256GB รองรับการเพิ่มความจุด้วย MicroSD สูงสุด 2TB กล้องหลังตัวเดียวความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 12 ล้านพิกเซล เป็นกล้องเลนส์มุมกว้าง
ด้านแบตเตอรี่นั้น Galaxy Tab S10 FE มีแบตเตอรี่ขนาด 8,000 mAh ส่วน Galaxy Tab S10 FE+ มีแบตเตอรี่ขนาด 10,090 mAh รองรับชาร์จไว 45W ตัวเครื่องของทั้ง 2 รุ่นกันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP68
Galaxy Tab S10 FE และ Galaxy Tab S10 FE+ เป็นรุ่นแรกในซีรีส์ FE ที่มาพร้อมความสามารถ AI ล้ำสมัยตั้งแต่แกะกล่อง โดยมีฟีเจอร์ดังต่อไปนี้
Galaxy Tab S10 FE และ Galaxy Tab S10 FE+ มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่เทา เงิน และสีน้ำเงิน โดย Galaxy Tab S10 FE เริ่มต้น 499 เหรียญ หรือประมาณ 17,000 บาท ส่วน Galaxy Tab S10 FE+ เริ่ม 699 เหรียญ หรือประมาณ 23,900 บาท นอกจากนี้ Samsung ยังจำหน่ายอุปกรณ์เสริมแยกอย่าง ฟิล์มกันรอย, Smart Book Cover, Book Cover Keyboard และ Book Cover Keyboard Slim ให้ซื้อแยกด้วย