James Cameron เชื่อ ! หนังฟอร์มยักษ์จะรอด ก็ต่อเมื่อลดต้นทุน VFX ซึ่ง AI อาจตอบโจทย์

เจมส์ คาเมรอน (James Cameron) ปรากฏตัวในพอดแคสต์รายการ Boz to the Future โดยในพอดแคสต์นั้น คาเมรอนกล่าวว่าอนาคตของการสร้างภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์นั้นขึ้นอยู่กับว่าจะสามารถลดต้นทุนของ VFX ลงได้ถึงครึ่งหนึ่งหรือไม่ ซึ่งตัวคาเมรอนเองกำลังศึกษาความเป็นไปได้ของ AI ในส่วนนี้ด้วยเหมือนกัน

คาเมรอนเคยบอกเมื่อเดือนกันยายน 2024 ว่าตนจะเข้าร่วมคณะกรรมการบริหารของ Stability AI ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่เบื้องหลังโมเดลการแปลงข้อความเป็นรูปภาพอย่าง Stable Diffusion

ถ้าเป็นสมัยก่อน ผมคงก่อตั้งบริษัทใหม่เพื่อแก้ปัญหานี้ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ ผมเรียนรู้ว่านั่นไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุด ผมเลยเลือกที่จะเข้าร่วมคณะกรรมการบริหารของบริษัทที่ดี มีการแข่งขันสูง และมีผลงานดี ๆ แทน – เจมส์ คาเมรอน

คาเมรอนระบุว่า การที่เขาเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการของบริษัท Stability AI ไม่ใช่เพื่อหาเงินก้อนโต แต่เพื่อที่จะเข้าใจบทบาทของ AI เข้าใจว่านักพัฒนากำลังคิดอะไรอยู่ เป้าหมายคืออะไร วงจรการพัฒนาเป็นอย่างไร รวมถึงทำความเข้าใจเรื่องทรัพยากรกับโมเดลใหม่ที่สร้างขึ้นมาเฉพาะงาน เป้าหมายของคาเมรอนคือการพยายามรวมโมเดล AI นี้เข้ากับเวิร์กโฟลว์ VFX

แม้ว่าจะเป็นการลดต้นทุน VFX ก็ไม่ได้หมายความว่าคาเมรอนจะต้องลดพนักงานครึ่งหนึ่ง แต่เป็นการเพิ่มความเร็วในการถ่ายทำให้เสร็จภายในช็อตเดียว เมื่องานแต่ส่วนเสร็จเร็วขึ้น ทุกคนรวมถึงนักแสดงจะได้ก้าวไปข้างหน้าและทำสิ่งเจ๋ง ๆ อื่น ๆ ต่อไป นี่คือความตั้งใจของคาเมรอน

คาเมรอนมีความสงสัยมานานแล้วว่า AI จะเข้ามามีบทบาทในสายงานฮอลลีวูดได้หรือไม่ ซึ่งตนย้ำว่าบทบาทของ AI ในอุตสาหกรรมควรเป็นช่วยลดภาระงานที่หนัก ไม่ใช่เข้ามาแทนที่พนักงาน คาเมรอนเคยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการนำ AI มาเขียนบท ซึ่งตนเชื่อว่าไม่มีทางที่สิ่งที่ไม่มีจิตใจจะสามารถสื่อสารอารมณ์ออกมาได้ดีเท่ามนุษย์อยู่แล้ว และไม่มีใครที่คาเมรอนรู้จักวางใจให้ AI เขียนบทสักคน

ที่มา Variety

วัชรกุล พัฒนาประทีป