รีวิว POCO F7 Ultra : เรือธงชิปตัวท็อป ราคาตัวกลาง

ให้เรียกว่าเป็นซีรีส์สมาร์ตโฟนสายคุ้มที่หลายคนจับตามองมาตลอดจริง ๆ กับเจ้า ‘POCO F Series’ ที่ปี 2025 นี้ได้เดินทางมาถึงรุ่นที่ 7 แล้ว แต่รุ่นนี้ได้มีการขยับออกมาให้มีความพรีเมี่ยมกว่าเดิม แรงกว่าเดิม และที่สำคัญ ‘Ultra’ กว่าเดิมด้วย กับ POCO F7 Ultra สมาร์ตโฟนเรือธงเบอร์สุดของ POCO แบรนด์ลูกของ Xiaomi ที่สเปกใส่เต็มที่สุดที่ POCO จะให้ได้ แล้วรุ่น Ultra ครั้งแรกของ POCO จะดีแค่ไหนกัน บทความนี้มีคำตอบ

อะไรทำให้สมาร์ตโฟนเรียกตัวเองว่าเป็นรุ่น ‘Ultra’

คือผู้เขียนได้เดินทางไปร่วมงานเปิดตัว POCO F7 Series ที่สิงคโปร์มา และสิ่งที่ทาง POCO พูดย้ำในช่วงเปิดตัว POCO F7 Ultra หลายรอบคือเรื่องของความเป็น ‘สมาร์ตโฟนรุ่น Ultra’ ที่ราคาเบา คือการเป็นสมาร์ตโฟนรุ่น Ultra ได้นั้น จะต้องประกอบไปด้วยคุณสมบัติด้านความสามารถภายในเครื่องที่รอบด้าน ไม่ใช่แค่สเปกแรงแค่อย่างเดียว แต่ด้านอื่น ๆ เช่นการถ่ายรูปก็ต้องดีด้วย ก็เลยออกมาเป็น POCO F7 Ultra เครื่องนี้

ดังนั้น บทความนี้เลยอยากที่จะ ‘ตัดเกรด’ ความเป็น Ultra ของ POCO F7 Ultra ว่าจะเป็นมือถือที่สมชื่อ Ultra หรือไม่ ผ่านทุกมิติในองค์รวมของสมาร์ตโฟนเครื่องนี้ ทั้งดีไซน์, สเปก, กล้อง, แบตเตอรี่ และฟีเจอร์ AI นั่นเอง หัวข้อย่อยเลยขอค่อย ๆ เล่าส่วนนี้ไปทีละส่วนเลย

ดีไซน์รอบตัวเครื่อง

ไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไร POCO F7 (ทั้ง Pro และ Ultra) มากับดีไซน์ที่เราไม่เคยเห็นในสมาร์ตโฟน ‘Xiaomi’ หรือ ‘POCO’ ที่เรตราคาระดับนี้เท่าไหร่ เรียกว่าเราแทบไม่เคยเห็นสมาร์ตโฟนทรงนี้ ที่เป็นดีไซน์กล้องถ่ายภาพกลม วางไว้ด้านมุมบนซ้าย คือบอกเลยวาเป็นดีไซน์ที่แปลกใหม่ และไม่ค่อยได้เห็นออกมาจากจากค่ายนี้เลยดีกว่าในตลาดโลก

แต่ในจีนเขามีมานานแล้วครับ กับสมาร์ตโฟนที่มีชื่อรุ่นว่า ‘Xiaomi Civi’ นั่นเอง ซึ่งสมัยก่อน Xiaomi Civi ก็เป็นสมาร์ตโฟนที่ขายเฉพาะในจีน กลุ่มเป้าหมายคล้าย ๆ กับ Xiaomi Number-T Series คือกล้องสวย ราคาคุ้ม จนกระทั่งออก Xiaomi 14 Civi ในอินเดียไป แต่สมาร์ตโฟนรุ่นพวกนี้เขาจะไปทางกล้องกลมนั่นแหละ

ซึ่งอีกรุ่นที่เป็นเหมือนฐานรากของ POCO มาโดยตลอดคือ ‘Redmi’ ที่ขายเฉพาะในจีน อย่าง POCO F7 Ultra และ POCO F7 Pro ก็มีดีไซน์ที่ตามมาจาก Redmi K80 และ K80 Pro นั่นเอง ซึ่งสำหรับ POCO F7 Ultra จะมีดีไซน์ที่โดดเด่นกว่า Redmi K80 Pro ตรงสีนี่แหละ อย่างสีเหลือง – Yellow (ตั้งใจให้เป็นมุขเลยนะ) ที่ทำออกมาโดดเด่นตั้งแต่เห็นเลยว่านี่แหละ คือสมาร์ตโฟน POCO จริง ๆ จริง ๆ มีสีดำ – Black ด้วย สีนั้นจะออกไปทางสุขุม ดุดันมากกว่า ไม่ได้ตะโดนแบบสีเหลืองนี้นะ

แต่ในรายละเอียดลึก ๆ ของมันก็มีอะไรที่เสริมความโดดเด่นของตัวเครื่องเหมือนกัน อย่างฝาหลังที่ทำเป็นกระจกขัดด้านแบบโค้งเล็กน้อยเพื่อให้เข้ากันกับมือของเรา หรือบอดี้โลหะที่ทำให้ดูแข็งแรง และงานประกอบที่หนักแน่น ซึ่งเวลาเราถือใช้แล้วได้ความรู้สึกที่มั่นคง ใช้งานแล้วติดมือ และไม่ได้รู้สึกถึงความก๊อกแก๊กและความถูกของตัวเครื่องใด ๆ เลย และยังกันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68 ด้วย

อีกอย่างที่เรียกว่าทำมาดีมาโดยตลอดสำหรับสมาร์ตโฟน POCO คือมอเตอร์สั่นนี่แหละ ที่ได้ให้มอเตอร์สั่นที่แน่น แรง แต่ไม่ได้สั่นแบบแรงเว่อแบบที่เรารู้จักกันแบบเดิม และใช้พิมพ์ได้ติดมือสุด ๆ และกับสมาร์ตโฟน Xiaomi ที่ใช้มอเตอร์สั่นแบบ Linear (หรือมอเตอร์สั่นตามแกน) ที่สั่นแบบแน่น ๆ นี้จะมีเอฟเฟ็กต์กับทุกอย่างของตัวเครื่องเลย ตั้งแต่การกดล็อกหน้าจอ จนถึงการตอบสนองต่อการกดปุ่มย้อนกลับต่าง ๆ มอเตอร์สั่นที่ดีช่วยให้ประสบการณ์การใช้งานดีขึ้นเยอะเลย

ส่วนเรื่องพอร์ตก็มีครบตามสมาร์ตโฟนเรือธงทั่วไป วางปุ่มต่าง ๆ ไว้ด้านขวา อยู่ในตำแหน่งกำลังดี ไม่สูงเกินไป และวางพอร์ต, ไมค์ และลำโพงไว้ด้านล่าง แต่ปล่อยฝั่งซ้ายและด้านบนโล่งไปเลย แถมเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ ยังเป็นเซนเซอร์แบบ Ultrasonic คือใช้คลื่นอัลตร้าโซนิก เหมือนคลื่นเสียงในการสแกน ซึ่งเร็วกว่าแบบแสงทั่วไป และมักจะเจอในสมาร์ตโฟนเรือธงเท่านั้น

ถามว่ารวม ๆ แล้วเป็นดีไซน์แบบสมาร์ตโฟนรุ่น Ultra ไหม เรียกว่าในหลาย ๆ ส่วน เลย ทั้งดีไซน์ งานประกอบ การกันน้ำกันฝุ่น จนถึงรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบมอเตอร์สั่น หรือการกันน้ำกันฝุ่น IP68 เพราะงั้นเรื่องนี้ถือว่าผ่าน

สเปกภายในเครื่อง

แต่แน่นอนว่า ใครที่เคยใช้ หรือเคยได้รู้จัก ‘POCO’ ก็น่าจะรู้ว่านี่คือแบรนด์สมาร์ตโฟนที่ชอบให้สเปกคุ้ม ๆ เงิน และแรง ๆ ซึ่งคราวนี้เป็นครั้งแรกที่ POCO ใส่ชิปเซตเรือธงปีนี้เข้ามาใส่ใน POCO F7 Ultra เครื่องนี้ นั่นคือ Qualcomm Snapdragon 8 Elite คือใช้ชิปเซตเบอร์สุดของปีนี้เลยนั่นเอง

จังหวะที่อ่านมาถึงตรงนี้อาจจะมองว่า สมาร์ตโฟนเครื่องนี้ราคาแพงแน่ ๆ เลย เพราะงั้นนี่คือจังหวะเหมาะที่จะบอกว่า POCO F7 Ultra เปิดราคาขายแบบเต็ม ๆ เริ่มที่ 21,990 บาท เท่านั้น ใช่ครับ อ่านไม่ผิด ราคาเต็ม ๆ ไม่ทันแตะ 22,000 บาทเลย แถมช่วงแรกยังลดเหลือ 20,490 บาท อีกต่างหาก เพราะงั้นนี่อาจจะเป็นสมาร์ตโฟนที่คุ้มราคาที่สุดของ POCO เลยก็ว่าได้

แต่เชื่อเถอะว่า POCO แกใส่มาจริง ๆ โดยให้ความจุแรม LPDDR5X 12GB หรือ 16GB กับหน่วยความจำ UFS 4.1 256GB หรือ 512GB ซึ่งไม่ว่าจะตัวเริ่มต้นหรือตัวท็อป ก็ให้สเปกมาสูงอยู่ดี ซึ่งแค่เรื่องชิปและความจุของเครื่องล้วน ๆ ก็ทำให้ POCO F7 Ultra มีความเป็น ‘Ultra’ ครบถ้วนแล้ว

ซึ่งเรื่องนี้ตอบได้ด้วยเรื่องของตัวเลขเลยครับ ถ้า Benchmark ตัวเครื่องดูก็จะเห็นว่านี่คือสเปกแบบเรือธงโดยไม่ต้องเร่งหรืออะไรเลย ไม่ว่าจะด้วย AnTuTu, Geekbench 6 หรือ 3DMark ต่างก็ออกมาเป็นคะแนนที่สูงและเหมาะใช้เล่นเกมสุด ๆ หรือจะใช้ทำงานต่าง ๆ ก็ไม่ต้องห่วงอะไรมากนัก ลองดูเลขคะแนนจากแต่ละชุดทดสอบกันได้

พอมาเป็นเรื่องการเล่นเกม สเปกที่ใส่เต็มขนาดนี้ก็เหมาะสมมาก ๆ ที่จะทำให้เราเล่นเกมอะไรก็ได้ เราเลยลองเล่นไปหลายเกมเลย ทั้ง Genshin Impact, Zenless Zone Zero, Wuthering Waves, RoV ที่คนจะชอบเล่นกัน ก็พบว่าสามารถเล่นได้แบบสบาย ๆ ปรับสุดก็เล่นลื่นหมด คิดว่าน่าจะรองรับเกมอื่น ๆ ที่กำลังจะออกในอนาคตได้อีกไม่น้อยแน่นอน

POCO บอกว่าได้ใส่ ชิปเซต VisionBoost D7 เพิ่มเข้ามาในตัวเครื่อง คือสามารถแทรกเฟรมเรตให้เล่นได้ 120FPS ในบางเกม, เพิ่มความละเอียดเกมได้สูงสุด 2K, ทำเกมให้สว่างมากขึ้นด้วยการเปิด HDR ก็ใช้ชิปเดียวกันนี้มาช่วยให้ประสบการณ์การเล่นเกมของเราดีขึ้นได้นั่นเอง ซึ่งแม้ว่าจะยังไม่ได้รองรับทุกเกม แต่อย่าง Genshin Impact, Zenless Zone Zero หรือกระทั่ง RoV ก็สามารถเพิ่มเฟรมเรตได้ และเพิ่มความละเอียดได้ เปิด HDR ก็ได้ เปิดพร้อมกันได้ด้วย แต่เอาจริง ๆ จากประสบการณ์แล้ว อยากให้เปิดแค่แทรกเฟรมเรตมากกว่า ตัวเกมที่ไม่ได้เร่งความละเอียดก็ดูดีมากอยู่แล้ว

แล้วก็ ข้างในเครื่องใส่ระบบระบายความร้อน LiquidCool 4.0 ซึ่งเป็นเหมือนระบบในการดึงอุณหภูมิออกจากตัวเครื่องขนาด 5400 ตารางมิลลิเมตร เพื่อให้เล่นได้นานขึ้นและรักษาประสิทธิภาพที่สูงไว้ได้ด้วยนะ แล้วยังใช้ระบบ IceLoop แบบช่องคู่ 3D เอาง่าย ๆ คือดึงอุณหภูมิออกได้เร็ว และเล่นได้นานขึ้นนั่นแหละ

นอกจากนั้น เรื่องของหน้าจอเองก็ให้มาโหดไม่แพ้ส่วนอื่น ๆ เลย เป็นหน้าจอขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 2K รีเฟรชเรต 120Hz เป็นหน้าจอ ‘Flow AMOLED display’ ความละเอียด 3200 x 1440 ความสว่างสูงสุด 1800 nits (Peak ที่ 3200 nits) และมี PWM Dimming 3840Hz ด้วย ซึ่งคุณภาพภาพคือคมชัด ดูดีมาก ๆ แล้วยังแสดงผลสีได้ตรงด้วย ไม่เน้นเรื่องความสีสดอะไรมากนัก เอามาใช้งานจริง ๆ นอกจากจะชัด สู้แสงดีแล้ว ยังเร่งความสดของภาพได้ดีด้วย ถ้าใช้ชิป VisionBoost D7 มาเพื่อเพิ่มความสดของภาพเกม

แถมอีกนิดคือเรื่องซอฟต์แวร์ในเครื่อง ที่ POCO ยืนยันว่าตัว POCO F7 Pro และ F7 Ultra จะได้อัปเดตซอฟต์แวร์ต่อเนื่อง 4 ปี และจะได้อัปเดตแพทช์ความปลอดภัยอีก 2 ปี เป็น 6 ปีด้วย แปลว่าตัวเครื่องจะสามารถใช้งานได้ยาว ๆ อย่างน้อย ๆ 4 ปี คืออัปเดตเวอร์ชัน Android จาก 15 ไปสูงสุดถึง Android 19 เลยทีเดียว เรียกว่าใช้งานได้นานจริง ๆ

โดยรวม ๆ แล้ว เรื่องของประสิทธิภาพของ POCO F7 Ultra นั้นก็ให้ระดับ Ultra เหมือนกัน ทั้งชิปเซตที่ขึ้นไปในระดับ Snapdragon 8 Elite, ความจำที่ใช้รุ่นใหม่ที่แรงทั้งหมด แล้วก็ยังมีฟีเจอร์การเล่นเกมที่เยอะมาก ทั้งเพิ่มเฟรมเรต เพิ่มความละเอียด เล่นเกมได้ทุกเกมด้วย เป็นสเปกมือถือเล่นเกมในราคาที่เบาของจริง เรื่องนี้ถือว่าผ่านเหมือนกัน เป็นจุดเด่นที่สุดของ POCO F7 Ultra เลยก็ว่าได้

กล้องถ่ายภาพ

ทีนี้เรื่องกล้องถ่ายภาพ POCO ปกติก็ไม่ได้เน้นเรื่องนี้มากขนาดนั้น ซึ่ง POCO F7 Ultra ก็ไม่ได้แตกต่างมากจนเป็นนัยสำคัญ แต่ถ้าลองดูการให้กล้องถ่ายภาพของ POCO มาลึก ๆ จริง ๆ จะเห็นว่าสำหรับ F Series ก็ให้กล้องถ่ายภาพมาครบระยะเลยทีเดียว ประกอบไปด้วย

  • กล้งถ่ายภาพหลัก 50MP (OmniVision Light Fusion 800, f/1.6, OIS)
  • กล้องถ่ายภาพซูม 50MP (Samsung ISOCELL JN5 2.5x, f/2.0)
  • กล้องถ่ายภาพมุมกว้างมาก 32MP (Samsung ISOCELL KD1 120 องศา f/2.2)
  • กล้องหน้า: 32MP (Samsung ISOCELL KD1 ไม่บอก f/)

เรียกว่าไม่ว่าจะกล้องไหนก็ไม่ได้มีการลดสเปกไปใช้กล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซลเลย แต่ให้กล้องถ่ายภาพที่ความละเอียด 32 ล้านพิกเซลแทน ข้อดีคือ ตัวเซนเซอร์มีพื้นที่ความละเอียดให้ยวบพิกเซล (Pixel Binning) มากขึ้นได้ ทำให้ถ่ายได้สว่างและมีความละเอียดมากขึ้นได้ด้วยนั่นแหละ

แต่ถ้าถามว่า POCO F7 Ultra ถ่ายรูปได้ดีไหม ว่ากันตรง ๆ คือถ่ายได้ดีกว่าที่คิดไว้เลย คือแม้ว่าจะไม่ได้มีการปรับจูนซอฟต์แวร์กล้องถ่ายภาพที่ลึกมาก ๆ เหมือนอย่าง Xiaomi Number Series (พวก Xiaomi 15, Xiaomi 14T ที่ได้ Leica มาช่วยจูนซอฟต์แวร์กล้อง) แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าภาพที่ถ่ายมาไม่ได้มีการปรับแต่งซอฟต์แวร์อะไรเลย เรียกว่าตัวเครื่องได้ปรับแต่งภาพให้เหมาะสมกับสิ่งที่เราเห็นอยู่ตรงหน้ามากกว่า

ถ้าในด้านการเอา POCO F7 Utlra มาใช้ในการถ่ายภาพทั่วไป POCO F7 Ultra เหมาะเอาไว้ถ่ายภาพในชีวิตประจำวันไม่น้อยเลยทีเดียว คือได้ภาพที่รายละเอียดดี และได้ภาพที่สีตรง ๆ ไม่เน้นความสดเด้ง แล้วก็ได้สีที่เน้นความธรรมชาติไม่น้อย แต่ก็ถ่ายได้ดีในหลายระยะนะ ทั้งกล้องถ่ายภาพมุมกว้างมาก กล้องหลัก และกล้องซูมเลย และความต่อเนื่องของสีก็ทำได้ดีด้วยนะ ลองดูภาพที่ได้ไปลองถ่ายรูปไปเรื่อยจากสิงคโปร์​กันดูว่าภาพที่ได้มา เหมาะจะใช้ท่องเที่ยวมากน้อยแค่ไหนกัน กดที่ภาพเพื่อดูภาพใหญ่ได้นะ

แล้วก็เรื่องของวิดีโอที่ตอนนี้เราสามารถถ่ายที่ 4K 60FPS ได้ทั้งจากกล้องถ่ายภาพหลัก และซูมเลย (แต่กล้องมุมกว้างมากถ่ายได้แค่ 1080P 60FPS) แถมกล้องหลักก็ถ่าย 8K (24FPS) ได้อีก เอาเป็นว่าลองดูวิดีโอจากที่ได้ลองถ่ายชมเมืองที่สิงคโปร์แบบเบื้องต้นกันดู

รวม ๆ แล้วเรื่องกล้องถ่ายภาพ ถามว่าเป็นสมาร์ตโฟนระดับ ‘Ultra’ ได้ไหม อาจจะยังไม่ถึงขั้นนั้น แต่ถ้าให้เรียกว่านี่คือสมาร์ตโฟนที่กล้องดีไหม ขอใช้คำว่า นี่คือสมาร์ตโฟนที่กล้องใช้งานได้ดีรุ่นหนึ่งเลย เพียงแต่โทนของภาพในองค์รวม ๆ แล้วจะอยู่ในระดับที่เป็นโทนติดธรรมขาติ ไม่สดมากเกินไปมากกว่า

แบตเตอรี่

สมาร์ตโฟนที่เล่นเกมได้ดี ยังไงก็ต้องมีแบตเตอรี่ที่ดีด้วย จะได้เล่นเกมได้นาน ๆ คือ POCO F7 Ultra ให้แบตเตอรี่มาที่ 5,300 mAh เอาจริง ๆ ถ้าเทียบกับเจ้าอื่น ๆ ในตลาดก็ไม่ได้มีปริมาณที่เยอะมาก เพราะหลายเจ้าเริ่มทำสมาร์ตโฟนที่มีแบตเตอรี่แตะหลัก 6,000 mAh กันแล้ว แต่ถือว่ายังเป็นปริมาณที่สูงอยู่ดีนะ ตอนเอาไปใช้งานจริงแบบใช้งานทั่วไปมา ก็เจอว่าเอามาใช้งานปกตินี่สบาย ๆ จนจบวันได้เลย แต่ถ้าเอามาเล่นเกม Genshin Impact ไปประมาณ 15 นาที แบตเตอรี่ในเครื่องจะลดไปแค่ 5% เท่านั้น (เล่นปรับสุด, ใช้ฟีเจอร์เพิ่มเฟรมเรตเป็น 120FPS, Wi-Fi)

แต่ต่อให้แบตเตอรี่ลดเร็วกว่านี้จากการใช้งานที่หนักหน่วงกว่านี้ ตัวเครื่องยังสามารถชาร์จแบตเตอรี่กลับได้เร็วมาก ๆ ด้วยเหมือนกัน ด้วยมาตรฐานการชาร์จเร็วของ Xiaomi เอง อย่าง HyperCharge ที่ 120W ซึ่งสูงสุดสำหรับสมาร์ตโฟน Xiaomi แล้ว แถมยังให้หัวชาร์จมาในกล่องเลยด้วย ไม่ต้องซื้อเพิ่ม ซึ่งหัวชาร์จที่แถมมานี้สามารถชาร์จตัวเครื่องได้เร็วมาก ๆ เรียกว่าต่อให้ลืมชาร์จตอนกลางคืน ตื่นเช้ามาเสียบชาร์จไว้ ไปอาบน้ำ ออกมา แบตเตอรี่ก็เต็ม หรือเกือบเต็มได้เลยทีเดียว

ฟีเจอร์ AI

อีกอย่างที่ไม่พูดถึงไม่ได้สำหรับสมาร์ตโฟนที่จะเรียกว่าเป็นสมาร์ตโฟนระดับ ‘Ultra’ เรื่องของ AI ก็คงต้องเอามาพูดถึงด้วยเหมือนกัน ในยุคสมัยที่ AI เป็นส่วนหนึ่งของฟีเจอร์ในสมาร์ตโฟนไปแล้ว POCO F7 Ultra ก็มีฟีเจอร์ AI มาพอสมควรเหมือนกัน เช่น AI Write (ให้ AI ช่วยเขียน), AI Gallery (เพิ่มความละเอียดภาพ, ขยายภาพ, AI Erase Pro, AI Film), ใช้ AI ถอดเสียงคำพูด, AI Subtitle มีให้ใช้หมดเลย หรือกระทั่ง Circle to Search หรือ Gemini ก็มีให้ใช้ด้วยเหมือนกัน เรื่องการใช้งานแต่ละฟีเจอร์สามารถลองดูรีวิวอื่น ๆ ได้ แต่ในด้านความครบของฟีเจอร์ AI นั้น ถือว่าได้ให้มาครบในระดับที่เราสามารถนำไปใช้งานได้เลย

POCO F7 Ultra เหมาะกับใคร

อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนน่าจะพอเห็นภาพแล้วว่า POCO F7 Ultra คือสมาร์ตโฟนที่ตอบโจทย์สำหรับสายที่เน้นความคุ้มค่าเรื่องสเปกโดยเฉพาะ จากที่ตัวเครื่องให้ชิปเซต Snapdragon 8 Elite ซึ่งรู้ ๆ กันอยู่ว่านี่คือชิปเซตเรือธงของปีนี้ POCO F7 Ultra รุ่นนี้จึงเหมาะมากสำหรับคนที่มองหาสมาร์ตโฟนเกมมิงที่อยู่ในระดับแรงสุด พร้อมใช้เล่นสุด ในราคาที่คุ้มที่สุด

และถ้าพูดกันแบบตรงไปตรงมา POCO F7 Ultra ถือเป็นรุ่นที่เปิดราคามาได้คุ้มค่าที่สุดรุ่นหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะเริ่มต้นเพียง 21,990 บาทเท่านั้น เรียกได้ว่าแทบไม่มีคู่แข่งในเรทราคาเดียวกันที่ให้สเปกระดับนี้ แน่นอนว่าอาจจะต้องมีบางส่วนที่ลดทอนลงบ้าง เพื่อแลกกับราคาที่จับต้องได้ แต่ถ้าสิ่งที่ตัดออกไป ไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับคุณแล้วล่ะก็ POCO F7 Ultra อาจกลายเป็นสมาร์ตโฟนเครื่องใหม่ที่ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานและงบประมาณได้อย่างลงตัวทีเดียว

POCO F7 Ultra วางจำหน่ายในไทยที่ 2 ความจุด้วยกันครับ คือ

  • POCO F7 Ultra แรม 12GB และหน่วยความจำ 256GB ราคา 21,990 บาท
  • POCO F7 Ultra แรม 16GB และหน่วยความจำ 512GB ราคา 23,990 บาท

แต่ POCO จะขายสมาร์ตโฟนผ่านช่องทางออนไลน์เท่านั้น สำหรับในบ้านเรา ลองหาซื้อได้ที่ mi.com, Lazada, Shopee และ TikTok Shop ของ Xiaomi หรือ POCO ได้เลย

นักเขียนตัวเล็กๆ (?) ที่โตมากับไขควงและเมนบอร์ด เพราะโดนเกณฑ์เป็นลูกมือช่างซ่อมคอม (ที่เรียกว่าพ่อ) มาตั้งแต่เด็ก ๆ โตมาเลยมาเอาดีเรื่องเทคฯแทน ชอบตามข่าวเทคฯ ใหม่ ๆ ลอง Gadget แปลก ๆ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ตโฟน หูฟัง คอมพิวเตอร์ แล้วเอามาเล่าให้ฟังกัน

8.8 / 10คะแนนรวม
กล้องถ่ายภาพ 8.0
ประสิทธิภาพภายในเครื่อง 10.0
หน้าจอ 9.0
แบตเตอรี่ 8.0
ดีไซน์ 8.5
ความคุ้มค่า 9.5

POCO F7 Ultra

สมาร์ตโฟนระดับ 'Ultra' ที่ราคาคุ้มที่สุด กับสิ่งที่ต้องแลกมา

ให้เรียกว่าเป็นสมาร์ตโฟนระดับ 'Ultra' ที่ราคาเบาที่สุดก็ว่าได้ กับ POCO F7 Ultra สมาร์ตโฟนรุ่น 'Ultra' รุ่นแรกของ POCO ที่จัดเต็มทั้งชิปเซต Snapdragon 8 Elite และกล้องถ่ายภาพครบระยะ นอกจากสเปกที่แรงแล้ว กล้องก็ดี ดีไซน์ก็แปลกใหม่หน่อย แล้วยังมีฟีเจอร์ AI อีก แล้วจะมีอะไรที่ต้องแลกมาบ้างล่ะเนี่ย ?

Pros
  • ชิปเซตในเครื่องแรงกว่าใครเพื่อนในปีนี้ เล่นเกมดีมาก มีชิปให้เพิ่มเฟรมเรตเกมได้อีก
  • ราคาคุ้มค่าตัวมาก ๆ แม้จะเป็นราคาเต็ม
  • มีฟีเจอร์ AI ให้เล่นด้วย แม้จะเน้นเล่นเกม
Cons
  • กล้องถ่ายภาพสีออกไปทางเรียล ๆ ไม่ได้มีความสดมากนัก
  • แบตเตอรี่แอบลดเร็วเล็กน้อยเวลาเล่นเกม และยังมีแบตเตอรี่น้อยกว่ารุ่นอื่นในสเปกเดียวกัน

Advertisement

Sidebar Search
Popular Now
Loading

Signing-in 3 seconds...

Signing-up 3 seconds...