iPhone 17 Pro อาจมีราคาทะลุ 69,000 บาท ท่ามกลางนโยบายภาษีของทรัมป์

หลังประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ประกาศขึ้นภาษีสินค้าที่นำเข้ามาในสหรัฐอเมริกาอย่างน้อย 10% แต่ที่หนักคือประเทศจีน โดนภาษีนำเข้าสูงถึง 54% แน่นอนว่า Apple จะได้รับผลกระทบจากการขึ้นภาษี และจะส่งผลต่อราคาของ iPhone โดยตรงด้วย

อ้างอิงข้อมูลจาก Reuters โดยนักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ Rosenblatt Securities เชื่อว่า Apple อาจขึ้นราคา iPhone และ Apple Watch ขึ้นถึง 43% เพื่อชดเชยต้นทุนภาษีศุลกากรที่เพิ่มขึ้น และจะเป็นภาระต่อผู้บริโภคที่จะต้องซื้อสินค้าของ Apple ในราคาที่สูงขึ้นกว่าเดิม สายผลิตภัณฑ์ที่เหลือของ Apple ก็จะมีราคาที่แพงขึ้นจากนโยบายการขึ้นภาษีของทรัมป์เช่นเดียวกัน

โดยเราอาจเห็นราคาแต่ละผลิตภัณฑ์สูงขึ้นในลักษณะนี้

• iPhone แพงขึ้น 43%
• Apple Watch แพงขึ้น 43%
• iPad แพงขึ้น 42%
• AirPods แพงขึ้น 39%

หากนำตัวเลขดังกล่าวมาคิดจริงแล้ว ผู้ใช้งานจะต้องจ่ายเงินมากกว่า 1,140 เหรียญสำหรับ iPhone 16 รุ่นเริ่มต้น หรือประมาณ 39,400 บาท ซึ่งปัจจุบันมีราคาเริ่มต้นที่ 799 เหรียญ (ราคาไทย 29,900 บาท) ส่วน iPhone 16 Pro Max รุ่นท็อปสุดที่มีพื้นที่เก็บข้อมูล 1TB จะมีราคาเกือบ 2,300 เหรียญ หรือประมาณ 79,400 บาท ปัจจุบันมีราคาอยู่ที่ 1,599 เหรียญ (ราคาไทยอยู่ที่ 64,900 บาท)

แม้แต่ iPhone 16e ที่เน้นทำตลาดราคาถูกสุด ราคา 599 เหรียญ ก็จะเพิ่มขึ้นเป็น 850 เหรียญ อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนจะเห็นด้วยกับการปรับขึ้นราคา 43% ที่คาดการณ์ไว้ อย่าง Counterpoint Research เชื่อว่าตัวเลขจะอยู่ที่ประมาณ 30% ไม่น่าจะมากกว่านี้ไปได้

ปัจจุบันจีนครองส่วนแบ่งการผลิตสินค้าของ Apple อยู่ที่ประมาณ 80% โดย 90% ของ iPhone ผลิตขึ้นในประเทศจีน ส่วน 80% ของ iPad ผลิตขึ้นในประเทศจีน แม้ว่า Apple จะพยายามขยายฐานการผลิตสินค้าไปในประเทศไทย ไต้หวัน อินเดีย เวียดนาม รวมถึงประเทศอื่น ๆ แต่ประเทศเหล่านี้ก็อยู่ในรายการภาษีที่ทรัมป์ขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน

ที่มา AppleInsider

วัชรกุล พัฒนาประทีป