
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้หันมาให้ความสนใจกับอุปกรณ์เครือข่ายอย่างเราเตอร์ โดยเฉพาะแบรนด์ TP-Link ซึ่งถือเป็นหนึ่งในผู้ผลิตเราเตอร์สำหรับใช้งานภายในบ้านที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ทั้งในสหรัฐฯ และทั่วโลก
Washington Post รายงานว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์ให้ข้อสรุปว่าผลิตภัณฑ์ของ TP-Link Systems มีความเสี่ยงต่อสหรัฐฯ เนื่องจากผลิตภัณฑ์มีการเก็บข้อมูลที่ละเอียดอ่อนในสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่เชื่อว่า TP-Link เองก็อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลจีนด้วย
โฆษกของ TP-Link บอกกับทาง Washington Post ว่า เนื่องจากเป็นบริษัทอิสระภายในสหรัฐฯ ทำให้ไม่มีรัฐบาลและประเทศใด ๆ รวมถึงรัฐบาลจีนที่จะสามารถเข้าถึงหรือควบคุมการออกแบบและการผลิตผลิตภัณฑ์ของ TP-Link ได้
TP-Link ก่อตั้งขึ้นที่เมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน ในปี พ.ศ. 1996 โดยสองพี่น้อง เจฟฟรีย์ (เจียนจุน) เชา (Jeffrey (Jianjun) Chao) และเจียซิง จ้าว (Jiaxing Zhao) เมื่อเดือนตุลาคม 2024 หรือ 2 เดือนหลังจากที่สมาชิกคณะกรรมการคัดเลือกของสภาผู้แทนราษฎรเรียกร้องให้มีการสอบสวนเราเตอร์ TP-Link บริษัทก็แยกตัวออกเป็น 2 บริษัท ได้แก่ TP-Link Technologies และ TP-Link Systems (แยกตัวจากจีน) แม้ว่าจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการว่าแยกตัวจากบริษัทแม่ใยประเทศจีนแล้วนั้น แต่รัฐบาลสหรัฐฯ ยังตั้งข้อสังเกตว่า TP-Link Systems ยังอาจอยู่ภายใต้การควบคุมจากรัฐบาลจีนได้ เนื่องจากจีนมีข้อกฎหมายที่บังคับให้บริษัทที่จดทะเบียนต้องร่วมมือกับหน่วยงานด้านความมั่นคงของรัฐด้วย
อีกประเด็นหนึ่งคือส่วนแบ่งทางการตลาด ซึ่งในสหรัฐฯ TP-Link มียอดขายเราเตอร์ภายในบ้านที่สูงมาก บริษัทวิจัยอุตสาหกรรมบางแห่งระบุว่าส่วนแบ่งตลาดอาจสูงถึง 50-65% ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงให้รัฐบาลสหรัฐฯ มองว่าผลิตภัณฑ์จากแบรนด์นี้อาจถูกใช้ในทางที่ไม่พึงประสงค์ได้
ทางด้าน TP-Link ยืนยันว่าสินค้าของบริษัทไม่มีรัฐบาลจีนเข้าถึงการออกแบบหรือการผลิตได้โดยตรง รวมทั้งยินดีให้ความร่วมมือกับรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อยืนยันว่าอุปกรณ์มีความปลอดภัยจริง ๆ
ที่มา CNET





