หลังจากเงียบหายไปกว่า 4 ปี กับกล้องมิเรอร์เลสทรง rangefinder ในซีรีส์ X-E จากค่ายภูเขาไฟ FUJIFILM ล่าสุดเปิดตัวรุ่นใหม่ออกมาแล้วครับ กับชื่อรุ่น ‘FUJIFILM X-E5’ ในสเปกระดับเรือธง เซนเซอร์ APS-C 40.2 ล้านพิกเซล พร้อมกันสั่น 5 แกน ในขนาดกะทัดรัด หนักแค่ 445 กรัม กับไดอัลแบบใหม่สำหรับปรับ Film Simulation โดยเฉพาะ นี่มัน X100VI เวอร์ชันเปลี่ยนเลนส์ได้ชัด ๆ !
หัวใจหลักของเจ้า X-E5 ขับเคลื่อนด้วยเซนเซอร์ APS-C ความละเอียดสูง X-Trans CMOS 5 HR 40.2 ล้านพิกเซล จับคู่กับชิปประมวลผล X Processor 5 และระบบโฟกัส AI เจนล่าสุด ตรวจจับโฟกัสได้แม่นยำ ทั้ง คน สัตว์ นก รถยนต์ จักรยานยนต์ เครื่องบิน รถไฟ และโดรน
ในรุ่นนี้ยังเป็นการนำเอาระบบกันสั่น 5 แกน มาใช้เป็นครั้งแรกในซีรีส์ X-E อีกด้วยครับ ชดเชยกันสั่นได้สูงสุดถึง 7.0 สต็อป แลกมากับขนาดบอดี้ที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย
วัสดุบอดี้ในส่วน Top Plate ผลิตจากอะลูมิเนียมแกะสลักเต็มแผ่นแบบไร้รอยต่อให้สัมผัสสุดพรีเมียม กับจุดเด่นไดอัล Film Simulation บนตัวกล้องที่ใส่มาให้ปรับอย่างรวดเร็ว และยังมีโหมด FS (Film Recipes) ให้เลือกเซฟค่าสไตล์ของแต่ละคนได้อีก 3 แบบ
สิ่งที่ต่างกันระหว่าง X100VI กับ X-E5 คือช่องมองภาพ ที่รุ่นนี้ใช้เป็น EVF ความละเอียด 2.36 ล้านจุด (X100VI เป็นแบบ Hybrid สลับโหมดได้ทั้ง OVF และ EVF) ที่มาพร้อมโหมดใหม่ ‘Classic Display’ ตัดข้อมูลที่รบกวนสายตาออกไป เหลือไว้แค่การตั้งค่าพื้นฐานเท่านั้น กับเข็มวัดแสงสไตล์กล้องฟิล์มที่ชาวแอนะล็อกน่าจะชื่นชอบกัน มาพร้อมกับจอ LCD หลังกล้องระบบสัมผัสแบบ tilt 1.04 ล้านจุด ปรับขึ้นมาเซลฟีได้
X-E5 ยังเพิ่มสวิตช์ที่ด้านหน้าบอดี้เข้ามารุ่นนี้อีกด้วยครับ ใช้ปรับโหมด Surround View กรอบตามสัดส่วนที่เลือกใช้ได้แบบ GFX100RF กับปุ่ม Bluetooth ที่ซ่อนอยู่ใต้ตัวเครื่อง ที่ได้รับแรงบันดาลใจมากจาก ‘ปุ่มปลดล็อกสำหรับกรอฟิล์มกลับ’ ในยุคกล้องฟิล์ม
ด้านวิดีโอรุ่นนี้ถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุด 6.2K/30p (crop 1.23x) พร้อมฟีเจอร์ tracking AF ติดตามวัตถุ
FUJIFILM X-E5 เตรียมวางจำหน่ายทั้ง สีดำ และสีเงิน ในราคาเฉพาะบอดี้ 1,699.95 เหรียญ (ประมาณ 55,000 บาท) และพร้อมชุดเลนส์ kit XF23mm F2.8 R WR เลนส์ทรงแพนเค้กรุ่นใหม่ บางที่สุดใน X-Series กับระยะโฟกัสใกล้สุดเพียง 0.2 เมตร เปิดตัวมาพร้อมกัน ที่ 1,899.95 เหรียญ (ประมาณ 61,500 บาท)
ส่วนเลนส์ XF23mm F2.8 R WR แบบวางขายแยกมีราคาอยู่ที่ 499.95 เหรียญ (ประมาณ 16,000 บาท) ในสีดำ และสีเงินเช่นเดิม
ที่มา: DPReview