Xiaomi เปิดตัว SU7 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรก ตั้งเป้าขึ้น Top 5 บริษัทรถแถวหน้า

เปิดตัวแล้วกับ Xiaomi SU7 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกจาก Xiaomi ที่มาพร้อมนวัตกรรมสุดล้ำเพื่อสร้างประสบการณ์ขับขี่ วิ่งได้ไกล 800 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

ทาง Xiaomi ประกาศขยายธุรกิจสู่รถยนต์ EV มาตั้งแต่ปี 2021 โดยทุ่มเงินลงทุนมากกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ ก้าวเป็นผู้ผลิตรถยนต์น้องใหม่ในจีน ซึ่งตอนนี้มีการแข่งขันสูงมาก

Xiaomi SU7 นั้นเป็นรถซีดานไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง วางตำแหน่งออกมาแข่งกับ Tesla Model S และ Porsche Taycan Turbo อย่างชัดเจน ทาง Lei Jun ผู้บริหารของ Xiaomi บอกว่า ด้วยเทคโนโลยีและความพยายามอย่างหนัก ในอีก 10-15 ปีจะทำให้ Xiaomi ขึ้นไปเป็นบริษัท Top 5 ในอุตสาหกรรมยานยนต์ มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์โดยรวมของจีน

ตัวถังรถจะมีขนาดพอๆกับรถยนต์ BMW Series 5 ตัวรถจะมีสองรุ่นย่อยคือ Xiaomi SU7 ซึ่งจะเป็นแบบขับเคลื่อนล้อหลัง และ Xiaomi SU7 Max ที่ขับเคลื่อนสี่ 4 ล้อ ทาง Xiaomi จะให้ BAIC Group มารับหน้าที่ผลิตรถให้ ซึ่งคาดว่าจะมีกำลังผลิต สามารถส่งมอบได้ปีละ 200,000 คัน

5 ไม้เด็ดรถ EV ของ Xiaomi

การเปิดตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของ Xiaomi นั้นจะเน้นเทคโนโลยีและนวัตกรรมทั้งหมด 5 ด้าน คือ

• E-Morter ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของ รถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งมอเตอร์นี้ Xiaomi พัฒนาขึ้นเอง พัฒนาให้หมุนได้ถึง 21,000 รอบต่อนาที เรีบกว่าแรงกว่าคู่แข่งอย่าง Tesla และ Tesla Model S และ Porsche Taycan Turbo นอกจากนั้นยังมีทีเด็ดอย่าง V8S Hyper Engine ที่แรงขึ้นไปอีกเป็น 27,200 รอบ ซึ่งจะใช้กับรถยนต์ EV ที่จะเปิดตัวในป 2025
• แบตเตอรี่มีการร่วมพัฒนากับ CATL ซึ่งเขาเรียกว่า CTB ฝังเข้ากับโครงสร้างของรถยต์โดยตรง ส่งผลให้ตัวรถแข็งแรงขึ้น เพิ่มที่ว่างในรถทำให้เพดานของห้องโดยสารดูสูงขึ้น ส่วนเรื่องความปลอดภัยหายห่วงมาพร้อมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ ตัวกันกระแทกที่ขอบทั้งสี่ด้าน รวมถึงมาตรฐานกันน้ำ IP6
• ระบบการผลิต Hypercasting โดยใช้เครื่อง 9,100T ซึ่งจะคล้ายการผลิตของ Tesla ในการหล่อชิ้นส่วนต่างๆของรถให้เป็นชิ้นเดียว เพื่อช่วยให้กระบวนการผลิตเร็วขึ้น ซึ่งวัสดุหลักที่ใช้ผลิตคือ Xiaomi Titans Metal
• Xiaomi Pilot ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ ซึ่ง Xiaomi ให้ความสำคัญมาพร้อมทุ่มงบวิจัยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ส่งผลให้มีเทคโนโลยีไม่น้อยหน้าใคร ซึ่งชิปประมวลผลหลักจะใช้ชิปของ Nvidia Orin X สองตัว ในการควบคุมการทำงานเริ่มตั้งแต่ระบบ BEV ติดตั้ง LiDAR ไว้บนหลังคารถ ให้มุมมองเหมือนสายตาคน คอยสอดส่องสภาพแวดล้อมรอบคันรถ โดยทำงานร่วมกับกล้องและเซนเซอร์ต่างๆ สามารถตรวจจับสิ่งรอบตัวได้ตั้งแต่ระยะ 0.2 เมตร – 160 เมตร นอกจากนั้น AI ยังฉลาดสามารถตรวจจับวัตถุขนาดเล็กบนท้องถนนได้ ส่วนแผนที่ก็ไม่ได้พึ่งแผนที่ความละเอียดสูง เพราะถนนมีการก่อสร้างเปลี่ยนแปลงได้ตลอด แต่ระบบของ Xiaomi จะสร้างแผนผังถนนแบบ Realtime ทำให้รถสามารถตัดสินใจวางแผนเส้นทางการขับขี่ได้ใกล้เคียงกับคนจริงๆ
• Smart Cabin ห้องโดยสารอัจฉริยะ ที่มีหัวใจหลักคือระบบปฏิบัติการ HyperOS ในการควบคุมการทำงานในรถ เน้นใช้งานง่าย ทำงานได้ไว เชื่อมต่อมือถือและอุปกรณ์ IOT ได้ง่าย นอกจากนั้นยังอัปเดตผ่าน OTA อย่างรวดเร็วใช้เวลาแค่ 3 นาทีเท่านั้น

Xiaomi SU7

Xiaomi SU7 เป็นรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหลัง มาพร้อมมอเตอร์ 299 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ทำความเร็วสูงสุด 210 กม มีเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.28 วินาที วิ่งได้ไกล 668 กม.ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

Xiaomi SU7 Max

ส่วน Xiaomi SU7 Max จะมากับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ มอเตอร์ 673 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 838 นิวตันเมตร ทำความเร็วสูงสุด 265 กม./ชม. วิ่งได้ไกล 800 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

เทคโนโลยีที่น่าสนใจในตัวรถ

ภายในรถจะมาพร้อมจอขนาดใหญ่ 16.1 นิ้ว ความละเอียด 3K วางอยู่ตรงกลางคันรถเพื่อให้เราควบคุมการทำงานต่างๆ โดยชิปประมวลผลเป็น Snapdragon 8295  ซึ่งทาง Xiaomi ได้เอาความเชี่ยวชาญในการผลิตสมาร์ตโฟนและแท็บเล็ตมาใส่แบบจัดเต็ม นอกจากนั้นหลังพวงมาลัยก็มีจอหมุนได้ขนาด 7.1 นิ้ว ซึ่งจะช่วยแสดงผลโดยที่เราไม่ต้องหันไปมองจอหลักกลางรถ ที่น่าสนใจคือจอนี้มาพร้อมขอบแม่เหล็ก 4 ด้าน เปิดให้เราติดอุปกรณ์เสริมเข้าไปได้ เช่น ติดปุ่มควบคุมเหมือนเครื่องเสียงทั่วไปสำหรับคนไม่ชอบจิ่มจอ เพิ่มคีย์บอร์ด ซึ่ง Xiaomi ก็เปิดกว้างให้บริษัทอื่นๆเข้ามารวมพัฒนาได้ด้วย

ส่วนกระจกหน้ารถจะมาพร้อมจอ HUD สำหรับฉายภาพและข้อมูลลงบนกระจกหน้า ซึ่งแสดงผลได้ใหญ่เทียบเท่าจอ 56 นิ้ว ให้ความสว่างสูงสุดถึง 13,000 Nits ทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนแม้สภาพแสงจ้า

ด้านหลังเบาะคนขับและที่นั่งด้านหน้าจะมีแท่นแม่เหล็กสำหรับติดแท็บเล็ตของ Xiaomi เข้าไปได้ โดยมันจะเชื่อมต่อการทำานกับจอหลักในรถ ทำให้เราสามารถควบคุมการเล่นเพลง ปรับอุณหภูมิแอร์ หรือปรับตำแหน่งของเบาะที่นั่งได้ หากใครมี iPad ก็สามารถเอามาทำงานได้เหมือนกัน

ส่วนใครที่ใช้อุปกรณ์ IoT อื่นๆของ Xiaomi ถ้าเอาขึ้นมาบนรถก็สามารถเชื่อมต่อการทำงานผ่าน Wi-Fi ในรถได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องใส่รหัสผ่าน

ตัวรถจะมี 3 สีให้เลือกคือ สี Aqua Blue, Mineral Gray และ Verdant Green ส่วนราคาขายนั้นยังไม่ประกาศออกมา โดยรถยนต์จะเริ่มวางจำหน่ายในปี 2024

ที่มา https://cnevpost.com/2023/12/28/xiaomi-ev-tech-launch-live/ , https://asia.nikkei.com/Spotlight/Electric-cars-in-China/China-s-Xiaomi-unveils-first-electric-car-plans-to-become-top-automaker