21 สิงหาคมที่ผ่านมา ไทยมีกฎหมายบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลบังคับใช้อย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว เรียกว่าเป็นการเอาจริงของภาครัฐเพื่อช่วยคุ้มครองผู้ใช้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัลลดความเสี่ยงจากการฉ้อโกงออนไลน์
ดังนั้น กฎหมายนี้จึงเป็นอะไรที่น่าจับตามองมาก เพราะว่าผู้ใช้บริการ ผู้บริโภคอย่างเราก็จะได้รับความเป็นธรรมในการใช้งานแพลตฟอร์ม หากเกิดปัญหาขึ้นก็จะมีที่รับแจ้งปัญหาอย่างถูกต้อง สามารถติดตามปัญหาที่เกิดขึ้นได้ ไม่มีการถูกเอาเปรียบจากแพลตฟอร์ม ส่วนทางแพลตฟอร์มเองก็จะได้รับความไว้วางใจจากเหล่าพ่อค้าแม่ค้า ผู้ใช้บริการมากขึ้น เพราะมีการดูแลชี้แจงอย่างโปร่งใส
จะเห็นได้การมาของกฎหมายบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลจะช่วยให้ระบบนิเวศด้านเศรษฐกิจเข้มแข็งขึ้น เพิ่มความมั่นใจในการใช้งาน ซึ่งถือเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน
ดังนั้น จุดหมายปลายทางอย่างที่ได้บอกไป ว่าเป็นการคุ้มครองมากกว่าการควบคุมเพราะทาง ETDA เองก็ชัดเจนในหน้าที่ที่จะช่วยส่งเสริมและสนับสนุน ให้หน่วยงานภาครัฐที่ดูแลปัญหาเฉพาะและผู้ประกอบธุรกิจ ปรึกษา หารือร่วมกัน ในการออกแนวปฏิบัติที่ดี (Best Practice) รวมถึงแนวทางการกำกับดูแลตนเองที่เหมาะสม (Self-regulate) เพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจอันดีและเป็นที่ยอมรับร่วมกัน ระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชน 21 สิงหาคม 66 ที่ผ่านมา ไทยจึงมีกฎหมายบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลบังคับใช้อย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว เรียกว่าเป็นการเอาจริงของภาครัฐเพื่อช่วยดูแลให้การให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัลมีความโปร่งใส ความเป็นธรรม และมีการดูแลผู้ใช้บริการที่เหมาะสม
ลักษณะและประเภทของธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลทั่วไปที่ต้องแจ้งให้ทราบภายใน 18 พ.ย. 66
กฎหมายฉบับนี้ระบุให้เจ้าของแพลตฟอร์มที่มีลักษณะดังนี้ต้องมาแจ้งการประกอบธุรกิจ ภายในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2566 นั้น จะครอบคลุมหลายธุรกิจไม่ใช่แค่อีคอมเมิร์ซที่ให้ผู้ซื้อกับผู้ขายอย่างเดียวเหมือนที่หลายคนเข้าใจ แต่เป็นบริการสื่อกลางที่ให้ผู้ใช้บริการ 2 ฝ่ายมาเชื่อมต่อกัน ซึ่งอาจเป็นการเชื่อมต่อกันระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ใช้บริการ ผู้ประกอบการกับผู้ประกอบการ ผู้บริโภคกับผู้บริโภค หรือผู้ประกอบการกับผู้บริโภคก็ได้ โดยมีตัวอย่างประเภทของธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ต้องแจ้ง ดังนี้
ผู้มีหน้าที่แจ้งข้อมูลการประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล ต้องแจ้งข้อมูลที่จำเป็นให้ ETDA ทราบ อาทิ ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ประสงค์จะประกอบธุรกิจ ข้อมูลเกี่ยวกับบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้บริการ ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องร้องเรียน
ถ้าหากหน่วยงานหรือธุรกิจไหนไม่มั่นใจว่าธุรกิจของตัวเองเข้าข่ายธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลหรือเปล่า ทาง ETDA ได้เปิดให้ผู้ประกอบธุรกิจสามารถประเมินตัวเองได้ง่าย ๆ ผ่านเครื่องมือ
https://eservice.etda.or.th/dps-assessment/ ในรูปแบบของการตอบคำถามง่ายๆ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนดำเนินการแจ้งการประกอบธุรกิจกับทาง ETDA โดยระบบประเมินตนเองนี้ จะครอบคลุมทั้ง ข้อมูลของผู้ตอบแบบสอบถาม ข้อมูลเฉพาะที่เกี่ยวกับลักษณะการให้บริการ และคำแนะนำอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะใช้ระยะเวลาในการทำแบบประเมินดังกล่าว ประมาณ 5 นาที และเมื่อทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ระบบจะแจ้งผลการประเมินให้ท่าน
ทราบว่าธุรกิจบริการของท่านเข้าข่ายเป็นบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลหรือไม่ เพื่อให้ท่านสามารถเตรียมข้อมูลให้พร้อมสำหรับการจดแจ้งในลำดับต่อไป
เราจะต้องใช้ข้อมูลและเอกสารอะไรบ้าง?
ธุรกิจที่เข้าข่ายธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลจะต้องเตรียมข้อมูลหลักฐาน ตามรายการดังต่อไปนี้โดยยื่นจดแจ้งกับ ETDA
ประเภทของผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้ขนส่งสินค้า ผู้ให้บริการคลังสินค้า พร้อมระบุจำนวนรวมของผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้องและจำนวนของผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้องแต่ละประเภท
หากต้องการคำปรึกษามีข้อสงสัยก็สามารถลงทะเบียน เพื่อเตรียมความพร้อมขอรับคำปรึกษา “การแจ้งการประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล” แนวทางการจัดเตรียมข้อมูลเพื่อประกอบการขอรับคำปรึกษาสำหรับผู้ประกอบธุรกิจ ผ่านทางออนไลน์ได้
แล้วเราสามารถแจ้งการประกอบธุรกิจผ่านช่องทางไหนได้บ้าง?
ผู้ประกอบการที่เข้าข่ายสามารถแจ้งได้ 2 ช่องทางหลัก คือ
ขั้นตอนการลงทะเบียน
สำหรับผู้ประกอบการหรือธุรกิจไหนที่ต้องการลงทะเบียนด้วยตัวเอง จะต้องไปแจ้งการประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ศูนย์กํากับดูแลและตรวจสอบธุรกิจ สํานักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.)
กำหนดการแจ้งการประกอบธุรกิจและบทลงโทษหากไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบ
บริการที่เข้าข่ายธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลสามารถเข้าไปแจ้งการประกอบธุรกิจกับ ETDA ได้เลยค่ะ โดยผู้ประกอบธุรกิจรายใหม่ต้องแจ้งให้ ETDA ทราบก่อนเริ่มประกอบธุรกิจ ส่วนผู้ประกอบธุรกิจที่ให้บริการมาก่อนวันที่ 21 สิงหาคม 2566 นั้น หากอยู่ในกลุ่มของแพลตฟอร์มทั่วไป จะต้องแจ้งให้ ETDA ทราบภายใน วันที่ 18 พฤศจิกายน 2566 หากไม่แจ้งภายในเวลาดังกล่าว จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
เป้าหมายของกฎหมายฉบับนี้ หลัก ๆ ก็คือคุ้มครองผู้ใช้บริการอย่างเรา ๆ นี่แหละค่ะ โดยทาง ETDA จะเป็นเหมือนหน่วยงานกลางคอยสอดส่องให้ ในกรณีที่มีปัญหา เกิดข้อร้องเรียนก็จะเข้ามาช่วยเหลือได้ เพื่อให้ประชาชนทั่วไปใช้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัลได้อย่างปลอดภัย ดังนั้นใครที่ทำธุรกิจประเภทนี้อยู่แล้วก็อย่าลืมไปแจ้งการประกอบธุรกิจกับ ETDA กันนะ
สุดท้ายนี้หลายคนอาจจะสงสัยว่าแล้วเราจะรู้ได้อย่างไร ว่าแพลตฟอร์มนั้น มีการแจ้งให้ทราบกับทาง ETDA แล้ว?
หลังจากที่ทางผู้ประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลได้แจ้งให้ทาง ETDA ทราบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทาง ETDA จะมีเครื่องหมายรับรองให้ทางผู้ประกอบธุรกิจเพื่อเป็นการยืนยันว่าได้แจ้งการประกอบธุรกิจกับ ETDA แล้ว ทางผู้ประกอบธุรกิจเองก็จะสามารถนำไปใช้เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้บริการได้เลย ซึ่งจะเป็นสัญลักษณ์ที่ให้ผู้ใช้บริการสังเกตได้ว่าธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลนี้มีการมาแจ้งให้ ETDA ทราบแล้ว
ในส่วนของคนทั่วไปก็จะสามารถตรวจสอบได้อีกด้วยเช่นกัน โดย ETDA เขาจะมีเว็บไซต์ https://www.etda.or.th/th/regulator/Digitalplatform/index.aspx ที่สามารถให้เราไปตรวจเช็คได้ว่า บริการแพลตฟอร์มดิจิทัลนี้ ได้มีการแจ้งให้ ETDA ทราบหรือยัง เผื่อบางคนอาจจะไม่มั่นใจว่าเครื่องหมายรับรองนั้นของจริงหรือไม่ การตรวจสอบผ่านทางเว็บไซต์ ETDA ก็จะอีกทางหนึ่งที่น่าเชื่อถือในการตรวจสอบได้
ซึ่งในอนาคตทาง ETDA เองก็จะมีสัญลักษณ์ที่ให้ผู้ใช้บริการ สามารถสังเกตได้ง่ายๆ ว่าบริการแพลตฟอร์มนี้มีการมาแจ้งให้ ETDA ทราบเรียบร้อยแล้ว ไม่จำเป็นต้องเข้าไปดูในเว็บไซต์อย่างเดียว
ดังนั้น ต่อไปเวลาคนทั่วไปอย่างเรา ๆ ต้องการซื้อของหรือใช้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัลที่สามารถไว้วางใจได้ ก็ต้องเลือกดูดีดีนะคะ ตรวจสอบให้ชัดเจน เพื่อที่จะได้รับรู้ถึงความเสี่ยง และมีความระมัดระวังในการตัดสินใจเลือกใช้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัล เราจะได้ไม่ถูกเอาเปรียบ และได้รับบริการอย่างโปร่งใสเป็นธรรม และการดูแลผู้ใช้บริการอย่างเหมาะสม