‘สงคราม ส่งด่วน’ (2025) ซีรีส์มาแรงบน Netflix ไม่เพียงพาเราเจาะลึกการแข่งขันอันดุเดือดของธุรกิจขนส่งเท่านั้น แต่ยังได้แรงบันดาลใจจากชีวิตจริงของ คมสันต์ แซ่ลี ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ Flash Express ซึ่งในซีรีส์คือตัวละคร ‘สันติ แซ่ลี’ ที่รับบทโดย ไอซ์ซึ-ณัฐรัตน์ นพรัตยาภรณ์ คือผู้สร้างอาณาจักรจากศูนย์สู่สตาร์ตอัปยูนิคอร์นขนส่งด่วนรายแรกของไทย และที่น่าสนใจคือ ซีรีส์ยังเปิดเผยตัวตนของ รุ่ยเจี๋ย (หรือ เหว่ยเจี๋ย) มือขวาคนสำคัญที่รับบทโดย ดร. พลัง โลกศิลป์ ผู้ที่ตอนนี้ถูกชาวเน็ตเรียกว่า “เครื่องด่าเคลื่อนที่” ซึ่งตัวละครนี้ได้แรงบันดาลใจจากมือขวาของคมสันต์จริง ๆ ชายคนนั้นมีชื่อว่า เหว่ยเจี๋ย (Di Weijie) ชายผู้ทำให้ระบบโลจิสติกส์ของ Flash Express ทำงานได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพสูงสุด
ก่อนร่วมสร้าง Flash Express เหว่ยเจี๋ย (Di Weijie) สั่งสมประสบการณ์ล้ำค่าจากการทำงานที่ Alibaba นานถึง 8 ปี ที่นั่นเขาเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีโลจิสติกส์ ระบบชำระเงินดิจิทัล และการบริหารแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซขนาดใหญ่ โดยเฉพาะบทบาทในการช่วยพัฒนา Alipay wallet และ third-party QR codes ซึ่งพลิกโฉมการทำธุรกรรมออนไลน์ในจีน ความสามารถของเขานั้นโดดเด่นถึงขั้น ได้เป็นพนักงานยอดเยี่ยมของบริษัทถึง 5 ปีซ้อน ตรงกับที่นางเอกเสี่ยวหยูพูดในซีรีส์ว่าสมัยเธอฝึกงาน ประสบการณ์เหล่านี้หล่อหลอมให้เขามีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ในการใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างประสิทธิภาพและขยายขนาดธุรกิจ
การพบกันระหว่าง คมสันต์ แซ่ลี ผู้มีวิสัยทัศน์เข้าใจตลาดขนส่งไทย และ เหว่ยเจี๋ย ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและระบบปฏิบัติการขนาดใหญ่จาก Alibaba คือจุดเริ่มต้นที่ลงตัว คมสันต์ต้องการบริการขนส่งที่เข้าถึงง่าย ราคาถูกและสะดวกสบายสำหรับผู้ค้าออนไลน์รายย่อย ขณะที่เหว่ยเจี๋ยเติมเต็มด้วยความสามารถในการสร้างระบบรองรับงานมหาศาล ความร่วมมือนี้กลายเป็นรากฐานอันแข็งแกร่งของ Flash Express
แม้ในช่วงแรกตลาดโลจิสติกส์จะเต็มไปด้วยคู่แข่งรายใหญ่และการแข่งขันด้านราคาที่ดุเดือด แต่ด้วยวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนและกลยุทธ์ที่แตกต่าง Flash Express ภายใต้การนำของคมสันต์ และการขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีของเหว่ยเจี๋ย ได้สร้างจุดเด่นด้วยบริการ “รับพัสดุฟรีถึงที่” (Door-to-Door Pickup) ตั้งแต่ชิ้นแรก และราคาที่เข้าถึงง่าย ซึ่งพลิกโฉมวงการขนส่งในขณะนั้น
บทบาทของเหว่ยเจี๋ยใน Flash Express อาจไม่โดดเด่นในแง่ของการเป็นภาพลักษณ์ของบริษัทเหมือนกับคมสันต์ แซ่ลี แต่เขากลับเป็น “สมอง” และ “หัวใจ” สำคัญที่ขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการทั้งหมด เขาคือผู้อยู่เบื้องหลังการวางรากฐานโครงสร้างโลจิสติกส์, การพัฒนาระบบเทคโนโลยี (IT Infrastructure) ที่ซับซ้อนและรองรับการเติบโตอย่างก้าวกระโดด รวมถึงการขยายเครือข่ายจุดบริการและศูนย์กระจายสินค้าทั่วประเทศ
สิ่งที่เป็นเครื่องพิสูจน์ความทุ่มเทและบทบาทอันแข็งแกร่งของเหว่ยเจี๋ยคือคำบอกเล่าที่ว่า “เขายอมนอนข้างลังพัสดุ” นี่ไม่ใช่เพียงคำเปรียบเปรย แต่สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะทำความเข้าใจทุกรายละเอียดของกระบวนการขนส่ง ตั้งแต่การรับพัสดุ การคัดแยก การจัดส่ง ไปจนถึงการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในแต่ละขั้นตอน เขาเข้าใจว่าระบบโลจิสติกส์คือหัวใจสำคัญของธุรกิจขนส่ง และความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยก็อาจส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อภาพรวม เขาจึงลงมาคลุกคลีกับงานภาคสนามอย่างใกล้ชิด เพื่อให้แน่ใจว่าระบบทุกส่วนทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ลักษณะเด่นอีกประการหนึ่งของเหว่ยเจี๋ยที่ถูกกล่าวถึงคือ “ความดุ” ในการทำงาน แม้บางครั้งการทำงานภายใต้การดูแลของเขาจะเข้มงวดจนพนักงานบางคนถึงกับร้องไห้ แต่ก็เป็นที่รู้กันดีว่า “ถ้ามีปัญหา มีแค่เขาคนเดียวเท่านั้นที่แก้ได้” สิ่งนี้บ่งบอกถึงความสามารถในการวิเคราะห์ปัญหาที่ซับซ้อน การตัดสินใจที่เด็ดขาด และความเชี่ยวชาญในการหาวิธีแก้ไขที่ได้ผลลัพธ์จริง ความดุดันของเขาจึงไม่ใช่เพียงเพื่อการควบคุม แต่เป็นการผลักดันให้ทุกคนในทีมก้าวข้ามขีดจำกัดและสร้างผลงานที่ดีที่สุดภายใต้ความกดดันของธุรกิจส่งด่วนที่ต้องแข่งกับเวลา
ความสำเร็จของ Flash Express ส่วนหนึ่งมาจากการลงทุนมหาศาลในด้านเทคโนโลยี โดยมีทีมพัฒนา (Dev Team) กว่า 300 คน และการลงทุนในคลังสินค้าอัตโนมัติกว่า 300 ล้านบาทต่อแห่ง นี่คือผลงานที่เหว่ยเจี๋ยมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนและกำหนดทิศทาง เขาได้นำเอาประสบการณ์จากการสร้างแพลตฟอร์มขนาดใหญ่มาประยุกต์ใช้กับ Flash Express โดยเน้นการสร้างระบบที่สามารถประมวลผลพัสดุได้มากกว่าล้านชิ้นต่อวันได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว
นวัตกรรมเหล่านี้ไม่ใช่แค่การนำเทคโนโลยีมาใช้ แต่เป็นการนำเทคโนโลยีมาแก้ไขปัญหาและสร้างมูลค่าให้กับลูกค้าและบริษัทในเวลาเดียวกัน เหว่ยเจี๋ยเข้าใจดีว่าในธุรกิจส่งด่วน ประสิทธิภาพและความแม่นยำคือสิ่งสำคัญที่สุด และเทคโนโลยีคือเครื่องมือที่จะช่วยให้บรรลุเป้าหมายเหล่านั้นได้
นอกเหนือจากความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคและปฏิบัติการแล้ว เหว่ยเจี๋ยยังมีบทบาทในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่มุ่งเน้นความทุ่มเทและการแก้ไขปัญหา พนักงานของ Flash Express ไม่ได้ถูกสอนให้เพียงแค่ทำตามคำสั่ง แต่ถูกปลูกฝังให้คิดและลงมือทำเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน เรื่องราวของพนักงานที่เคยโดนเหว่ยเจี๋ยดุจนร้องไห้ แต่ในวันนี้ได้เติบโตขึ้นสู่ตำแหน่ง Head of Product ของบริษัท เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าความเข้มงวดของเขาไม่ใช่เพื่อการกดดัน แต่เป็นการผลักดันศักยภาพที่ซ่อนอยู่ในตัวบุคคล และการสร้างผู้นำที่สามารถรับมือกับความท้าทายได้
ภายใต้การนำของทั้งคมสันต์และเหว่ยเจี๋ย Flash Express ได้สร้างวัฒนธรรมการทำงานแบบสตาร์ทอัพที่รวดเร็ว ยืดหยุ่น และพร้อมปรับตัวอยู่เสมอ พวกเขามองว่าทุกอุปสรรคคือโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนา ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการรับมือกับสงครามส่งด่วนที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
Flash Express ก้าวขึ้นเป็นยูนิคอร์นตัวแรกของไทย ในเวลาอันรวดเร็ว ไม่ได้มาจากโชคช่วย แต่มาจากความพยายาม, การลงทุนมหาศาล, และวิสัยทัศน์อันกล้าหาญของผู้ก่อตั้งและทีมงาน โดยเฉพาะบทบาทของเหว่ยเจี๋ย (Di Weijie) ในการสร้างระบบที่แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้บริษัทรองรับการเติบโตแบบก้าวกระโดดได้อย่างไร้รอยต่อ
แม้ Flash Express จะเผชิญการแข่งขันรุนแรงและสงครามราคา ซึ่งต้องขาดทุนในช่วงเริ่มต้นเพื่อขยายฐานลูกค้าก่อนลดต้นทุนในภายหลัง แต่ด้วยความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนและการปรับปรุงประสิทธิภาพผ่านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ทำให้พวกเขายังคงรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดไว้ได้
ในอนาคต การขยายธุรกิจสู่ประเทศอื่น ๆ ในอาเซียน บทบาทของเหว่ยเจี๋ยในการวางระบบและเทคโนโลยีสำหรับตลาดใหม่ ๆ จะยิ่งสำคัญยิ่งขึ้น ประสบการณ์ของเขาในการปรับใช้เทคโนโลยีให้เข้ากับบริบทธุรกิจที่แตกต่างกัน จะเป็นกุญแจสำคัญในการสานต่อตำนาน Flash Express ในระดับภูมิภาค
เหว่ยเจี๋ย (Di Weijie) อาจไม่เป็นที่รู้จักเท่าคมสันต์ แซ่ลี แต่เขาคือ “มือขวา” ผู้ขับเคลื่อนหลักด้านเทคนิคและปฏิบัติการเบื้องหลังความสำเร็จของ Flash Express ความมุ่งมั่น, ทุ่มเท, และความสามารถในการแก้ปัญหาของเขา หล่อหลอมให้ Flash Express กลายเป็นบริษัทขนส่งชั้นนำของไทย และเป็นต้นแบบสตาร์ตอัปที่ใช้เทคโนโลยีเป็นหัวใจขับเคลื่อน เรื่องราวของเหว่ยเจี๋ยจึงเป็นบทเรียนสำคัญว่า เบื้องหลังความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ มักมีบุคคลผู้ทุ่มเทและเชี่ยวชาญอย่างแท้จริงคอยหนุนนำ และการเป็นยูนิคอร์นของ Flash Express คือเครื่องพิสูจน์ความอัจฉริยะและความพยายามที่ไม่ย่อท้อของ “มือขวาผู้สร้างตำนาน” ผู้นี้อย่างแท้จริง