เวียดนามมีอัตราการเติบโตที่น่าทึ่งในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา ด้วยการลงทุนของบริษัทต่างชาติ

สำนักข่าว Nikkei Asia ได้เผยแพร่บทความวิเคราะห์การเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามที่เรียกว่าประสบความสำเร็จได้จากความพยายามในการฟื้นฟูประเทศ

บทความของ Nikkei อ้างอิงจากข้อมูลจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) พบว่าผลิตภัณฑ์รวมภายในประเทศของเวียดนามที่เป็นสกุลเงินท้องถิ่น (ดงเวียดนาม) มีมากกว่าในปี 2537 ถึง 51 เท่า ถือว่าเป็นประเทศที่มีอัตราการเติบโตสูงสุดในบรรดาประเทศสมาชิกในอาเซียน ความสำเร็จทางเศรษฐกิจของเวียดนามส่วนใหญ่มาจากนโยบาย “โด่ยเหมย” (การฟื้นฟู) เมื่อปี 1986 ซึ่งความพยายามในการฟื้นฟูเหล่านี้ทำให้เกิดผลที่ดีในช่วงครึ่งหลังของทศวรรษ 1990

คำปราศรัยของเลขาธิการพรรค โต ลัม (To Lam) ในงานเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีวันปลดปล่อยภาคใต้และการรวมชาติ (30 พฤษภาคม 1975-2025) ลัมเรียกร้องให้ชาวเวียดนามสร้างจิตวิญญาณแห่งชัยชนะอันยิ่งใหญ่ในฤดูใบไม้ผลิปี 1975 รวมถึงค่านิยมและชัยชนะตลอด 40 ปีที่ผ่านมาภายใต้นโยบายโด่ยเหมย เวียดนามผ่านเหตุการณ์สำคัญอื่น ๆ อีกมากมายในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา เช่น สหรัฐฯ ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อเวียดนามในปี 1994 นับเป็นการเปิดประตูการค้าและการลงทุนจากประเทศตะวันตก, การเข้าร่วมอาเซียนในปี 1995, การเข้าร่วมองค์การการค้าโลก (WTO) ในปี 2007 และการเปิดโรงงานขนาดใหญ่ของ Samsung ในปี 2009

Samsung มีทุนจดทะเบียนกว่า 23,200 ล้านเหรียญในเวียดนาม นับเป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ที่สุดในประเทศ และในปี 2024 บริษัท Samsung Vietnam มีรายได้ 62,500 ล้านเหรียญ มีรายได้จากการส่งออก 54,400 ล้านเหรียญ ตัวเลขนี้คิดเป็น 13.4% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดของประเทศเวียดนาม

นับตั้งแต่ทศวรรษ 2010 เป็นต้นมา ประเทศเวียดนามได้ผลประโยชน์มากมายจากการเป็นประเทศผู้ผลิต อย่างเช่นเป็นผู้ผลิตสินค้าให้ Apple ในปี 2012 ซัพพลายเออร์ของบริษัทในเวียดนามเพิ่มขึ้นจาก 12 รายในปี 2015 เป็น 35 รายในปี 2024 ถือเป็นจำนวนมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนประเทศไทยอยู่อันดับสองด้วยซัพพลายเออร์ทั้งหมด 24 ราย

อุตสาหกรรมหลานยประเภทเกิดขึ้น โดยชิ้นส่วนและส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์เป็นสินค้าส่งออกหลักของเวียดนามในปัจจุบัน Nikkei ระบุว่าเวียดนามจะสร้างเม็ดเงินได้อีกเยอะในระยะกลางถึงยาว ซึ่ง IMF ระบุว่า GDP ต่อหัวของเวียดนามอยู่ที่ 4,535 เหรียญในปี 2024 รัฐบาลมีเป้าหมายที่จะเพิ่ม GDP ต่อหัวให้ได้มากกว่า 7,500 เหรียญภายในปี 2030 และเปลี่ยนให้ประเทศเวียดนามกลายเป็นประเทศที่มีรายได้สูงภายในปี 2045

ที่มา Phuyen

Advertisement

Sidebar Search
Popular Now
Loading

Signing-in 3 seconds...

Signing-up 3 seconds...