ศาลสหรัฐฯ สั่งหยุดมาตรการขึ้นภาษีของทรัมป์ ระบุประธานาธิบดีใช้อำนาจเกินขอบเขต

ศาลการค้าของสหรัฐฯ ได้มีคำตัดสินว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ใช้อำนาจเกินขอบเขตหน้าที่ในนโยบายการขึ้นภาษี โดยสินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศที่ขายสินค้าให้สหรัฐฯ มากกว่าที่ตนซื้อ หรือประเทศที่สหรัฐอเมริกาขาดดุลนั้นต้องเสียภาษีนำเข้าทั้งหมด

คณะผู้พิพากษา 3 คน ระบุว่า ศาลไม่ได้ติดสินการใช้นโยบายภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีในการกดดันประเทศต่าง ๆ ว่าจะเป็นนโยบายที่มีความฉลาดหรือมีประสิทธิภาพหรือไม่ แต่สาเหตุที่ศาลตัดสินห้ามใช้นโยบายด้านภาษีเพราะกฎหมายของรัฐบาลกลางไม่อนุญาตให้ทำ

หลังศาลตัดสิน รัฐบาลทรัมป์ได้ยื่นหนังสือแจ้งอุทธรณ์ทันที และตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับอำนาจของศาล โดยรัฐบาลทรัมป์สามารถยื่นอุทธรณ์ต่อต่อศาลอุทธรณ์ของรัฐบาลกลางในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ได้ และท้ายที่สุดอาจไปถึงศาลสูงสุดของสหรัฐอเมริกา ในคำตัดสินของศาลการค้าระหว่างประเทศได้

โฆษกของทำเนียบขาวกล่าวว่าการขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ กับประเทศอื่นๆ ถือเป็นภาวะฉุกเฉินระดับชาติที่ทำให้ชาวอเมริกันต้องรับเคราะห์ เป็นการทิ้งแรงงานของสหรัฐฯ และทำให้ฐานอุตสาหกรรมของประเทศอ่อนแอลง ซึ่งศาลไม่ได้โต้แย้งในข้อเท็จจริงนี้

นี่ไม่ใช่เรื่องของผู้พิพากษาที่ไม่ได้รับการเลือกตั้งที่จะสามารถตัดสินใจได้ว่าควรจะแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติอย่างไร

โฆษกทำเนียบขาว

รัฐบาลทรัมป์ยืนยันว่า นโยบายดังกล่าวกระทำภายใต้กฎหมายว่าด้วยอำนาจเศรษฐกิจฉุกเฉินระหว่างประเทศ (IEEPA) ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อรับมือกับภัยคุกคามที่ไม่ปกติและร้ายแรงในช่วงภาวะฉุกเฉินของชาติ

ที่มา Reuters

วัชรกุล พัฒนาประทีป