CNBC รายงานว่าผู้บริโภคได้ชะลอการใช้จ่ายลงอย่างรวดเร็วภายในเดือนพฤษภาคม เนื่องจากความกังวลด้านเศรษฐกิจที่ดูจะรุนแรงขึ้นในหลายพื้นที่
นักวิเคราะห์คาดว่ายอดขายร้านค้าปลีกจะลดลง 0.6% ในเดือนพฤษภาคม ลดลงไปอีกเมื่อเทียบกับเดือนเมษายน เป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์เอาไว้เป็นอย่างมาก เนื่องจากก่อนหน้านี้ประชาชนได้ใช้เงินไปกับการซื้อของในช่วงที่นโยบายภาษีศุลกากรยังไม่มีความแน่นอน เช่นเดียวกับที่ Apple เร่งขนย้าย iPhone เข้าสหรัฐอเมริกาเนื่องจากบริษัทต้องการลดผลกระทบจากนโยบายภาษี
หากตัดในส่วนของยานยนต์ออก ยอดขายร้านค้าปลีกลดลงไป 0.3% ถือว่าแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1% แต่หากไม่รวมสินค้ากลุ่มตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ น้ำมัน สินค้าด้านวัสดุก่อสร้าง จะพบว่ายอดขายร้านค้าปลีกจะเพิ่มขึ้น 0.4% แต่ยอดขายโดยทั่วไปก็ยังก็ถือว่ายังดูไม่ดีเท่าไหร่นัก
เฮเทอร์ ลอง (Heather Long) หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Navy Federal Credit Union กล่าวว่า ชาวอเมริกันซื้อรถยนต์ในช่วงเดือนมีนาคมโดยหลีกเลี่ยงการซื้อกับตัวแทนจำหน่ายในเดือนพฤษภาคม หลายครอบครัวระมัดระวังเรื่องการใช้เงินมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะถ้าไม่มีส่วนลดหรือข้อเสนอที่ดีพอก็ยอมที่จะไม่ใช้เงินดีกว่า
เหตุผลหลักที่ทำให้ชาวอเมริกันใช้จ่ายกันน้อยลงคือความกังวลด้านภาวะเศรษฐกิจ ความไม่แน่นอนของนโยบายการค้า และเงินเฟ้อ ส่วนตัวเลข GDP ลดลง 0.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว แต่คาดว่าจะมีการฟื้นตัวขึ้นได้
ที่มา CNBC