SCBX ได้เปิดตัวรายงาน ‘SCBX AI Outlook 2025: Beaconing the Future of Artificial Intelligence’ ซึ่งเป็น AI White Paper สรุปเทรนด์สำหรับธุรกิจฉบับแรกในไทย เป็นคู่มือให้องค์กรต่าง ๆ เตรียมพร้อมรับมือ เพื่อเปลี่ยนไปเป็น AI-first Organization
รายงาน SCBX AI Outlook 2025 ได้โชว์ 4 เทรนด์ AI สำคัญที่จะมีผลต่อทางธุรกิจ ประกอบไปด้วย
ปัจจุบัน มีช่องว่างที่ลดลงระหว่าง AI แบบเปิดและปิด โดยมีราคาที่ถูกลง และมีความเปิดมากขึ้น อย่างเช่น Deepseek จากจีนที่มีโมเดลภาษาแบบเปิดให้ใช้งานได้ หรือกระทั่ง LLaMA ที่เป็นโมเดลภาษาของ Meta (Facebook) ที่เปิดให้ใช้เป็น Open Source ซึ่งมาพร้อมกับประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น และราคาที่ถูกลงเรื่อย ๆ พร้อมกับมีการบอกนัยสำคัญทางธุรกิจ เพราะ AI ที่เป็นแบบเปิดนั้น สามารถนำไปเพื่อสร้างเป็น Application ที่มีโมเดลภาษา AI ต่าง ๆ มาเป็นพื้นฐานใน AI ตัวนั้น ๆ ได้ง่ายขึ้นไปด้วย
ยุคใหม่ของ AI ที่มีขนาดเล็กลง ยืดหยุ่น และมีความสามารถใกล้เคียงมนุษย์มากขึ้น โดยมีโมเดลภาษาที่ทั้งขนาดเล็กและใหญ่ ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในงานที่แตกต่างกัน บางงานอาจจะไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ AI โมเดลใหญ่และมีราคาสูงเพื่องานบางชนิดก็ได้ แถมในปัจจุบัน AI เริ่มมีการใช้โมเดลภาษาขนาดเล็ก ที่สามารถประมวลผลภายในอุปกรณ์ได้มาใช้งานมากขึ้น
การเติบโตของ AI ที่สามารถวางแผน ให้เหตุผล และดำเนินการได้โดยไม่ต้องรับคำสั่งทีละขั้นตอน จากการที่มี GenAI แบบเดิม ๆ ที่สามารถให้คำตอบเราแบบตรง ๆ แต่ AI เหล่านั้น มักจะใช้ข้อมูลที่จำกัด อาจจะเก่า และไม่ได้มีการคิดวิเคราะห์มากนัก Agentic AI จะมีการวิเคราะห์สิ่งที่ตอบกลับมาเพิ่มเติม โดย SCBX มองว่า Agentic AI จะนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์เพิ่มโดยชุดข้อมูลที่ใหม่กว่า ทันสมัยกว่า และเฉพาะด้านมากกว่า เช่นข้อมูลแนะนำการลงทุน ที่ GenAI ออกมาเป็นข้อมูลเฉย ๆ แต่ Agentic AI จะนำข้อมูลนั้นมาสรุป หาข้อมูลใหม่ประกอบ และผสมความสามารถของคนที่เก่งเฉพาะด้าน มาเพื่อแนะนำการลงทุนได้อย่างแม่นยำและเหมือนการคุยกับผู้เชี่ยวชาญจริง ๆ
ความท้าทายและโอกาสในการพัฒนา AI ที่มีความสามารถเทียบเท่ามนุษย์ หรือ Artificial General Intelligence (AGI) ที่เป็นเหมือนจุดสูงสุดของการพัฒนา AI ซึ่งที่ยังเรียกว่าเป็นความท้าทายและโอกาส เกิดจากการที่ปัจจุบัน การพัฒนา AI ยังอยู่ในระดับที่ 1 จาก 5 ระดับก่อนที่จะเป็น AGI โดยการพัฒนานั้นเริ่มทำได้ยากขึ้น และมีการมองว่าในอนาคตอาจจะต้องมีการออกแบบใหม่ทั้งหมด เพื่อให้ AI สามารถพัฒนาให้กลายเป็น AGI ได้ ดังนั้นเราจึงควรทำความรู้จัก และเข้าใจ AI รวมถึงใช้ AI ให้เป็น มีจริยธรรม และมีความเท่าทัน AI ก่อนที่ AI จะพัฒนาไปไกลกว่านี้ และแบ่งแยกให้เกิดช่องว่างระหว่างคนที่ใช้ AI เป็น และไม่เป็นให้กว้างไปกว่านี้ด้วย
นายกวีวุฒิ เต็มภูวภัทร Chief Innovation Officer ของ SCBX กล่าวว่า กลุ่มเอสซีบีเอกซ์ตั้งเป้าสร้างรายได้ 75% จากเทคโนโลยี AI ภายในปี 2570 และได้จัดตั้ง SCBX R&D Innovation Lab เพื่อวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี AI โดยเฉพาะ โดยทำงานร่วมกับ SCB 10X ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ได้ลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ AI และเทคโนโลยียุคใหม่ และ DataX อย่างใกล้ชิด รวมถึงร่วมมือกับองค์กรภายนอก เช่น โครงการ Typhoon Thai LLM ซึ่งเป็นโมเดลภาษาที่ SCBX พัฒนาขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อพันธมิตรทั้งสถาบันการศึกษา สตาร์ตอัป และภาครัฐ รวมถึงสามารถนำไปใช้กับธุรกิจแต่ละเจ้าได้ด้วย
ดร.ทุตานนท์ สินธุประสิทธิ์ R&D and Innovation Lab Lead ของ SCBX กล่าวเพิ่มว่า รายงานนี้เน้นเรื่องการแบ่งปันประสบการณ์จริง จากการพัฒนาและประยุกต์ใช้ AI ในบริบทธุรกิจต่าง ๆ เพื่อช่วยให้ผู้นำองค์กรและชุมชน AI นำข้อมูลไปปรับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ SCBX ได้นำเสนอกรณีศึกษาการใช้ AI หลากหลาย เช่น Typhoon Thai LLM ที่ถูกนำไปใช้โดยโรงพยาบาลศิริราช (SiData+) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการความรู้, ‘สมหมาย’ แชทบอทกฎหมายรัฐวิสาหกิจของ VISAI, การร่วมมือกับ TDRI วิเคราะห์แนวโน้มตลาดแรงงาน, AI Voice Trainer สำหรับทีมขายประกัน และแพลตฟอร์มที่ปรึกษาทางการเงินด้วย Agentic AI
ใครที่สนใจในรายงาน SCBX AI Outlook 2025 สามารถดาวน์โหลดรายงานฉบับเต็มนี้ได้ที่เว็บไซต์ SCBX และทดลองใช้ API Typhoon LLM ได้ที่ opentyphoon.ai