การพิจารณาคดีระหว่าง Getty Images และ Stability AI ได้เริ่มขึ้นในวันที่ 9 มิถุนายน 2025 ที่ผ่านมา ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยเป็นคดีการฟ้องร้องครั้งสำคัญด้านกฎหมายเกี่ยวกับเทคโนโลยี Generative AI
Getty Images ได้กล่าวหาว่า Stability AI นำภาพถ่ายที่มีลิขสิทธิ์ของตนจำนวนหลายพันภาพไปใช้ในการฝึกฝนโมเดล AI ‘Stable Diffusion’ ซึ่งทาง Getty ยังเคยแสดงหลักฐานว่า Stable Diffusion สามารถสร้างภาพที่มีลายน้ำของตนปรากฏอยู่อีกด้วย
รายงานจากสื่อ The Guardian ระบุว่า Getty กล่าวหาฝั่งวิศวกรของ Stability ว่า “ไม่ได้ใส่ใจเลยว่าอะไรที่ถูกนำไปใช้ฝึกโมเดล AI” และทำให้ผลงานของต้นถูกนำไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม และยังเรียกผลงานที่สร้างจาก AI ว่าเป็น “ขยะของ AI”
แน่นอนว่า Getty Images ตระหนักถึงอุตสาหกรรม AI โดยรวมว่าอาจเป็นพลังแห่งความก้าวหน้า แต่สิ่งนั้นไม่สามารถใช้เป็นข้ออ้างให้ผู้พัฒนา AI ละเมิดสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อื่นได้
ลินด์เซย์ เลน เคซี (Lindsay Lane KC) ตัวแทนฝ่ายกฎหมายของ Getty Images กล่าว
ฝั่ง Getty ยังระบุอีกว่า ปัญหาสำคัญอยู่ที่บริษัท AI อย่าง Stability ใช้ผลงานของ Getty โดยไม่ได้จ่ายค่าตอบแทน ทั้งที่ตนเป็นแพลตฟอร์มตัวแทนของผู้สร้างคอนเทนต์จากทั่วโลกกว่า 600,000 คน ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วเป็นช่างภาพ โดยคดีนี้จะเน้นไปที่หลักฐานภาพถ่ายโดยช่างภาพดังในสังกัดของ Getty เช่น ภาพทีมเบสบอล Chicago Cubs โดย เกร็กกอรี่ ชามัส (Gregory Shamus) และภาพของผู้กำกับ คริสโตเฟอร์ โนแลน (Christopher Nolan) โดย แอนเดรียส เรนซ์ (Andreas Rentz)
นอกจากที่ลอนดอนแล้ว Getty ยังฟ้อง Stability AI ในศาลสหรัฐฯ อีกด้วย โดยคาดว่าศาลลอนดอนอาจต้องใช้เวลาพิจารณาประมาณ 3 สัปดาห์ ก่อนจะมีคำตัดสินออกมา
นอกจากนี้ Getty ยังกล่าวหาเพิ่มเติ่มในประเด็นอื่น ว่ามีการใช้เนื้อหาลามกอนาจารเกี่ยวกับเด็กมาใช้ในการฝึกโมเดล AI Stable Diffusion อีกด้วย ซึ่งทางทนายของ Stability ได้โต้แย้งว่า “นี่เป็นข้อกล่าวหาที่น่ารังเกียจ”
เมื่อเดือนที่ผ่านมา เครก ปีเตอร์ส (Craig Peters) ซีอีโอของ Getty Images เผยว่าบริษัทมีการใช้เงินมูลค่าหลายล้านเหรียญ (1 ล้านเหรียญ เท่ากับประมาณ 32 ล้านบาท) ในการดำเนินคดีกับ Stability AI ในครั้งนี้
ก็ต้องมารอดูกันล่ะครับ ว่าสุดท้ายแล้วศาลจะตัดสินให้ใครเป็นฝ่ายชนะ แต่อย่างไรก็ตามนี่อาจเป็นคดีครั้งสำคัญที่จะกลายเป็นบรรทัดฐานของกฎหมายเกี่ยวกับ AI ก็เป็นได้
ที่มา: PetaPixel