แซม อัลต์แมน (Sam Altman) ซีอีโอของ OpenAI ได้ประกาศนโยบายสำหรับผู้ใช้งาน ChatGPT ใหม่ รวมถึงแนวทางที่แชตบอต AI จะโต้ตอบกับผู้ใช้งานที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีด้วย
แซม อัลต์แมน (Sam Altman) ซีอีโอของ OpenAI ได้ประกาศนโยบายสำหรับผู้ใช้งาน ChatGPT ใหม่ รวมถึงแนวทางที่แชตบอต AI จะโต้ตอบกับผู้ใช้งานที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีด้วย
OpenAI ได้เผยแพร่ผลงานวิจัยใหม่ในหัวข้อ “Why language models hallucinate” โดยงานวิจัยนี้ให้นิยามคำว่า “hallucinations” ของโมเดลภาษาขนาดใหญ่หรือ LLM เป็นอาการหลอนหรือให้คำตอบที่ผิด โดยที่ AI ยังแสดงความมั่นใจว่าได้ให้ข้อมูลเหล่านั้นอย่างถูกต้อง สาเหตุที่ AI มีอาการ hallucination ออกมาเนื่องจากวิธีการเทรนและการวัดผลที่มุ่งเน้นผลลัพธ์ที่ถูกต้องที่สุด โดยไม่ให้ความสำคัญกับการรู้จักหรือยอมรับว่าไม่มั่นใจในตำจอบหรือข้อมูล เมื่อโมเดลเจอคำถามหรือคำสั่งที่ไม่แน่ใจจึงใช้วิธีเดาไปก่อน เหมือนกับการที่นักเรียนเดาตอบของข้อสอบทั้ง ๆ ที่การเลือกไม่ตอบอาจเป็นการแสดงความซื่อสัตย์และความระมัดระวัง แน่นอนว่าการเลือกไม่ตอบจะทำให้คะแนนท่ีได้เป็นศูนย์ แต่หากเดาถูกโมเดลจะได้คะแนน เมื่อทำแบบนี้ หากโมเดลเดาถูกจะทำให้คะแนนที่ออกมาดูดี แต่ก็เป็นการทำให้โมเดลเรียนรู้และเลือกที่จะเดาแม้ว่าจะไม่มีข้อมูลซัปพอร์ตที่ดีพอ งานวิจัยยังชี้ว่า
เป็นยุคที่เซมิคอนดักเตอร์เป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญมาก ๆ สำหรับหลายบริบท โดยเฉพาะ AI ล่าสุดมีรายงานว่า OpenAI จะร่วมมือกับ Broadcom พัฒนาชิปของตัวเอง และคาดว่าจะเปิดตัวภายในปี 2026
OpenAI ประกาศกำลังพัฒนาแพลตฟอร์มหางานที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในชื่อว่า ‘OpenAI Jobs Platform’ ท้าชนกับ LinkedIn พร้อมตั้งเป้าว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2026 ที่ใกล้จะถึงนี้ บริษัทกล่าวว่า แพลตฟอร์มดังกล่าวจะมีการใช้ AI เข้ามาช่วยจับคู่ที่ลงตัวระหว่างความต้องการของนายจ้างกับสิ่งที่แรงงานสามารถมอบให้ได้ พร้อมกับช่องทางเฉพาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและหน่วยงานท้องถิ่น ให้สามารถเข้าถึงบุคลากรด้าน AI ชั้นนำได้ง่ายขึ้น สิ่งที่น่าสนใจคือ OpenAI กำลังก้าวเข้าสู่การแข่งขันโดยตรงกับแพลตฟอร์มหางานชื่อดังอย่าง LinkedIn ซึ่งก่อตั้งโดย รีด ฮอฟฟ์แมน (Reid Hoffman) หนึ่งในนักลงทุนรุ่นแรกของ
หลังจากมีข่าวไม่ดีเรื่องการที่เยาวชนใช้แชตบอต AI แล้วผลลัพธ์ออกมาทำให้พ่อแม่กังวล OpenAI ก็เตรียมเพิ่มระบบ Parental Control หรือระบบที่ให้ผู้ปกครองสามารถสามารควบคุมการใช้งานของเด็ก ๆ ได้แล้ว OpenAI นำมาตรการนี้มาใช้หลังอดัม เรน (Adam Raine) ได้พูดคุยเกี่ยวกับการทำร้ายและวางแผนจบชีวิตตัวเองผ่าน ChatGPT ซึ่ง ChatGPT เองก็ให้ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการฆ่าตัวตายกับเรนด้วย เช่น การเขียนจดหมายลาตาย แต่กลับไม่ให้ข้อมูลเรื่องการเยียวยาสภาพจิตใจ พ่อแม่ของเรนได้ยื่นฟ้อง OpenAI ในข้อหาทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ในบล็อกโพสต์ของ OpenAI บริษัทยอมรับข้อบกพร่อง โดยแนวทางการปรับปรุงของ
ESET บริษัท ผู้ให้บริการด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ค้นพบ PromptLock มัลแวร์เรียกค่าไถ่สายพันธุ์ใหม่ที่สร้างขึ้นด้วยโมเดล gpt-oss:20b ของ OpenAI นักวิจัยจากบริษัทรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ ESET เปิดเผยว่าสามารถตรวจพบมัลแวร์เรียกค่าไถ่ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เป็นครั้งแรก โดยมัลแวร์ดังกล่าวมีชื่อว่า PromptLock การทำงานอาศัยเทคนิคการโจมตีแบบ ฮาร์ดโค้ดพรอมต์อินเจ็กชัน บนโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) เพื่อบังคับให้โมเดลมีส่วนร่วมในการดำเนินการโจมตีแรนซัมแวร์ มัลแวร์ตัวนี้ถูกพัฒนาด้วยภาษา Golang และทำงานโดยส่งคำขอผ่าน Ollama ซึ่งเป็น API แบบโอเพนซอร์สสำหรับเชื่อมต่อกับโมเดลภาษาขนาดใหญ่ โดยใช้เวอร์ชันโลคอลของโมเดลโอเพนซอร์ส gpt-oss:20b จาก
แมตต์และมาเรีย เรน ยื่นฟ้อง OpenAI ฐานมีส่วนทำให้ลูกชายของพวกเขาเสียชีวิต เนื่องจาก ChatGPT ช่วยวางแผนอัตวินิบาต คดีความครั้งนี้ยื่นฟ้องที่ซานฟรานซิสโก หลังจากที่อดัม เรน เด็กชายวัย 16 ปี อัตวินิบาตตัวเองในเดือนเมษายน พ่อแม่ของเขาได้ตรวจสอบ iPhone เพื่อค้นหาเบาะแส โดยหวังว่าจะพบข้อมูลในข้อความหรือแอปโซเชียล แต่กลับตกใจเมื่อพบกระทู้ใน ChatGPT ที่มีหัวข้อ “Hanging Safety Concerns” พวกเขาอ้างว่าตลอดหลายเดือนสุดท้าย ลูกชายใช้เวลาไปกับการสนทนากับบอต AI เกี่ยวกับการจบชีวิตของตนเอง เรียกว่านี่ถือเป็นคดีแรกที่
OpenAI พยายามล้ม Google Search กลายเป็นเครื่องมือที่ผู้คนใช้คนหาแทน แม้แต่ซีอีโออย่างแซม อัลต์แมน (Sam Altman) ยังออกมาบอกว่าตนเลิกใช้ Google มานานแล้ว อย่างไรก็ตาม เบื้องหลังของ ChatGPT นั้นยังอาศัย Google อยู่เลย
แซม อัลต์แมน (Sam Altman) ซีอีโอของ OpenAI เชื่อว่าเมื่อดูจากกระแสของนักลงทุนก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตอนนี้เรากำลังอยู่ในภาวะฟองสบู่ AI เรียบร้อยแล้ว
แซม อัลต์แมน (Sam Altman) ซีอีโอของ OpenAI บริษัทผู้พัฒนาแชตบอตชื่อดังอย่าง ChatGPT ได้ออกโรงเตือนว่าสหรัฐอเมริกาอย่าประเมินความก้าวหน้าของ AI จีนต่ำเกินไป อัลต์แมนบอกว่าตนมีความกังวลเกี่ยวกับประเทศจีนระหว่างการให้สัมภาษณ์ มันไม่ใช่แค่คำถามง่าย ๆ ว่าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน ใครเหนือกว่ากันในทางเทคนิค แต่มันมีเรื่องอื่นที่มีความซับซ้อนมากกว่านั้น เช่น การแทรกแซง การทำวิจัยผลิตภัณฑ์ เป็นต้น แม้มาตรการการควบคุมส่งออกผลตภัณฑ์เกี่ยวกับชิปหรือเซมิคอนดักเตอร์จะมีความเข้มงวดขึ้น แต่อัลต์แมนบอกว่าการที่สหรัฐฯ ทำแบบนี้จะไม่ได้ผล สัญชาตญาณของผมบอกว่าการทำแบบนี้มันจะไม่ได้ผล จริง ๆ นโยบายควบคุมการส่งออกสินค้ากลุ่มเซมิคอนดักเตอร์นั้นก็เริ่มมาตั้งแต่รัฐบาลโจ ไบเดน (Joe