ครั้งแรกของไทย! “ดีอี – ETDA” เปิดรับฟังความเห็นร่างกฎหมาย AI คุม ‘High-Risk AI’ สร้างสมดุลนวัตกรรม-สิทธิประชาชน

CEEi TeamAIThai Tech2 weeks ago16 Views

THE SUMMARY:

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) และสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) ได้เปิดเผย “(ร่าง) หลักการของกฎหมายว่าด้วยปัญญาประดิษฐ์” ซึ่งถือเป็นร่างกฎหมาย AI ฉบับแรกของประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ว โดยชูแนวทางการกำกับดูแลตามระดับความเสี่ยง (Risk-based Approach) ที่มุ่งเน้นควบคุมการใช้งาน AI ที่มี “ความเสี่ยงสูง” เป็นหลัก เพื่อสร้างสมดุลระหว่างการส่งเสริมนวัตกรรมกับการคุ้มครองสิทธิและความปลอดภัยของประชาชน พร้อมเปิดรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนจนถึงวันที่ 9 มิถุนายนนี้

ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดีอี
ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดีอี

ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดีอี กล่าวว่า AI เป็นกลไกสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และโจทย์สำคัญคือการสร้างจุดสมดุลระหว่างการกำกับดูแลเพื่อคุ้มครองสังคม กับการไม่สร้างอุปสรรคต่อนวัตกรรม ซึ่งหลักการธรรมาภิบาลปัญญาประดิษฐ์ (AI Governance) นี้จะเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ

ทำไมไทยต้องมีกฎหมาย AI?

ดร.ศักดิ์ เสกขุนทด ที่ปรึกษาอาวุโส ETDA
ดร.ศักดิ์ เสกขุนทด ที่ปรึกษาอาวุโส ETDA

ดร.ศักดิ์ เสกขุนทด ที่ปรึกษาอาวุโส ETDA อธิบายว่า ปัจจุบันการกำกับดูแล AI ในไทยยังอยู่ในรูปแบบ Soft Law หรือแนวปฏิบัติ ซึ่งอาจไม่เพียงพอต่อการพัฒนาของ AI ที่รวดเร็วและซับซ้อนขึ้น ทำให้เกิดความจำเป็นในการสร้างกรอบกฎหมายที่ชัดเจนขึ้นเพื่อจัดการประเด็นสำคัญ เช่น ความโปร่งใสในการทำงานของ AI, การรับผิดชอบต่อความเสียหาย, และการละเว้นความรับผิดชอบในกรณีที่เกิดความผิดพลาดนอกเหนือความคาดหมาย

หัวใจของกฎหมาย: “กำกับตามความเสี่ยง” ไม่ใช่ “One Size Fits All”

แนวทางหลักของร่างกฎหมายฉบับนี้คือการกำกับดูแลตามระดับความเสี่ยง โดยจะไม่ใช้กฎเกณฑ์เดียวกันกับ AI ทุกประเภท (one size fits all) แต่จะมุ่งเน้นไปที่การกำกับดูแล AI ที่มีความเสี่ยงสูง (High-Risk AI) ซึ่งอาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อสิทธิ เสรีภาพ หรือความปลอดภัยของประชาชน ขณะที่ AI ความเสี่ยงต่ำจะได้รับการส่งเสริมและมีกฎเกณฑ์ที่ผ่อนปรนกว่า เพื่อไม่ให้เป็นการขัดขวางการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม แนวทางนี้ยังเปิดให้มีการกำกับดูแลที่ยืดหยุ่นในหลายระดับ ตั้งแต่แนวปฏิบัติ (Guideline), กฎหมายอย่างอ่อน (Soft Law) ไปจนถึงกฎหมายที่มีผลบังคับใช้ (Hard Law) ให้เหมาะสมกับแต่ละบริบท

หลักการสำคัญในร่างกฎหมาย AI ฉบับแรกของไทย

ร่างกฎหมายนี้ครอบคลุมประเด็นสำคัญ 3 ด้าน คือ:

  1. การปลดล็อก: แก้ไขประเด็นทางกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาหรือประยุกต์ใช้ AI
  2. การส่งเสริม: กำหนดมาตรการส่งเสริมที่จำเป็น เช่น Text and Data Mining, Regulatory Sandbox, การให้ทุน และการลดหย่อนภาษี
  3. การคุ้มครอง: วางกรอบธรรมาภิบาล AI, กำหนดแนวทางกำกับดูแล High-Risk AI, ส่งเสริมการใช้งาน AI อย่างรับผิดชอบ, และกำหนดบทบาทของหน่วยงานกำกับดูแลเฉพาะด้าน

ก้าวต่อไปของ AI ไทยในเวทีโลก

การผลักดันร่างกฎหมายนี้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของประเทศในการเตรียมความพร้อม 3 มิติ ได้แก่ ธรรมาภิบาล, บุคลากร และโครงสร้างพื้นฐาน (เช่น Data Sharing และ Digital Sovereignty) โดยประเด็นเหล่านี้จะถูกหยิบยกขึ้นหารืออย่างจริงจังในเวทีนานาชาติ The 3rd UNESCO Global Forum on the Ethics of AI 2025 ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพในเดือนมิถุนายนนี้

ดร.ศักดิ์ เน้นย้ำว่า ร่างกฎหมายนี้ไม่ใช่เพียงเครื่องมือทางกฎหมาย แต่คือการสร้าง ‘สมดุล’ ระหว่างการใช้เทคโนโลยี AI เพื่อประโยชน์ของสังคม กับการคุ้มครองความปลอดภัย สิทธิ และศักดิ์ศรีของมนุษย์ในยุคดิจิทัล

ประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน สามารถร่วมแสดงความคิดเห็นต่อ “(ร่าง) หลักการของกฎหมายว่าด้วยปัญญาประดิษฐ์” ผ่านระบบกลางทางกฎหมายได้ที่ http://bit.ly/4kBjBTU ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 9 มิถุนายน 2568

See Culture. Spark Innovation. Illuminate the Future.

Advertisement

Sidebar Search
Popular Now
Loading

Signing-in 3 seconds...

Signing-up 3 seconds...