สรุป Red Hat Summit 2025 เปิดตัวนวัตกรรม AI และ Hybrid Cloud ล่าสุด นำทีมโดย REHL 10

Red Hat ผู้นำโอเพ่นซอร์สระดับโลก ได้ประกาศเปิดตัวนวัตกรรมสำคัญมากมายที่งาน Red Hat Summit 2025 โดยมีเป้าหมายเพื่อเร่งการนำ AI มาใช้ในองค์กร และเสริมความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้างพื้นฐาน Hybrid Cloud การประกาศเหล่านี้ครอบคลุมผลิตภัณฑ์หลักและโครงการริเริ่มใหม่ๆ ที่มุ่งเน้นการให้ ทางเลือกและความมั่นใจ แก่ลูกค้าในการใช้งาน AI และ Hybrid Cloud โดยการเปิดตัวที่น่าสนใจได้แก่

Red Hat Enterprise Linux 10 (RHEL 10)

ระบบปฏิบัติการ Enterprise Linux เวอร์ชันล่าสุดที่ได้รับการพัฒนาให้เป็นรากฐานที่ชาญฉลาดและทนทานสำหรับ Hybrid Cloud และ AI โดย RHEL 10 มาพร้อมกับความสามารถใหม่ๆ อย่าง

• การจัดการที่ขับเคลื่อนด้วย AI (AI-powered Management): RHEL 10 มาพร้อม Red Hat Enterprise Linux Lightspeed และ Red Hat Insights ที่ช่วยเพิ่มความสามารถด้านการจัดการ Linux โดยใช้ AI ในการให้คำแนะนำ เช่น การแนะนำแพ็กเกจใน Insights image builder เพื่อช่วยในการตัดสินใจเลือกแพ็กเกจที่เหมาะสมตั้งแต่ขั้นตอนการสร้างระบบ และ Insights planning ช่วยให้เห็นภาพรวม Roadmap ของ RHEL ได้ดีขึ้น
• โหมด Image และแนวทาง Container-Native: RHEL 10 นำเสนอ “Image mode” ซึ่งเป็นแนวทางแบบ Container-native ที่ช่วยรวมขั้นตอนการสร้าง ติดตั้ง และจัดการทั้งตัวระบบปฏิบัติการและแอปพลิเคชันให้อยู่ใน Workflow เดียวกัน ทำให้การจัดการง่ายขึ้น และช่วยลดความซับซ้อนในการนำแอปพลิเคชัน Cloud-native ไปใช้งาน
• ฟีเจอร์ความปลอดภัยสำหรับยุคควอนตัม: RHEL 10 เป็น Enterprise Linux รายแรกๆ ที่ผนวกมาตรฐานการเข้ารหัสแบบ Post-quantum จาก NIST เพื่อช่วยป้องกันภัยคุกคามในอนาคตที่มาจากการประมวลผลควอนตัม รวมถึงการป้องกันการโจมตีแบบ “harvest now; decrypt later”
• Image ที่ปรับปรุงเพื่อการใช้งานบน Cloud หลักโดยเฉพาะ: มี Image ของ RHEL 10 ที่ร่วมพัฒนากับผู้ให้บริการ Cloud หลัก (AWS, Google Cloud, Microsoft Azure) ซึ่งได้รับการปรับแต่งมาโดยเฉพาะสำหรับสภาพแวดล้อม Cloud นั้นๆ ทำให้พร้อมใช้งานทันที (Pre-tuned, ready-to-run) ช่วยให้การใช้งานบน Cloud รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
• เป็นรากฐานสำหรับโซลูชัน AI ของ Red Hat: RHEL 10 ถูกวางตำแหน่งให้เป็นรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับโซลูชัน AI ของ Red Hat ซึ่งรวมถึง Red Hat AI Inference Server, Red Hat OpenShift AI และ Red Hat Enterprise Linux AI (RHEL AI) เพื่อรองรับ Workload AI ที่มีความต้องการสูง

เช่น AI-powered management ผ่าน Red Hat Insights และ Red Hat Enterprise Linux Lightspeed ที่ช่วยในการตัดสินใจด้าน IT และการจัดการ การนำเสนอ image mode เพื่อการจัดการระบบปฏิบัติการแบบ Container-native ก็เป็นจุดเด่นเช่นกัน นอกจากนี้ ยังมีภาพติดตั้ง (images) ของ RHEL 10 ที่ Cloud-Optimized โดยร่วมมือกับ AWS, Google Cloud และ Microsoft Azure เพื่อการใช้งานบน Public Cloud อย่างราบรื่น

Red Hat AI Inference Server

ผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดที่ขับเคลื่อนโดย vLLM และเทคโนโลยีของ Neural Magic เพื่อการอนุมาน (Inference) AI ที่ รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และคุ้มค่า ในวงกว้างบนสภาพแวดล้อม Hybrid Cloud Red Hat AI Inference Server มีให้ใช้งานทั้งแบบ Standalone และรวมอยู่ใน Red Hat Enterprise Linux AI (RHEL AI) และ Red Hat OpenShift AI ผลิตภัณฑ์นี้รองรับการใช้งานร่วมกับโมเดล AI และ Accelerators ที่หลากหลาย

llm-d Community

การเปิดตัวโครงการโอเพ่นซอร์สใหม่ที่มุ่งเน้นการอนุมาน gen AI แบบกระจาย (distributed gen AI inference) ในวงกว้าง (at scale) โครงการนี้สร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรม Kubernetes และใช้ vLLM เป็นแกนหลัก โดยร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำในอุตสาหกรรม เช่น CoreWeave, Google Cloud, IBM Research และ NVIDIA วิสัยทัศน์คือการทำให้ vLLM เป็น มาตรฐานโอเพ่นสำหรับ Inference ทั่ว Hybrid Cloud

อัปเดต Red Hat OpenShift AI (v2.20)

แพลตฟอร์ม MLOps สำหรับการจัดการวงจรชีวิตโมเดล AI/ML ในวงกว้างบน Hybrid Cloud เวอร์ชันล่าสุดมาพร้อมการปรับปรุงสำหรับการสร้าง เทรน Deploy และ Monitor โมเดล รวมถึงแค็ตตาล็อกโมเดลที่ถูก Optimize (เทคโนโลยีพรีวิว) และรองรับการเทรนแบบกระจาย (distributed training) Red Hat OpenShift AI ยังรวม Red Hat AI Inference Server และ RHEL AI ไว้ด้วย

อัปเดต Red Hat Enterprise Linux AI (RHEL AI 1.5)

แพลตฟอร์ม Foundation Model สำหรับการพัฒนา ทดสอบ และรัน Large Language Models (LLMs) เวอร์ชัน 1.5 มีความสามารถใหม่ เช่น การใช้งานบน Google Cloud Marketplace การรองรับหลายภาษาที่ได้รับการปรับปรุงใน InstructLab และ Red Hat AI InstructLab บน IBM Cloud พร้อมให้บริการทั่วไปแล้ว RHEL AI มาพร้อม InstructLab Tooling และโมเดล Granite 3.0 ใน Bootable Image

ความสำคัญของพันธมิตรและ Ecosystem

เร้ดแฮทยังคงเน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของพันธมิตรในกลยุทธ์การนำเสนอโซลูชันแบบเปิด มีการประกาศความร่วมมือกับ Hyperscalers (AWS, Azure, Google Cloud, IBM Cloud, Oracle) ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ (NVIDIA, Intel, AMD) และ ISVs เพื่อให้ลูกค้ามีทางเลือกและสามารถใช้งานเทคโนโลยีของเร้ดแฮทได้อย่างกว้างขวาง Red Hat ยังเป็น Infrastructure Provider ให้กับ Portfolio ของ IBM รวมถึง Watson X ด้วย

การประกาศเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเร้ดแฮทในการสนับสนุนการใช้งาน AI และ Hybrid Cloud ด้วยโซลูชันโอเพ่นซอร์สที่ยืดหยุ่น มีประสิทธิภาพ และเชื่อถือได้

เอกพล ชูเชิด

บรรณาธิการ CEEi ดูแลเนื้อหาด้านเทคโนโลยี Gadget ทุกประเภท