ปี 2025 เรียกว่าอนิเมะหุ่นยนต์ญี่ปุ่นที่ครองใจผู้คนทั่วโลกอย่าง ‘กันดั้ม’ ได้เดินทางมาใกล้ถึง 46 ปีกันแล้วครับ แม้ว่าจะผ่านเวลามาอย่างยาวนานแต่ก็มีแฟน ๆ ที่คอยติดตามอย่างเหนี่ยวแน่นมาโดยตลอด ล่าสุดกับซีรีส์ภาคใหม่ ‘Mobile Suit Gundam GQuuuuuuX” กับการเล่าเรื่องราวของจักรวาล U.C. ในแบบใหม่ที่หลายคนอาจคาดไม่ถึง อีกทั้งยังเป็นการร่วมมือระหว่าง Sunrise กับ ‘studio khara’ ซึ่งเป็นที่รู้จักจากผลงาน Evangelion อีก ฟังแค่นี้ก็ยิ่งน่าตื่นเต้นขึ้นทุกทีว่าทิศทางของภาคนี้จะออกไปเป็นอย่างไรกันนะ !?
ในบทความนี้ทาง CEEi ยังได้รับเชิญให้สัมภาษณ์กับคุณคาซุยะ สึรุมากิ (Kazuya Tsurumaki) ผู้กำกับในภาคนี้ที่สังกัดกับ studio khara แบบ exclusive อีกด้วยครับ เรียกว่าเป็นโอกาสพิเศษจริง ๆ ที่ได้คุยกับผู้กำกับจากสตูดิโอชื่อดังแบบนี้ และต้องขอบคุณทาง Prime Video ด้วยเช่นกันครับ
สำหรับเนื้อเรื่องของ Mobile Suit Gundam GQuuuuuuX เล่าเรื่องผ่านมุมมองของ อามาเทะ ยูซุริฮะ (Amate Yuzuriha) เด็กสาวมัธยมปลายที่ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในอาณานิคมอวกาศ ซึ่งเรื่องราวทำให้เธอได้พบกับ เนี้ยง (Nyaan) เด็กสาวผู้ลี้ภัย และพบว่าตัวเองได้เข้าไปพัวพันกับการแข่งขันโมบิลสูท (Mobile Suit) ผิดกฎหมายที่เรียกว่า ‘แคลนแบทเทิล’ (Clan Battle) เข้าซะแล้ว ด้วยเหตุบางอย่างเธอจึงใช้นามแฝงว่า ‘มาชู’ (MACHU) ขึ้นควบคุม GQuuuuuuX ต่อสู้ในสมรภูมิเดือดวันแล้ววันเล่า จนเมื่อวันหนึ่งก็ได้มีโมบิลสูทลึกลับ Gundam สีแดงพร้อมเด็กชายคนขับนามว่า ชูจิ (Shuuji) ที่กำลังถูกทั้งกองทัพอวกาศและตำรวจไล่ล่า ก็มาปรากฏตัวต่อหน้าเธอ พร้อมกับโลกที่กำลังเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคสมัยใหม่
สำหรับแฟน ๆ กันดั้มจักรวาลหลักน่าจะคุ้นเคยกับศักราชอวกาศ U.C. กันเป็นอย่างดีใช่ไหมครับ ซึ่งภาคนี้ดำเนินเนื้อเรื่องในช่วงเวลา U.C.0085 เป็นหลัก แต่ก็จะมีการย้อนถึงเหตุการณ์ในช่วง U.C.0079 อยู่บ้าง ทำให้การดู Mobile Suit Gundam GQuuuuuuX สำหรับแฟน ๆ หน้าใหม่ก็สามารถเพลิดเพลินไปภาคนี้ได้ครับ ส่วนใครที่เคยผ่านหรือศึกษาจักรวาล U.C. ในแบบฉบับดั้งเดิมมาแล้วก็ยิ่งอิมแพกค์เข้าไปใหญ่ มีอะไรให้น่าติดตามเต็มไปหมด
ยิ่งการดีไซน์ mechanic ตัวหุ่นในภาคนี้ต้องบอกว่าฉีกความเป็นกันดั้มในแบบฉบับที่เราเคยรู้จักไปพอสมควรครับ โดยเจ้า GQuuuuuuX กับ Gundam ในภาคนี้บ่งบอกสไตล์ความเป็น studio khara ได้อย่างชัดเจนทีเดียว ให้อิมเมจความเป็นอาวุธสงครามมากขึ้น (จะยกเว้นก็ที่สีของตัว GQuuuuuuX ล่ะนะ ฮา) โดยที่ตัว GQuuuuuuX นอกจากดีไซน์แล้วน่าจะซ่อนความลับอะไรเอาไว้อีก (อย่างทำไมหุ่นยนต์ต้องมีฟันกันนะ ??) อันนี้ก็ต้องรอติดตามดูในซีรีส์ล่ะครับ
เอาล่ะเรามาต่อที่พาร์ตสัมภาษณ์เบื้องหลังระหว่าง Ceei กับ คุณคาซุยะ สึรุมากิ (Kazuya Tsurumaki) ผู้กำกับในภาคนี้กันครับ ซึ่งเราได้คัดมา 3 คำถามด้วยกัน
Q1: โมบิลสูท กันดั้ม GQuuuuuuX ภาคนี้ เหมือนเป็นการรีเซ็ตจักรวาล U.C.(ศักราชอวกาศ) แล้วตีความใหม่ อะไรเป็นแรงบันดาลใจสำคัญที่อยากให้สร้างจักรวาล U.C. ที่แตกต่างจากที่เคยมีมาครับ?
A1: เดิมทีกันดั้มเนี่ยก็วาดภาพของสงครามอยู่แล้ว ไอเดียของเรื่องกันดั้มก็มีการนำเอาเรเฟอเรนซ์มาจากสงครามจริง ๆ แล้วสร้างออกมาเป็นแนว Sci-Fi อยู่แล้วด้วย ซึ่งถ้าดูแฟนซีรีส์สมัยนี้เนี่ยผมว่าหลาย ๆ คนคุ้นเคยกับประวัติศาสตร์ของ Universal Century อยู่แล้วครับ แรงจูงใจตอนแรกทำที่เรื่องนี้เนี่ย ผมเลยคิดว่าถ้าเอาประวัติศาสตร์ของกันดั้มเองมาเป็นเรเฟอเรนซ์เพื่อสร้างเรื่องราวอื่น ๆ ต่อก็น่าจะสนุกดีครับ
Q2: เนื่องจากในภาคนี้เป็นความร่วมมือสร้างกับ studio khara ที่เป็นทีมงานที่สร้างซีรีส์อีวานเกเลียน มีผลต่อการพัฒนาซีรีส์นี้มากน้อยแค่ไหนอย่างไร
A2: มีอยู่แล้วครับ แต่ว่าเดิมทีทาง BANDAI NAMCO เป็นผู้สร้างผลงานกันดั้มมาโดยตลอด การที่เสนอให้สตูดิโอนอกมาสร้าง มันเป็นโอกาสที่หาได้ยากมากครับ ตอนแรกนึกว่าจะมีเสียงต่อต้านหรือเปล่า แต่ก็ได้รับความสนใจเลยโชคดีไปครับ
Q3: เรื่องการออกแบบโมบิลสูท เนื่องจาก GQuuuuuuX เองมีดีไซน์ที่แตกต่างจากกันดั้มที่เรารู้จักพอสมควร เลยอยากทราบว่ามีความท้าทายในการออกแบบหรือมีความพิเศษอย่างไรบ้าง
A3: การดีไซน์ตัวละครในครั้งนี้ได้คุณทาเคะที่เป็นผู้ดีไซน์ตัวละครโปเกมอน ผมน่ะชอบฟอร์ม (form: การขึ้นรูปทรงรูปร่าง) ชอบภาพที่คุณทาเคะวาดอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ชอบที่สุดคือการลงสีของคุณทาเคะครับ ซึ่งแอนิเมชัน… กันดั้มเนี่ย… มีสีสันที่ชิค เป็นสีแบบแนวทหาร ๆ ซะเยอะ ความใจกล้าลงสีให้ตัวละครออกมามีสีสันของคุณทาเคะทำให้มันออกมาน่าสนใจครับ
Q: อะไรทำให้คุณตัดสินใจร่วมงานโปรเจกต์ครั้งนี้?
A: Bandai Namco Filmwork (BNF) ได้ติดต่อมาที่ studio khara เพื่อถามว่าเราสนใจจะสร้างซีรีส์กันดั้มหรือไม่ ซึ่งปกติแล้วมักจะไม่ค่อยมีสตูดิโออื่น ๆ ได้ผลิตซีรีส์กันดั้มผมเลยเสนอไอเดียที่คิดว่าจะถูกปฏิเสธแน่ ๆ แต่กลับได้รับการอนุมัติ ผมจึงได้กลายมาเป็นผู้กำกับเรื่องนี้
Q: อะไรทำให้ “Mobile Suit Gundam GQuuuuuuX” มีความแตกต่างจากผลงานกันดั้มเรื่องอื่น
A: ถ้าผมจะต้องสร้างซีรีส์ที่อยู่ในจักรวาล Universal Century ผมอยากจะเล่าเรื่อง “Newtypes” ในเรื่องกันดั้ม ตัวละครอย่าง ชาลเลีย บูล (Challia Bull) มีพลังนี้ และมีความแตกต่างจากตัวละครอื่น ๆ ตรงที่เขาเป็นผู้ใหญ่ ผมคิดว่าการเล่าเรื่องของเขาจะช่วยขยายความเข้าใจเกี่ยวกับ Newtypes ได้มากขึ้น
Q: ประสบการณ์การที่ผ่านมาของคุณกับ “Evangelion” มีผลต่อการทำงานโปรเจกต์นี้อย่างไรบ้าง ?
A: สมัยก่อนยังมีอนิเมะแนวหุ่นยนต์จำนวนมาก แม้ว่าอนิเมะอย่าง Gundam และ Evangelion จะยังมีอยู่ในปัจจุบัน แต่ก็ต้องยอมรับว่าซีรีส์แนวนี้มีจำนวนลดลงเนื่องจากเราสร้างผลงานอนิเมะแนวหุ่นยนต์ซึ่งรวมถึงซีรีส์ Evangelion กันมาก่อนดังนั้นทั้งตัวผมเองและทีมงานของ khara จึงมีความเชี่ยวชาญ โดยเฉพาะในการผสมผสานตัวละครเข้ากับแอ็กชันของเครื่องจักร ซึ่งผมคิดว่าช่วยในการสร้าง Gundam อย่างมาก นอกจากนี้ เทคโนโลยี 3DCG ที่เราใช้ในซีรีส์ Rebuild of Evangelion ก็ทำให้เราได้เรียนรู้ที่จะรักษาสมดุลระหว่างคุณภาพกับต้นทุน ซึ่งเป็นสิ่งที่เรานำมาใช้ในการสร้างงานชิ้นนี้ด้วย ส่วนตัวผมเคยเป็นแอนิเมเตอร์ใน Mobile Suit Victory Gundam มาก่อน และในฐานะแฟนกันดั้มที่ได้กลายมาเป็นแอนิเมเตอร์ ประสบการณ์นั้นมีคุณค่ากับผมอย่างมาก แม้ในตอนนั้นจะไม่เคยคิดว่าจะได้มากำกับ Gundam แต่ผมยังจดจำประสบการณ์เหล่านั้นได้จนถึงทุกวันนี้ ดังนั้น ตัวละครอย่าง Machu และ Komori อาจจะมีกลิ่นอายของ “FLCL” อยู่บ้างก็ได้นะครับ
Q: ช่วยเล่าถึงการทำงานร่วมกับคุณ ฮิเดอากิ อันโนะ (Hideaki Anno) ได้ไหม?
A: ในแง่ของความสัมพันธ์ของเรา ตอนที่ทำซีรีส์ Evangelion คุณอันโนะเป็นผู้กำกับและผมเป็นหนึ่งในทีมงาน แม้แต่ในตอนนั้น ผมก็อยู่ในบรรยากาศที่สามารถแสดงความคิดเห็นได้ และเราก็แลกเปลี่ยนความเห็นกันในฐานะมืออาชีพอยู่ตลอด สำหรับงานชิ้นนี้ ตำแหน่งของเราสลับกัน คุณอันโนะเป็นฝ่ายให้ข้อเสนอแนะและความคิดเห็นกับผม และผมในฐานะผู้กำกับเป็นคนตัดสินใจหลังจากมีการพูดคุยกันอย่างรอบคอบ เราทำงานชิ้นนี้โดยที่สามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้อย่างอิสระ
Q: ทำไมถึงตัดสินใจตีความจักรวาล Universal Century ใหม่?
A: เรามองว่างานนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Universal Century และเป็นจักรวาลใหม่แยกออกไปอีกหนึ่งจักรวาล (Alternative) แต่ในเวลาเดียวกันมันก็ไม่ใช่ทั้งสองอย่าง ผมเห็นแฟนคลับถกเถียงกันว่าซีรีส์กันดั้มเรื่องใหม่จะอยู่ในจักรวาล Universal Century หรือจะเป็นการแยกจักรวาลใหม่ออกไป (Alternative) กันแน่ แม้งานชิ้นนี้ตั้งใจจะให้ถูกตั้งอยู่ในจักรวาล Universal Century แต่มันไม่ใช่แค่นั้น เรากำลังสร้างมันขึ้นมาในฐานะโปรเจกต์ใหม่ที่ทำให้ทั้งสองความเป็นไปได้นั้นดำรงอยู่ด้วยกันได้ครับ
Q: คุณมีความตั้งใจอย่างไร ในการผสานการออกแบบหุ่นยนต์แบบออริจินัลของกันดั้มเข้ากับสไตล์ของ อิคุโตะ ยามาชิตะ (Ikuto Yamashita) ?
A: ผมทำงานกับคุณยามาชิตะในโปรเจกต์ Evangelion มาด้วยกันนานแล้ว ขณะที่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกของผมที่ได้ทำงานกับเขาในฐานะผู้กำกับ แต่ผมก็ไว้วางใจเขาอย่างเต็มที่ในการออกแบบหุ่นยนต์ในเรื่อง โดยปกติแล้วโมบิลสูทมักจะสะท้อนบุคลิกของตัวละครผ่านการดีไซน์การออกแบบ แต่ครั้งนี้ผมต้องการให้หุ่นยนต์เหล่านั้นดูมีความเป็นเครื่องจักรมากขึ้น สิ่งที่ผมคาดหวังจากคุณยามาชิตะเป็นพิเศษ คือการออกแบบโดยเน้นฟังก์ชันการใช้งานจริงสำหรับการต่อสู้ใน ‘อวกาศ’ (อย่างการมีถังเชื้อเพลิงติดตั้งอยู่ในตัว) อีกอย่างคือเขาเป็นคนที่สามารถผสมผสานองค์ประกอบไซไฟได้ดีอย่างกับนักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ เช่น การออกแบบใบหน้าของโมบิลสูทให้ดูเหมือนมนุษย์ผ่านการจัดวางเซ็นเซอร์ที่เป็นระบบ ไม่ใช่เพียงการเลียนแบบใบหน้ามนุษย์โดยตรง ซึ่งผลลัพธ์มันก็ออกมาดีมาก
Q: อะไรคือความท้าทายที่ยากที่สุดระหว่างกระบวนการผลิตผลงานชิ้นนี้ ?
A: สำหรับผลงานที่ผู้คนรักและสั่งสมกันมาอย่างยาวนานแบบนี้ เราพบว่าแต่ละคนต่างก็มี “กันดั้ม” ในแบบของตัวเองอยู่ในใจ ดังนั้นช่วงแรกจึงเป็นเรื่องยากที่จะทำให้ทีมงานทุกคนเข้าใจตรงกันและตีความให้ไปในทิศทางเดียวกัน ตอนที่ทำ Neon Genesis Evangelion และ Evangelion: New Theatrical Edition ผมมีส่วนร่วมเป็นหนึ่งในทีมงานอยู่แล้ว รวมถึง Aim for the Top2! DIEBUSTER ที่ผมทำด้วยความมั่นใจ เพราะมันเป็นซีรีส์ที่ผมชื่นชอบเป็นพิเศษ แต่ในทางกลับกัน พอโปรดิวเซอร์มาชวนให้ทำโปรเจกต์ Gundam เรื่องใหม่ผมกลับรู้สึกกังวลอยู่บ้าง ตอนนั้นผมยังไม่แน่ใจว่าผลงานนี้จะได้รับการยอมรับหรือไม่ แต่สุดท้าย เราก็ปล่อยมันออกมาด้วยความมั่นใจ และทั้งเวอร์ชั่นภาพยนตร์และซีรีส์ก็ได้รับการตอบรับที่ดี ซึ่งผมคิดว่ามันออกมาดีทีเดียว
Q: คุณมีความตั้งใจอย่างไรเกี่ยวกับแก่นเรื่องดั้งเดิมของ Gundam อย่างเรื่องสงคราม ความขัดแย้ง และสันติภาพ ?
A: เราเน้นการถ่ายทอดเรื่องในยุคสงครามเย็น ซึ่งต่างจากยุคของคุณ โยชิยูกิ โทมิโนะ (Yoshiyuki Tomino) ที่ผ่านประสบการณ์สงครามจริงมา รุ่นของผมนั้นรู้จักสงครามผ่านมุมมองของสงครามเย็น นั่นคือความรู้สึกตึงเครียดต่อเนื่องจากความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นได้เราพยายามจะสะท้อนให้เห็นความรู้สึกเหล่านี้ไว้ในผลงานครับ
Q: คุณหวังจะสื่อสารข้อความอะไรผ่านผลงานชิ้นนี้ ?
A: เราอยากให้ทั้งผู้ชมหน้าใหม่และแฟนกันดั้มรุ่นเก่ารู้สึกสนุกไปกับผลงานชิ้นนี้ และหวังว่ามันอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นให้ผู้ชมกลุ่มใหม่สนใจและย้อนกลับไปสำรวจซีรีส์ Gundam เรื่องอื่น ๆ ด้วยครับ
Q: คุณรักษาสมดุลระหว่างการดึงดูดแฟนรุ่นเก่าและผู้ชมใหม่ได้อย่างไร ?
A: ไอเดียของโปรเจกต์นี้ถือว่ากล้าหาญพอสมควร และผมก็เคยกังวลเหมือนกันว่าอาจจะโดนแฟนกัมดั้มสายฮาร์ดคอร์วิจารณ์หนัก แต่ผมรู้สึกดีใจมากที่ทุกคนเปิดใจและสนุกกับมัน เราอ้างอิงผลงานในอดีตไว้ตลอดทั้งเรื่อง Mobile Suit Gundam GQuuuuuuX ด้วยความเคารพอย่างสุดหัวใจ หวังว่าแฟนคลับจะสัมผัสได้ถึงความตั้งใจของเราในส่วนนี้ นอกจากนี้ ผมก็อยากให้ผู้ชมกลุ่มใหม่เปิดใจให้กับผลงานของเราและแนวทางใหม่ที่เรานำเสนอ และถ้าพวกเขายังไม่เคยดูกันดั้มมาก่อน ผมคงจะมีความสุขมากถ้างานชิ้นนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่จุดประกายให้พวกเขาย้อนกลับไปชมผลงานสุดคลาสสิกขึ้นหิ้งของกันดั้ม โดยเริ่มจาก Mobile Suit Gundam ภาคแรก
Q: ซีรีส์ Gundam เรื่องไหนที่เป็นเรื่องโปรดของคุณ และมีโมบิลสูทตัวไหนที่ชอบมากที่สุด?
A: ผมชอบ Mobile Suit Gundam และ Mobile Suit Gundam 0080: War in the Pocket เป็นพิเศษ ส่วนโมบิลสูทที่ชอบที่สุดคือ GELGOOG และ Gundam Mk-II ครับ
Q: อนาคตคุณผู้กำกับอยากทำงานแนวไหน และเพราะอะไร?
A: ตัวผมเองไม่ได้อยากทำแค่ผลงานที่เกี่ยวกับหุ่น หรือการสู้รบ ที่จริงแนวที่อยากทำที่สุดคือแนวรอมคอมครับ (ในสตูดิโอฮาครืน) ผมอยากทำอะไรแนวซอฟต์ ๆ อย่างแนวรอมคอมมากเลยครับ แต่ไม่มีใครมาเสนอให้ผมทำแนวนั้นเลย สุดท้ายเลยมาทำผลงานแนวหุ่นยนต์นี่แหละครับ แต่แนวที่ผมชอบจริง ๆ คือรอมคอมครับ
Mobile Suit Gundam GQuuuuuuX สตรีมได้แล้ววันนี้พร้อมกันทั่วโลก (ยกเว้นประเทศเวียดนาม) ผ่าน Prime Video พร้อมเสียงพากย์ 10 ภาษา และคำบรรยาย 29 ภาษา รวมภาษาไทย แฟน ๆ กันดั้มห้ามพลาด !