สรุปงาน Google Cloud Next ’25 จัดเต็ม AI ครั้งใหญ่สำหรับองค์กร พร้อมฮาร์ดแวร์ใหม่

ภายในงาน Google Cloud Next ’25 กูเกิ้ลได้เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ครอบคลุมตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐานไปจนถึง AI agent เพื่อช่วยให้องค์กรสามารถสร้างคุณค่าจากการลงทุนด้าน AI ได้อย่างเป็นรูปธรรม และตอบโจทย์ด้านความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว และข้อกำหนดที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น

นวัตกรรมเด่นที่เปิดตัวในงาน Next ’25:

โครงสร้างพื้นฐานยุค AI (AI-Era Infrastructure)

• AI Hypercomputer: ระบบซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่รวมฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และโมเดลการใช้งานที่ยืดหยุ่น พร้อมเปิดตัว TPU รุ่นที่ 7 “Ironwood” ที่ทรงพลังและประหยัดพลังงานยิ่งขึ้น นอกจากนี้ Google Cloud ยังมีตัวเลือก GPU ล่าสุดจาก NVIDIA (HGX B200, GB200 และ Vera Rubin รุ่นถัดไป) ด้วย
• Cluster Director และ GKE Inference: เครื่องมือจัดการคลัสเตอร์ AI ขนาดใหญ่ และความสามารถใหม่ใน GKE (Google Kubernetes Engine) ที่ช่วยลดต้นทุนและเวลาแฝงในการให้บริการ AI
• Pathways: distributed machine learning runtime จาก Google DeepMind พร้อมให้องค์กรใช้งานแล้ว
• Cloud Wide Area Network (WAN): เปิดให้องค์กรเข้าถึงเครือข่ายส่วนตัวระดับโลกของ Google ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่ายและลดต้นทุน
• Gemini บน Google Distributed Cloud (GDC): นำโมเดล AI ที่ทรงพลังที่สุดของ Google ไปใช้งานในสภาพแวดล้อม on-premises หรือ air-gapped ได้ ตอบโจทย์องค์กรภาครัฐหรือองค์กรที่มีข้อกำหนดเข้มงวด

นวัตกรรมโมเดล AI บน Vertex AI (AI Model Innovations on Vertex AI)

• Gemini 2.5: เปิดตัว Gemini 2.5 Pro และ Gemini 2.5 Flash บน Vertex AI เพิ่มประสิทธิภาพการให้เหตุผลและความเร็วในการตอบสนอง ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการเฉพาะตัวของแต่ละองค์กรได้
• Generative Media Models:
  • Imagen 3: โมเดลแปลงข้อความเป็นภาพคุณภาพสูงสุด พร้อมความสามารถ inpainting ที่ดีขึ้น
  • Chirp 3: โมเดลสร้างเสียง ที่สร้างเสียงที่กำหนดเองได้จากเสียงตัวอย่างเพียง 10 วินาที และฟีเจอร์แยกเสียงผู้พูด
  • Lyria: โมเดลแปลงข้อความเป็นเพลงรุ่นแรกสำหรับองค์กร
  • Veo 2: โมเดลสร้างวิดีโอชั้นนำ พร้อมฟีเจอร์แก้ไขขั้นสูง เช่น inpainting, outpainting และการแทรกสอดเฟรม (interpolation)
• โมเดลเพื่อการค้นพบทางวิทยาศาสตร์: WeatherNext สำหรับพยากรณ์อากาศ และ AlphaFold 3 สำหรับทำนายโครงสร้างโมเลกุล พร้อมใช้งานบน Vertex AI และ Google Cloud

Vertex AI: แพลตฟอร์ม AI ครบวงจร (Vertex AI: Comprehensive AI Platform)

• Model Garden: ขยายตัวเลือกโมเดล AI เป็นกว่า 200 โมเดล ทั้งจาก Google และพันธมิตรชั้นนำ (Anthropic, Mistral, Meta ฯลฯ)
• การปรับแต่งโมเดล: รองรับการฝึกและปรับแต่งโมเดลยอดนิยมด้วยข้อมูลขององค์กรเอง
• การเชื่อมต่อข้อมูล: เชื่อมต่อข้อมูลจากหลากหลายคลาวด์ (AWS, Azure, Oracle)
• Grounding: เพิ่มความน่าเชื่อถือด้วยการอ้างอิงข้อมูลจาก Google Maps และพันธมิตรข้อมูลภายนอก (Dun & Bradstreet, S&P Global ฯลฯ)
• เครื่องมือใหม่: แดชบอร์ดติดตามการใช้งาน และเครื่องมือปรับแต่งโมเดลอัตโนมัติ
• Live API: รองรับการสตรีมเสียงและวิดีโอแบบเรียลไทม์ไปยังโมเดล Gemini เพื่อการโต้ตอบที่สมจริง

สู่ยุค Multi-Agent (Entering the Multi-Agent Era)

• Vertex AI รองรับ Multi-Agent: เป็นแพลตฟอร์มแรกที่รองรับโซลูชันที่ให้ AI หลายตัวทำงานร่วมกันได้
• Agent Development Kit (ADK): เฟรมเวิร์กโอเพนซอร์สใหม่ ช่วยให้พัฒนา multi-agent ได้ง่ายขึ้น
• Agent2Agent (A2A) protocol: โพรโทคอลแบบเปิดเพื่อให้ agent ที่สร้างจากต่างองค์กรสื่อสารกันได้
• Agent Garden: ชุดเครื่องมือและตัวเชื่อมต่อกว่า 100 รายการสำหรับ AI agent

เสริมพลังพนักงานด้วย Google Agentspace (Empowering Employees with Google Agentspace)

• Google Agentspace: รวมการค้นหาระดับองค์กร, AI สนทนา, Gemini และ third-party agent ช่วยให้พนักงานค้นหาข้อมูล สังเคราะห์ และดำเนินการผ่านแอปต่างๆ ได้ง่ายขึ้น
• ฟีเจอร์ใหม่:
  • การเชื่อมต่อ Chrome Enterprise
  • Agent Gallery รวบรวม agent ทั้งหมดในองค์กร
  • Agent Designer สร้าง agent แบบไม่ต้องเขียนโค้ด
  • Idea Generation Agent และ Deep Research Agent
  • การค้นหาผ่าน Agentspace บน GDC (พรีวิว Q3 2025)

นวัตกรรมเหล่านี้สะท้อนความมุ่งมั่นของ Google Cloud ในการนำเสนอเทคโนโลยี AI ที่ล้ำสมัยและเข้าถึงได้ เพื่อช่วยให้องค์กรทุกขนาดสามารถปลดล็อกศักยภาพใหม่ ๆ และขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตในยุคดิจิทัล

โทมัส คูเรียน CEO ของ Google Cloud กล่าวว่า “AI นำเสนอโอกาสที่ไม่เคยมีมาก่อนในการยกระดับคุณภาพชีวิต เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และพลิกโฉมกระบวนการต่าง ๆ Google ลงทุนด้าน AI มากว่า 20 ปี โดยหยั่งรากลึกในภารกิจหลักของเรา และ Google Cloud คือส่วนขยายที่นำสิ่งที่ดีที่สุดของ Google มาสู่องค์กร เรามองว่า AI เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่ทรงพลังที่สุดในการช่วยให้ลูกค้า นักพัฒนา และพันธมิตรของเราขับเคลื่อนพันธกิจให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น”