หลักฐานชี้ชัด แค่ทานโยเกิร์ตก็ช่วยลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้

มะเร็งเป็นโรคที่ใคร ๆ ก็คงกลัว หากมีวิธีที่จะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคนี้ได้ก็น่าปฏิบัติตาม ล่าสุดมีหลักฐานยืนยันว่าเพียงแค่การทานโยเกิร์ตก็ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งบางชนิดได้ โดยเฉพาะมะเร็งลำไส้ใหญ่

จากตัวเลขพบว่าจำนวนผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักรายใหม่ในกลุ่มคนที่มีอายุต่ำกว่า 55 ปีเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าทั่วโลกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยมีการวินิจฉัยเพิ่มขึ้นเกือบ 20% ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งวิทยาจะถูกถามบ่อย ๆ ว่าทำอย่างไรจึงจะลดความเสี่ยงลงได้ หลักฐานใหม่ชี้ว่าการทานโยเกิร์ตเป็นประจำอาจช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ชนิดรุนแรงบางประเภทได้ โดยปรับเปลี่ยนไมโครไบโอมในลำไส้ ซึ่งเป็นแบคทีเรียตามธรรมชาติที่อาศัยอยู่ในร่างกายเรานั่นเอง

ไมโครไบโอมในลำไส้มีอิทธิพลต่อการย่อยอาหาร การทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และแม้แต่ความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง โดยทั่วไปแล้ว สมดุลที่ดีของแบคทีเรียเหล่านี้ถือเป็นสิ่งจำเป็นในการรักษาระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงและป้องกันการอักเสบที่เป็นปัจจัยให้เกิดมะเร็งได้ โยเกิร์ตมีแบคทีเรียที่มีประโยชน์ที่มีชีวิต เช่น แลคโตบาซิลลัส บัลการิคัส และสเตรปโตค็อกคัส เทอร์โมฟิลัส ซึ่งช่วยรักษาสมดุลนี้ได้

การศึกษาพบว่าการทานโยเกิร์ต 2 ครั้งต่อสัปดาห์หรือมากกว่านั้นช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ชนิดรุนแรงซึ่งเกิดขึ้นที่ลำไส้ใหญ่ด้านขวา โดยการศึกษานี้ได้วิเคราะห์ข้อมูลจากผู้เข้าร่วมกว่า 150,000 รายเป็นเวลาหลายทศวรรษ แสดงให้เห็นว่าการทานโยเกิร์ตเป็นเวลานานอาจเปลี่ยนแปลงไมโครไบโอมในลำไส้ และช่วยป้องกันมะเร็งบางชนิดได้จริง

แม้ว่าโยเกิร์ตจะไม่ได้ช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งลำไส้ใหญ่ทุกประเภทโดยตรง แต่ข้อมูลชี้ว่าผู้ที่รับประทานโยเกิร์ต 2 ครั้งต่อสัปดาห์ขึ้นไปมีความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ส่วนต้นชนิดที่ตรวจพบบิฟิโดแบคทีเรียมด้วยน้อยลง มะเร็งดังกล่าวเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นที่ด้านขวาของลำไส้ใหญ่ และมีอัตราการรอดชีวิตต่ำที่สุดชนิดหนึ่ง

ที่มา ScienceAlert

วัชรกุล พัฒนาประทีป