ผู้ใช้งาน iPhone จะสามารถควบคุมเครื่องได้ผ่าน “ความคิด”

Synchron เป็นบริษัทแรกที่ประสบความสำเร็จในการผสานรวมระหว่าง brain-computer interface (BCI) เข้ากับอุปกรณ์ของ Apple ทำให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุม iPhone, iPad, Mac หรือ Apple Vision Pro ได้โดยตรงผ่านความคิดเท่านั้น

การพัฒนาการควบคุมอุปกรณ์ด้วยความคิดนั้นอาศัยการจับคู่กันระหว่าง Stentrode™ ซึ่งเป็นระบบฝังสมองของ Synchron กับโปรโตคอล BCI Human Interface Device (HID) ที่ Apple เพิ่งประกาศออกมา โดยกระบวนการนี้รองรับการป้อนข้อมูลผ่านสัญญาณของสมองได้แบบเนทีฟ เหมือนกับการที่เราเอานิ้วสัมผัส โดย ดร.ทอม ออกซ์ลีย์ (Dr. Tom Oxley) ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Synchron กล่าวว่าเมื่อ BCI ได้รับการยอมรับเป็นการอินพุตข้อมูลแบบเนทีฟบนอุปกรณ์ Apple ก็จะเป็นการเปิดโลกใหม่ให้กับผู้พิการได้

BCI ไม่ใช่แค่เครื่องมือสำหรับผู้พิการเท่านั้น แต่มันคืออินเทอร์เฟซแห่งอนาคต

ดร.ทอม ออกซ์ลีย์

การเชื่อมต่อลักษณะนี้ทำให้ Synchron สามารถเชื่อมต่อสมองและจิตใจกับอุปกรณ์ได้ ทำให้สามารถใช้งานอุปกรณ์ของ Apple ได้โดยไม่จำเป็นต้องสัมผัสที่ตัวอุปกรณ์ นับเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่มีความบกพร่องทางร่างกาย เช่น ALS โรคหลอดเลือดสมอง หรือการบาดเจ็บที่ไขสันหลัง ซึ่ง BCI จะทำงานร่วมกับฟีเจอร์ช่วยเหลือ (Accessibility) และแปลงข้อมูลจากระบบประสาทเข้าสู่อุปกรณ์ได้โดยตรง

ที่น่าสนใจคือ BCI มีความพิเศษจากอุปกรณ์ช่วยเหลือทั่ว ๆ ไปที่สามารถสื่อสารกับอุปกรณ์ได้แบบสองทาง (bidirectional) คือนอกจากจะส่งข้อมูลจากสมองไปที่อุปกรณ์ได้แล้ว ผู้ใช้งานก็สามารถรับข้อมูลจากอุปกรณ์เข้าสู่สมองผ่านการเชื่อมต่อนี้ได้เช่นเดียวกัน โดยระบบแบบปิดนี้ (closed-loop system) ยิ่งผู้ใช้โต้ตอบกับอุปกรณ์มากเท่าใด BCI ก็จะยิ่งฉลาดและเข้าใจผู้ใช้งานได้มากขึ้นเท่านั้น

ในงาน GTC 2025 หรืองาน AI ของ NVIDIA นั้น ทาง Synchron ได้เปิดตัวโมเดล Chiral ซึ่งเป็นโมเดลพื้นฐานการรับรู้ของมนุษย์ที่ได้รับการฝึกฝนโดยตรงจากข้อมูลของสมองจริง นับเป็นจุดเริ่มต้นของยุค Cognitive AI หรือ AI ที่สามารถเข้าใจความคิดของมนุษย์ได้

Chiral™ ขับเคลื่อนโดยแพลตฟอร์ม NVIDIA Holoscan และ Omniverse ซึ่งออกแบบมาให้เป็นโมเดลที่สามารถพัฒนาตัวเองได้ตามความตั้งใจของมนุษย์ Synchron ได้สาธิตการใช้งาน BCI ร่วมกับ Apple Vision Pro โดยไม่ต้องใช้คำสั่งท่าทางเลย แต่อุปกรณ์จะคอยติดตามการเคลื่อนไหวของดวงตาและถอดรหัสออกมาแบบเรียลไืทม์

มีผู้เข้าร่วมการทดสอบของ Synchron หลายคน BCI ทำให้ผู้เข้าร่วมทดสอบเหล่านี้สามารถกลับมาสื่อสาร แสดงความคิดสร้างสรรค์ และมีอิสระในการใช้งานอุปกรณ์ดิจิทัล โดย เคิร์ต แฮกก์สตรอม (Kurt Haggstrom) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์ของ Synchron กล่าวว่ากลุ่มผู้เข้ารับการทดลองส่วนใหญ่มีความต้องการด้านการสื่อสารและการแสดงความคิดสร้างสรรค์ออกมา ทำให้สามารถใช้งานอุปกรณ์ Apple ได้

การที่ Apple รับรู้ความต้องการและร่วมมือในการพัฒนานั้น แสดงให้เห็นว่าบริษัทให้ความสำคัญกับผู้ใช้งานมากขนาดไหน และทำให้ BCI กลายเป็นความจริงออกมา

เคิร์ต แฮกก์สตรอม

การทดลองทางคลินิกคาดว่าจะเริ่มต้นภายในปีนี้ โดยจะรองรับการใช้งานร่วมกับซอฟต์แวร์ของ Apple อย่าง iOS, iPadOS และ visionOS จะช่วยให้การนำออกมาใช้งานจริงได้เร็วขึ้น

ที่มา Designboom

วัชรกุล พัฒนาประทีป