Apple ยื่นอุทธรณ์กรณีสหภาพยุโรปบังคับให้ iOS แทบจะเป็นระบบเปิดเหมือน Android

Apple ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลยุโรปกรณีสหภาพยุโรปได้ออกคำสั่งให้บริษัทต้องเปิดกว้างระบบนิเวศของตัวเองให้บริษัทคู่แข่งอย่าง Meta และ Google มากขึ้น จาก่อนหน้านี้ที่สหภาพยุโรปได้บีบให้ Apple เปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB-C ใน iPhone และบังคับให้ iOS ต้องติดตั้ง App Store ของบริษัทอื่นได้

ในเคสล่าสุดนั้น Apple ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลยุโรปที่ทางสหภาพยุโรปได้ประกาศ โดย Apple จะต้องปรับระบบของ iOS ให้เป็นไปดังนี้

1. การแจ้งเตือน: อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับ iOS จะต้องได้รับการแจ้งเตือนจาก iOS และต้องสามารถสั่งการหรือตอบโต้ผ่านอุปกรณ์นั้น ๆ ได้ทันที ไม่ใช่กั๊กไว้แค่ Apple Watch
2. การทำงานเบื้องหลัง: iOS จะต้องอนุญาตให้อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับ iOS สามารถทำงานเบื้องหลังได้โดยไม่ต้องเปิดแอปพลิเคชันเอาไว้
3. การสลับเสียงอุปกรณ์อัตโนมัติ: ถือว่าเป็นฟีเจอร์เด่นของ AirPods ที่ผู้ใช้งานสามารถสลับเสียงได้โดยอัตโนมัติ โดย Apple จะต้องเปิดให้แบรนด์อื่นทำได้ด้วย
4. การเชื่อมต่อ Wi-Fi อัตโนมัติ: ทำให้อุปกรณ์สามารถเข้าถึงข้อมูล Wi-Fi ที่ iPhone เคยเชื่อมต่อเอาไว้โดยอัตโนมัติ
5. การจับคู่แบบง่าย: ฟีเจอร์เด่นของ AirPods คือเมื่อนำอุปกรณ์เข้ามาใกล้ ๆ จะทำให้จับคู่ได้ง่าย โดย Apple จะต้องขยายฟีเจอร์นี้ไปยังอุปกรณ์อื่นด้วย
6. peer-to-peer Wi-Fi: iOS จะต้องเปิดให้เชื่อมต่ออุปกรณ์อื่นแบบ Wi-Fi Direct สำหรับการโอนถ่ายข้อมูลขนาดใหญ่ได้
7. ไม่ผูกมัด AirDrop: Apple จะต้องทำให้ iOS มีทางเลือกในการแชร์ไฟล์ที่ไม่ผูกมัดเฉพาะแค่ AirDrop เท่านั้น
8. media Casting: Apple ห้ามจำกัดการแคสต์ตคอนเทนต์หรือซื้อเฉพาะ AirPlay เท่านั้น แต่ต้องมีทางเลือกอื่นด้วย
9. NFC Controller: อนุญาตให้แอปบน iPhone สามารถสื่อสารกับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ เช่น สมาร์ตวอตช์ เพื่อส่งข้อมูลต่าง ๆ โดยไม่ต้องมี iPhone อยู่ด้วยได้

ด้วยข้อบังคับดังกล่าวก็แทบจะเปลี่ยนให้ iOS กลายเป็นระบบเปิดแบบ Android แล้ว แน่นอนว่า Apple ต้องไม่ยอมง่าย ๆ โดยระบุว่าการบังคับดังกล่าวไม่สมเหตุสมผล

กระบวนการที่ไม่สมเหตุสมผล มีค่าใช้จ่ายสูง และยังเป็นการขัดขวางนวัตกรรมอีกด้วย

Apple

Apple ระบุว่ากฏเกณฑ์ลักษณะนี้พุ่งเป้ามาที่ Apple เท่านั้น บริษัทอื่นกลับไม่โดนข้อบังคับลักษณะเดียวกัน ข้อจำกัดดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์และฟีเจอร์ที่สร้างสรรค์ในยุโรปอย่างรุนแรง ส่งผลให้ประสบการณ์ผู้ใช้สำหรับลูกค้าในยุโรปต้องแย่ลงโดยเฉพาะเรื่องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย

การต่อสู้ทางกฎหมายอาจใช้เวลาหลายปีกว่าจะจบลง จนกว่าจะถึงเวลานั้น Apple จะต้องปฏิบัติตามคำสั่งของสหภาพยุโรปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ที่มา Reuters

วัชรกุล พัฒนาประทีป