Tesla โค่นค่ายรถจีน ระบบช่วยขับดีสุด แม้ไม่ใช้ข้อมูลจีนฝึกอบรม

dailygizmoCars2 weeks ago13 Views

THE SUMMARY:

Elon Musk ชูระบบของ Tesla เหนือกว่าคู่แข่งแบรนด์จีนทั้ง BYD, Xiaomi และ Huawei หลัง Dcar เผยผลทดสอบเทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่บนทางหลวงของจีน

การทดสอบครั้งนี้ทำขึ้นโดย Dcar หน่วยงานด้านยานยนต์ของ Bytedance ร่วมกับสถานีโทรทัศน์ CCTV เพื่อทดสอบเทคโนโลยีช่วยเหลือการขับระดับ 2 (ADAS) ของรถยนต์ไฟฟ้ากว่า 20 แบรนด์ที่ขายในจีนว่ามีประสิทธิภาพแค่ไหนใน สถานการณ์ต่างๆ ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ทั้งการขับขี่ในเมือง การขับขี่บนทางหลวง และการขับขี่กลางคืน

ผลการทดสอบพบว่า Tesla ทำคะแนนสูงสุดจากรถทั้งหมด 36 รุ่นเมื่อทดสอบบนทางหลวงจากรถยนต์ โดย Model 3 และ Model X ผ่านเกณฑ์ทั้งหมด 5 จาก 6 สถานการณ์ ในขณะที่ Denza Z9GT ของ BYD และ Aito M9 ไม่ผ่านการทดสอบ 3 สถานการณ์ ส่วน Xiaomi SU7 นั้นผ่านแค่สถานการณ์เดียวเท่านั้น

ทาง Elon Musk ได้โพสต์ลง X ขิงอีกว่า “เนื่องด้วยกฎหมายต่อต้านการส่งออกข้อมูล เทสลายังคงมีประสิทธิภาพสูงสุดในจีน แม้ว่าจะไม่ได้ใช้ข้อมูลการขับขี่ในจีนมาฝึกอบรม”

นี่ถือเป็นข้อจำกัดของเทสลา เนื่องจากสหรัฐฯ ไม่อนุญาตให้มีการฝึกอบรมซอฟต์แวร์ AI ของตนในจีน ในขณะเดียวกันก็พยายามขออนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลของจีนเพื่อถ่ายโอนข้อมูลที่บันทึกไว้ในเซี่ยงไฮ้กลับไปยังสหรัฐฯ เพื่อฝึกอบรมอัลกอริทึม

การทดสอบในครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลด้านความปลอดภัยของระบบ ADAS ในจีนที่เพิ่มมากขึ้นในจีน หลังจากเกิดอุบัติเหตุ Xiaomi SU7 บนทางหลวงทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 รายเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

ส่วนหนึ่งต้องโทษการโปรโมตเทคโนโลยีช่วยขับขี่ที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด ส่งผให้ผู้ขับขี่ใช้เทคโนโลยีนี้อย่างไม่เหมาะสม หน่วยงานภาครัฐจึงได้แบนห้ามใช้คำต่างๆ เช่น “การขับขี่อัจฉริยะ” และ “การขับขี่อัตโนมัติ” ในการทำตลาดฟีเจอร์ช่วยเหลือการขับขี่

นอกจากนั้นรัฐบาลจะกำหนดความรับผิดชอบทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีที่ยังไม่ถึงขั้นการขับขี่อัตโนมัติ รวมถึงเตือนผู้ขับขี่จะเผชิญกับความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและทางกฎหมาย หากเกิดอุบัติเหตุในขณะที่ระบบช่วยเหลือการขับขี่ทำงาน

ระบบช่วยเหลือการขับขี่ของเทสลาขายในจีนในราคาเกือบ 9,000 เหรียญหรือประมาณ 293,000 บาท ซึ่งเทคโนโลยีที่ใช้นั้นอาศัยแค่กล้องและ AI เท่านั้น ในขณะที่คู่แข่งอย่าง Xiaomi และ BYD ให้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แถมยังใช้เทคโนโลยี LiDar ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า นั่นทำให้เทสลาต้องเผชิญแรงกดดันอย่างหนัก

สะท้อนผ่านยอดขายเทสลาที่ผลิตในจีน ที่ยอดขายยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องทุกไตรมาส ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง ด้วยรถรุ่นใหม่ราคาประหยัดจากคู่แข่งในจีน

ที่มา reuters

นักเขียนสาย Introvert ที่ชื่นชอบเรื่องนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ ใช้เวลาว่างกับ มังงะ, เสียงเพลงและ idol

Advertisement

Sidebar Search
Popular Now
Loading

Signing-in 3 seconds...

Signing-up 3 seconds...